ตอนที่ 7 ร่วมเดินหมาก 2
“ข้าอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่เกี่ยวกับชอบมากหรือชอบน้อย” เจิ้งเสวี่ยหรงโบกมือถามตัดรำราญ “ว่าอย่างไร อยากร่วมมือกับข้าหรือไม่? รับรอง มีแต่ได้ไม่มีเสีย”
ในที่สุดชายหนุ่มก็ถามตามตรง
“เช่นนั้น แผนการขององค์หญิงคืออะไรพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าต้องการให้สองคนนั้นแยกจากกันโดยเร็วที่สุด”
ซ่งเหว่ยจงนิ่วหน้า “ตอนนี้พวกเขายังรักกันดี ทุกวันปกติสุขไร้เหตุจูงใจ หากจู่ๆ ถูกทำให้แตกแยก ไม่ว่าด้วยเหตุผลหรือเหตุการณ์ใดก็ตาม ย่อมยากจะเป็นไปได้ ยิ่งทำให้พวกเขารักกันแน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีก”
เจิ้งเสวี่ยหรงเลิกคิ้วโก่งขึ้นสูง ไม่นานพลันยิ้มเยาะ “เจ้าพูดเช่นนี้ เหมือนเคยทำมาแล้วแต่ไม่สำเร็จ”
ซ่งเหว่ยจงพลันสะอึก
ใช่! เขาเคยทำมาแล้ว เป็นการแอบทำลับหลัง ยุยงให้หญิงอื่นเข้าหาหยางหลิน หมายให้ลู่เฟยลี่เข้าใจผิดซึ่งแท้จริงสตรีเหล่านั้นต้องการเข้าหาหยางหลินอยู่แล้วเป็นทุนเดิม เขาแค่เปิดโอกาสให้นางเข้ามาได้ง่ายขึ้น
แต่แล้วผลลัพธ์กลับไม่เป็นใจ ซ้ำร้ายกลับทำให้พวกเขายิ่งรักกันแน่นแฟ้นมากขึ้นเสียอย่างนั้น
ลู่เฟยลี่มิใช่สตรีไร้เหตุผล ไม่เคยหึงหวงจนขาดสติ แค่หยางหลินอธิบายความจริง ลู่เฟยลี่ก็รับฟังทุกครั้ง
เป็นเช่นนั้นอยู่หลายคราจนเขาไม่อาจเปิดทางให้สตรีใดเข้ามาอีก ด้วยเกรงว่าจะถูกหยางหลินจับได้
เจิ้งเสวี่ยหรงมองเข้าไปในแววตาของซ่งเหว่ยจง แล้วนางก็พอคาดเดาได้ไม่ยากถึงแผนการตื้นเขินที่เขาทำ
“ข้ามีแผนการที่ดีกว่านั้น”
ซ่งเหว่ยจงช้อนตาขึ้นมองเป็นเชิงคำถาม
“เจ้าก็แค่สร้างความสัมพันธ์อันดีกับนางก่อน”
“กระหม่อมพยายามมาตลอด แต่ไม่เคยมีโอกาส พวกเขาอยู่ด้วยกันเสมอ ไม่มีช่องว่างให้ผู้ใดแทรกกลาง หรือต่อให้สบโอกาสก็ทำเรื่องเกินสหายไม่ง่ายเลยสักครา”
คนฟังเริ่มเห็นแล้วซึ่งความพยายามอันมากล้น นางนึกขัน “ข้าชักอยากรู้เสียแล้ว ลู่เฟยลี่ผู้นี้มีอันใดดีนักถึงได้มีบุรุษรุมชอบ หนึ่งในนั้นยังเป็นถึงบุรุษอันดับต้นๆและเป็นที่ชื่นชอบของสตรีทั้งเมือง”
นางเป็นถึงองค์หญิงแท้ๆ ยังไม่มีบุรุษใดมารุมชอบถึงขั้นอยากแย่งกันเยี่ยงนี้ แค่นบนอบตามฐานันดรเท่านั้น
ซ่งเหว่ยจงยิ้มเล็กน้อยขณะเอ่ยถึงลู่เฟยลี่ “นางเป็นสตรีที่น่ารักมีชีวิตชีวาแต่กลับสงบเยือกเย็นน่าค้นหา เปี่ยมเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์พ่ะย่ะค่ะ”
เจิ้งเสวี่ยหรงไหวไหล่ เอ่ยอย่างไม่ใส่ใจหรือให้ค่า “ไร้สาระ นางเป็นแค่แม่ค้าชั้นต่ำมิใช่หรือไร?”
วาจานี้ทำชายหนุ่มเงียบไปไม่ต่อความ แม้ลู่เฟยลี่ยามนี้เป็นเพียงแม่ค้าแต่นางก็เป็นบุตรสาวจากสกุลสูง มิใช่สตรีจากตระกูลพ่อค้าโดยกำเนิดเสียหน่อย
เจิ้งเสวี่ยหรงจึงว่า “ก่อนนี้เจ้าพยายามเข้าหานางแล้วแต่ไม่เป็นผลเพราะมีหยางหลินอยู่ข้างกาย แต่หากนางต้องเดินทางไกลไปเจรจาการค้าต่างเมืองนานๆ เล่า”
ซ่งเหว่ยจงทำท่าคิดตาม ในที่สุดก็ถามตามตรง
“เช่นนั้นแผนการขององค์หญิงคืออะไรพ่ะย่ะค่ะ”
แผนการถูกเปิดเผยออกมาเป็นฉากๆ อย่างไม่มีอาการกระดากปาก
ซ่งเหว่ยจงนิ่งฟังอย่างลังเลไม่แน่ใจ
ยิ่งไม่อาจเชื่อใจสตรีสูงศักดิ์ตรงหน้า การข้องเกี่ยวพัวพันกับเชื้อพระวงศ์อาจเอาชีวิตมาทิ้งเหมือนผักปลามิใช่หรือ? เขาไม่อยากตาย ยิ่งไม่อยากเห็นลู่เฟยลี่ตาย ซ่งเหว่ยจงเพิ่งรู้ตัวเองว่าเขารักนางอย่างจริงใจเพียงนี้
กระทั่งถึงที่สุด เจิ้งเสวี่ยหรงบอกยิ้มๆ
“เจ้าเพียงไปรอรับนางที่ใต้หน้าผา คอยทำตัวเองให้กลายเป็น ‘ผู้มีพระคุณช่วยชีวิต’ ให้นางติดค้างเจ้าจนต้องแต่งงานตอบแทน เป็นอย่างไร ข้าใจดีมากกระมัง ไม่คิดเอาชีวิตใครเลย ทุกคนอยู่ดีมีสุข ขอแค่หยางหลินเห็นลู่เฟยลี่รักกับเจ้าแล้วตัดใจเท่านั้น ทีนี้ เจ้าเชื่อใจข้า ยอมทำตามอย่างไร้เงื่อนไขได้แล้วกระมัง”
ดวงตาซ่งเหว่ยจงพลันทอประกายประหลาดวาบ
