บทที่ 6
เช้าวันจันทร์ ดารินออกมายืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนทำหน้าที่เป็นครูเวรประจำวันเหมือนกับทุกสัปดาห์ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกต่างออกไปจากทุกที เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของผู้ปกครองนักเรียนที่เคยทักทายอย่างเป็นกันเองมาตลอดแปลกไปจากที่เคย
“น้องริน ช่วยพี่ดูเอกสารโครงการอ่านออกหน่อยสิ”
เอมอรเดินเข้ามาหาหญิงสาวรุ่นน้องด้วยสีหน้าไม่ดีนัก ตั้งแต่เธอเหยียบเท้าเข้าโรงเรียน ข่าวลือเรื่องส่วนตัวของดารินก็ลอยเข้าหูทันที
หลังจากเก็บของเสร็จจึงรีบเดินไปหาอีกฝ่ายที่ยังคงทำหน้าที่ครูเวรอยู่หน้าประตูโรงเรียนกับครูคนอื่น ๆ ด้วยความ
เป็นห่วง แค่เห็นสีหน้าของดารินเอมอรก็รู้ได้ในทันทีว่าเจ้าตัวคงจะยังไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแน่
“หืม”
“ครูหนุ่ยพี่ยืมตัวน้องรินก่อนนะ”
“ครับ เชิญครับพี่เอม”
ด้วยความที่เอมอรเป็นครูอาวุโส จึงไม่มีใครกล้าขัด จากนั้นเอมอรก็จับมือพาดารินเดินออกมาจากตรงนั้นทันที
ดารินงงหนักเกือบจะเอ่ยแย้งออกไปเพราะเธอไม่ใช่ผู้รับผิดชอบโครงการนี้ แต่เมื่อสังเกตสีหน้าของเอมอรแล้วก็ได้แต่เงียบแล้วยอมเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในโรงเรียนแต่โดยดี
“รินพอจะรู้เรื่องข่าวลือบ้างมั้ย”
เมื่ออยู่กันตามลำพังแล้ว คนแก่กว่าก็เข้าเรื่องทันที เรื่องแบบนี้มันสร้างความเสียหายให้ดารินมากเกินไปแล้ว
“ข่าวอะไรคะ”
ใบหน้าของดารินเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม เอมอรเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียดอย่างกลุ้มใจ ก่อนจะเปิดหน้าแชทเจ้าปัญหาแล้วยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองให้คนตรงหน้าดู
!!!
ภาพแชทกลุ่มของครูในโรงเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มทางการกำลังคุยกันเรื่องของเธอ แม้มองผ่าน ๆ แต่เนื้อหาพวกนั้นทำเอาดารินชาทั่วตัว ร่างเล็กสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง ยิ่งเห็นว่าทุกคนต่างก็ตัดสินกันไปแล้วว่าเธอเองต่างหากที่เป็นมือที่สามของกฤตินซึ่งอีกฝ่ายซ่อนเอาไว้ ส่วนเบญจานั้นคือตัวจริงเพราะเปิดตัวให้คนอื่นรู้กันทั่ว
“ไม่ต้องอ่านแล้ว”
ท่าทางช็อคหนักของดารินทำเอาเอมอรนึกเป็นห่วงรีบดึงโทรศัพท์ของตนกลับคืนมา
“ไม่ต้องไปสนใจคำพูดไร้สาระของคนพวกนี้หรอกนะ พี่ให้รินดูก็เพราะรินจะได้รู้ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วพี่ก็เชื่อว่ารินไม่ได้เป็นอย่างที่พวกนั้นพูด”
“รินเข้าใจพี่ค่ะ รินก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมวันนี้คนถึงได้มองรินแปลก ๆ ”
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งหญิงสาวก็นึกคำพูดออก เธอไม่แคร์อยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง เธอห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้อยู่แล้ว แต่ที่เธอสนใจก็คือพ่อแม่ของเธอจะเป็นอย่างไรมากกว่า ทั้งสองคนไม่ได้ทำอะไรผิดและตัวเธอเองก็ไม่ได้ทำอะไรผิด เหตุใดจึงต้องมาถูกคนว่าร้ายในสิ่งที่ไม่ได้ทำด้วย
“ว่าแต่เราโอเคใช่มั้ย ถ้ายังไงวันนี้จะลากลับไปพักก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวพี่จะจัดตารางสอนแทนให้”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เอม ถ้ารินหลบหน้าไปก็เท่ากับยอมรับว่าเรื่องที่คนพูดกันเป็นเรื่องจริงสิคะ พี่เอมเชื่อรินนะคะ รินโอเคมาก ไม่เป็นอะไรจริง ๆ ขอบคุณพี่เอมมากนะคะ”
“ดีแล้วล่ะ เราเข้มแข็งกว่าที่พี่คิดอีกนะเนี่ย”
หญิงต่างวัยทั้งสองส่งยิ้มให้กัน ก่อนที่ดารินจะขอตัวออกไปจากห้องทำงานของเอมอรเมื่อถึงเวลาที่นักเรียนจะเข้าแถวเคารพธงชาติตอนเช้าพอดี
ดารินพยายามไม่สนใจสายตาของเพื่อนครูในโรงเรียนและทำหน้าที่ของตนให้ดีเช่นเคยจนหมดวัน โดยทุ่มเวลาทั้งหมดให้กับนักเรียนและงานที่ตัวเองต้องรับผิดชอบ แม้ว่าจะไม่ง่ายนักก็ตาม
“ไงยัยริน ถ้าฉันไม่หูตากว้างไกลจะรู้มั้ยเนี่ยว่าเพื่อนตัวเองกลายเป็นท็อปปิกของคนในอำเภอไปแล้ว”
ทันทีที่ดารินกดรับสายเสียงแหลมของลิลลี่ก็ดังลอดเข้ามาตามสาย หลังจากรอให้เวลาถึงสี่โมงเย็นจนแน่ใจแล้วว่าเพื่อนสนิทของตนนั้นเลิกงานแล้วก็กดโทรมาหาทันที
“โอ้โห ลิลลี่แกเป็นนักข่าวเถอะนะแบบนี้”
