ตอนที่ 8 แยกคู่รัก 1
ร้านเครื่องหอม หนึ่งในกิจการของลู่เฟยลี่
หญิงสาวนั่งอยู่ในห้องชั้นในของร้านซึ่งเป็นห้องสำหรับทำบัญชี นางนั่งอยู่ที่นี่ทั้งวันเพื่อสะสางพวกมัน โดยมีหยางหลินนั่งอ่านตำราเฝ้านางอยู่ไม่ห่าง
“ท่านนั่งเฝ้าข้าไม่เบื่อหรืออย่างไร?” ลู่เฟยลี่ถามขณะดีดลูกคิดไม่หยุด
“ไม่เบื่อ” ตอบพลางพลิกหน้าตำราอ่านเรื่อยเปื่อย ที่นี่มีหนังสือเยอะยิ่ง เห็นได้ชัดว่าลู่เฟยลี่ชอบอ่านเขียน
“วันนี้ท่านอาจารย์อุตส่าห์ได้หยุดเรียนหนึ่งวัน ไฉนไม่ไปเที่ยวกับเหล่าสหาย”
“ข้าไม่อยากเที่ยว อยากอยู่กับเจ้า”
“ตามใจ” ลู่เฟยลี่พลิกปิดหน้าบัญชีเล่มหนึ่งหยิบอีกเล่มหนึ่งมาเปิดแล้วดีดลูกคิดต่อ “เช่นนั้นข้าเสร็จเล่มนี้แล้วจะไปทำอาหารให้กิน รอไม่นาน”
“ไม่ต้องรีบ ข้ายังไม่หิว” ว่าแล้วก็ปิดตำรามองนาง “เหนื่อยหรือไม่? ข้าชงชาให้เจ้าดีกว่า”
“ไม่เหนื่อยหรอก แต่ได้ดื่มชาฝีมือท่านคงจะดี”
“อืม รอครู่เดียว”
จบคำก็ลุกขึ้นมาชงชาอย่างบรรจงพิถีพิถัน ฝึกฝนการเป็นสามีที่ดี คอยดูแลปรนนิบัติภรรยา
ลู่เฟยลี่เองก็เสร็จบัญชีอีกเล่มพอดีจึงลุกขึ้นมานั่งที่โต๊ะอีกฝั่งเพื่อรอชิมชาจากฝีมือของหยางหลิน
“วันนี้มีเทียบเชิญจากเมืองฮวาพ่อค้านามไป๋หานกับฮูหยินของเขาต้องการเจรจากับข้า พรุ่งนี้ต้องเดินทาง”
หยางหลินได้ยินพลันนิ่วหน้า “เร่งรีบปานนั้น”
“อืม ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดต้องรีบเช่นกัน”
“ส่งผู้ดูแลจ้าวไปแทนได้หรือไม่”
“ไม่ได้ พวกเขาระบุนามในเทียบเชิญว่าต้องเป็นข้า เห็นว่ามีเรื่องสำคัญ ให้ผู้อื่นตัดสินใจแทนไม่ได้”
คิ้วเข้มขมวดแน่นอย่างมิอาจควบคุมได้ ไม่รู้ทำไม หยางหลินรู้สึกไม่อยากให้นางไป แต่งานก็ต้องรับผิดชอบ ไหนเลยเอาแต่ใจตัวเองได้
เขาจึงว่า “เอาเช่นนี้ ข้าไปด้วย จะได้คอยดูแลเจ้า ดีหรือไม่?”
ลู่เฟยลี่ครุ่นคิดเล็กน้อย เดิมทีนางไม่เคยรบกวนให้หยางหลินติดตามข้างกาย แต่ครั้งนี้ ไฉนถึงรู้สึกว่าอยากให้เขาไปด้วยก็ไม่รู้ “อืม ก็ดี ไปด้วยกันเถอะ”
วันรุ่งขึ้น
หยางหลินที่พร้อมเดินทางไปค้าขายกับลู่เฟยลี่ กำลังก้าวเท้าขึ้นรถม้า กลับได้รับข่าวไม่สู้ดีจากบ่าวชายที่ถูกส่งมาจากจวนหยาง
“นายน้อย กลับโปรดจวนก่อนขอรับ”
เขาจึงถอนเท้าจากรถม้า หันคุยกับบ่าวของจวน ครู่หนึ่งก็ทำได้เพียงลงมาเปิดผ้าม่านคุยกับลู่เฟยลี่
“ไม่รู้เพราะเหตุใด จู่ๆ ท่านปู่ก็อาการป่วยกำเริบ”
หญิงสาวมุ่นคิ้วเล็กน้อยก่อนพยักหน้าอย่างเข้าใจ “เช่นนั้น ท่านรีบกลับจวนเถอะ ข้าไปกับผู้ดูแลจ้าวได้”
“แต่ว่า” หยางหลินรู้สึกกังวลแปลกๆ
และสีหน้าเช่นนั้น ลู่เฟยลี่ย่อมมองออก นางจึงว่า “ท่านอย่ากังวล ไม่ใช่ว่าข้าไม่เคยเดินทางไปเจรจาการค้าต่างเมืองเสียหน่อย ไม่กี่วันก็กลับ”
หลังจากเงียบอยู่ครู่ใหญ่ หยางหลินจึงพยักหน้า
“ได้ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่”
ตำหนักอี๋หลัน
ซินเยี่ยนเข้ามารายงานแก่องค์หญิงเสาหนิง “พ่อค้าไป๋หาน ตั้งแต่รับเงินไปก็ทำตามคำสั่งอย่างดี เขารับปากรั้งลู่เฟยลี่อยู่ให้นานที่สุด ทางนี้คนของเราวางยาท่านโหวผู้เฒ่าหยางจนอาการป่วยกำเริบทำให้คุณชายหยางมิอาจเดินทางเพคะ ยามนี้กลับจวนแล้ว”
“ดี ซ่งเหว่ยจงเล่า เดินทางตามนางไปหรือยัง”
“ทูลองค์หญิง ตามไปแล้วเพคะ”
เจิ้งเสวี่ยหรงแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจ ระหว่างนี้นางเพียงกระชับความสัมพันธ์กับหยางหลินให้แน่นแฟ้น สร้างวาสนาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาพยานทั่วแดน
คิดแล้วสั่ง “ไปเตรียมชุดที่สดใสเรียบง่ายมาเดี๋ยวนี้ ข้าจะแต่งตัวไปพบหยางหลิน ให้เขาพาเที่ยวรอบเมือง ผู้คนจะได้พบเห็นโดยทั่ว”
ซินเยี่ยนรับคำ “เพคะ พระองค์ทรงปราดเปรื่อง”
เมืองหนานซาน
ลู่เฟยลี่ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงเมืองแห่งนี้ เพียงแต่พอพบกับไป๋หานและไป๋ฮูหยินแล้วยังต้องไปพบปะกับคนของสมาคมการค้า
“นี่คือเรื่องเร่งด่วนที่พวกท่านว่าในเทียบหรือ?”
ไป๋หานพยักหน้าถี่ๆ “ใช่ๆ เรื่องนี้มีแต่แม่นางลู่ที่ตัดสินใจได้”
ไป๋ฮูหยินกล่าวเสริม “เจ้าก็รู้ คนของสมาคมการค้าไม่เจรจากับผู้น้อย ต้องเป็นเจ้าของกิจการเท่านั้น”
สามีภรรยาสกุลไป๋รบเร้าให้ลู่เฟยลี่ไปด้วยกันอย่างกระตือรือร้น
“นับเป็นการดีที่พวกเราจะได้เข้าร่วมการชุมนุมกับคนของสมาคมการค้าครั้งนี้” ฮูหยินไป๋ชักชวนไม่ขาดปาก
“ต้องเดินทางไปเมืองต้าไห่เลยหรือ?” ลู่เฟยลี่ถาม
“ใช่แล้ว ไม่ไกลหรอก สี่ห้าวันก็ถึงแล้วล่ะ มาเถอะ เข้ามาดื่มชากินขนมก่อน ข้าทำเองสุดฝีมือเชียว”
