ตอนที่ ๓ ความบังเอิญ
“ เราขอบใจท่านมากหนาพระกันตะ เรามิรู้ว่าจักตอบแทนท่านอย่างไรดี..”
พระอนันตะเวหาเอ่ยกับสหายรัก กษัตริย์เมืองสินธุ เมืองครุฑแดนทักษิณ
“ ตอบแทนอันใดกันพระอนันตะ ท่านอย่าลืมว่าเราคือสหายรักกัน มิว่าเกิดอันใดขึ้นเราจักมาช่วยท่านเสมอ ” พระกันตะเวหาว่าขึ้นอย่างจริงใจ
“ อย่างไรข้าก็ต้องขอบใจท่าน พระกันตะ .. ลุงต้องขอโทษเจ้าด้วยหนาพระมหิงส์ ที่น้อง....” พระอนันตะเวหาหันไปเอ่ยกับพระมหิงส์ด้วยแววตาที่รู้สึกผิด
“ ท่านลุงมิต้องคิดมากดอกพระพุทธเจ้าข้า แลท่านลุงมิต้องห่วง ว่าข้าจักโกรธเคืองน้อง ในเมื่อน้องเลือกแล้ว ข้าก็ยินดีกับน้องด้วยพระพุทธเจ้าข้า ”
พระมหิงส์ตอบออกมาด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจัง เพราะตนไม่ได้โกรธเคืองครุฑีน้อยอย่างที่พูดจริง ๆ
...แต่กับพระสุวรรณเมฆากษัตริย์ยักษ์ตนนั้น ก็ไม่แน่!
“ ขอบใจมากนะลูกพระมหิงส์ ที่เอ็นดูน้อง แลยังมิโกรธเคืองอีก.. ”
“ ข้ามิเคยคิดโกรธเคืองน้องนิศามณีจริง ๆ พระพุทธเจ้าข้าท่านลุง ”
“ ลุงขอบใจนะลูก พระมหิงส์..”
สองมือหนาของพระอนันตะเวหายื่นไปโอบไหล่พญาครุฑหนุ่มเอาไว้ ด้วยแววตาที่บ่งบอกว่ารู้สึกผิดและเสียดายไม่น้อย ที่ไม่ได้เขามาเป็นราชบุตรเขย
หลังจากอำลาพระอนันตะเวหาและพระมเหสีสินิลตาเรียบร้อยแล้ว กองทัพหลวงของเมืองสินธุก็ออกเดินทางกลับดินแดนทักษิณทันที
.
.
.
เดือนต่อมา
ณ ดินแดนอันไกลโพ้น ที่อยู่ท่ามกลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เป็นอาณาจักรแห่งครุฑแดนทักษิณ ดินแดนแห่งนี้ประดับประดาไปด้วยดอกไม้สีสันสดใส อันวิจิตรงดงามและน่าหลงใหล
อีกทั้งยังมีหมู่เกาะน้อยใหญ่ มากมายเหลือคณานับ มองเห็นทิวทัศน์ที่งดงามจนน่าทึ่ง แมกไม้เขียวขจีไปจนถึงน้ำทะเลสีครามที่สะท้อนกับดวงอาทิตย์ ส่องแสงพร่างพราว ระยิบระยับ ดั่งประจักษ์แจ้งถึงความรุ่งเรืองของถิ่นฐาน
เมืองสินธุ คือเมืองที่อยู่บนเกาะใหญ่กลางทะเล ปกครองโดยพญาครุฑนามว่าพระกันตะเวหา
.
.
“ ออกไปให้หมด!! ” น้ำเสียงตะคอกอย่างมิพอใจที่มาพร้อมกับแววตาดุดันของพระกันตะเวหา เมื่อเห็นครุฑีสาวสองนางกำลังคลอเคลียอยู่กับพระมหิงส์เวหะโอรสของตน ทำเอาครุฑีสาวทั้งสองต้องสะดุ้งตกใจจนตัวสั่น
“ เพคะองค์เหนือหัว / เพคะองค์เหนือหัว ”
พลันรีบขานรับพระบัญชาแล้วรีบออกมาทันที พระมหิงส์เวหะจ้องมองพระบิดาพลางกรอกตาบนเล็กน้อย พระกันตะเวหาจับจ้องโอรสของตนนิ่ง ก่อนจะถอนลมหายใจออกมาราวกับเบื่อหน่ายเต็มทน
เพราะหลังจากที่กลับมาจากเมืองเวหาศ พระมหิงส์เวหะก็เอาแต่ดื่มน้ำจัณฑ์และเสพสังวาสกับเหล่าครุฑีสาว ที่ทหารครุฑาคู่ใจนั้นจัดหามาให้ หวังเพื่อให้ราชโอรสของตนนั้นได้ผ่อนคลาย จะได้ลืมเรื่องของอดีตพระคู่หมั้น
พระกันตะเวหาก็พยายามจะเข้าใจพระมหิงส์เวหะ จึงมิได้ห้ามปรามอันใด ..แต่หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ก็คงจักมิดีแน่
“ ท่านพ่อมีเรื่องอันใดจักพูดกับลูกหรือพระพุทธเจ้าข้า? ”
เป็นพญาครุฑหนุ่มที่เอ่ยถามขึ้นมาก่อนเมื่อเห็นว่าพระบิดาของตนยังคงนิ่งเงียบ และก็ได้รับคำตอบกลับมา
“ พ่อใคร่จักให้เจ้า เข้าพิธีสยมพรโดยเร็ว..”
เนื่องจากพระกันตะเวหาต้องการสละราชบัลลังก์ให้แก่พระราชโอรสของตนได้ปกครองต่อ แต่ติดที่พระองค์อยากให้พระมหิงส์เวหะมีคู่ครองเสียก่อน
“ ลูกยังมิพร้อมจักมีเมียพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ” พระมหิงส์เวหะตอบ
“ พ่อว่าลูกควรที่จักมีชายาได้แล้วหนา ลูกจักได้ลืมเรื่องนิศามณีได้เสียที.. ” เพราะพระกันตะเวหาคิดว่าโอรสของตน ยังคงไม่ลืมอดีตพระคู่หมั้น
“ ลูกคิดว่า ลูกทำใจเรื่องน้องนิศามณีได้แล้วพระพุทธเจ้าข้า ท่านพ่อ เพลานี้ลูกมิได้รู้สึกเจ็บปวดอันใดแล้ว ”
พญาครุฑหนุ่มตอบพระบิดาด้วยสีนหน้าเรียบเฉย พลันเกิดคำถามขึ้นภายในใจ ‘ แปลกจริง ความเจ็บปวดความทรมานที่ข้าเคยเป็น มันหายไปตั้งแต่เมื่อใดกัน? ’
“ เจ้าแน่ใจหรือพระมหิงส์ ว่าทำใจเรื่องน้องได้แล้วจริง ๆ หนะ? ”
“ ลูกแน่ใจพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ” พระมหิงส์เวหะยืนยันคำตอบกับพระบิดาน้ำเสียงหนักแน่น
“ เช่นนี้แล้ว เหตุใดลูกถึงมิยอมเข้าพิธีสยมพรเล่า ”
“ ลูกขอเพลาพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ลูกยังมิพร้อมที่จักมีเมียในเพลานี้จริง ๆ ”
“ เช่นนั้นก็แล้วแต่ลูกเถิดหนา พ่อก็มิได้จักบังคับเจ้าดอก เอาไว้เจ้าพร้อมเมื่อใดค่อยว่ากัน ” พระกันตะเวหาว่า
“ พระพุทธเจ้าข้า ”
“ ...พระมหิงส์ ” พระกันตะเวหาเอ่ยเรียกโอรสของตนเบา ๆ อย่างชั่งใจกับสิ่งที่กำลังจะพูด
“ มีอันใดหรือพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ..” พญาครุฑหนุ่มเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของพระบิดา
“ วันก่อนมีราชสาส์นจากเมืองเวหาศส่งมา เป็นเทียบเชิญให้เราไปร่วมงานอภิเษกสมรสของนิศามณีกับพระสุวรรณเมฆา ” แม้จะไม่แน่ใจว่าโอรสของตนลืมครุฑีน้อยได้แล้วจริงหรือไม่ แต่ก็คงจะต้องบอก
“........”
ได้ยินเช่นนั้น พระมหิงส์เวหะนิ่งเงียบไป ก่อนที่พระกันตะเวหาจะพูดต่อ
“ งานอภิเษกสมรสของน้องจักถูกจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันนี้แล้วที่เมืองพนาราพณ์ เจ้าจักว่าอย่างไร ..จักไปร่วมอวยพรให้น้องหรือไม่เล่า? ” พระมหิงส์เวหะนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบพระบิดาไปด้วยน้ำเสียงปกติ
“...ลูกจักไปร่วมงานของน้องพระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ ลูกใคร่จักไปร่วมอวยพรให้น้องนิศามณี.. ”
“ อืม.. เช่นนั้นก็เตรียมตัวไว้ให้พร้อม วันมะรืนนี้เราจักออกเดินทางไปเมืองพนาราพณ์กัน ”
“ พระพุทธเจ้าข้าท่านพ่อ..”
.
.
.
เมืองพนาราพณ์
งานอภิเษกสมรสของพระสุวรรณเมฆากับนิศามณี ได้ถูกจัดขึ้นภายในเมืองพนาราพณ์ ..เนื่องจากพื้นที่ของคีรีลอยฟ้านั้นไม่สามารถที่จะรองรับแขกเหรื่อจำนวนมากได้ จำต้องจัดงานขึ้นที่เมืองพนาราพณ์แทน
บรรยากาศในงานอภิเษกสมรสนั้น สุดจะน่าหลงใหลยิ่ง บริเวณทั่วทั้งงานเต็มไปด้วยความงดงาม น่าตื่นตาตื่นใจ และยิ่งใหญ่อาลังกา ร แขกเหรื่อที่ได้รับเชิญมางานนี้ต่างก็ชื่นชมกันทั้งสิ้น
แขกเหรื่อมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เทพบุตร(เทวดา) นางอัปสรสวรรค์(นางฟ้า) รวมถึงกษัตริย์และเชื้อพระวงษ์จากเมืองต่าง ๆ มีทั้ง ยักษ์ ครุฑ คนธรรพ์ และ มนุษย์
และแต่ละเผ่าพันธุ์ ต่างก็แต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายตามพระยศ ยิ่งดูงดงามตระการตานัก ในท้องพระโรงตกแต่งไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด สวยงามจนน่าทึ่ง
บรรยากาศแสนอัศจรรย์ยิ่ง มีเสียงหัวเราะและเสียงพูดคุยอันร่าเริง สร้างสรรบรรยากาศแห่งความสุข
มีเสียงดนตรีอันไพเราะจากมโหรีวงใหญ่ขับกล่อมเบา ๆ ไปทั่วทั้งงาน ช่างเป็นบรรยากาศการเฉลิมฉลองที่สุดแสนวิเศษและ ยิ่งใหญ่อลังการ ทำให้แขกเหรื่อที่เชิญมาต่างรู้สึกทึ่งและชื่นชมยินดี
“ พี่ยินดีด้วยหนา ขอให้น้องมีความสุขกับชีวิตคู่ ” พระมหิงส์เวหะกล่าวคำอวยพรให้ครุฑีน้อยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ”
“ สำหรับท่านจงจำไว้ หากวันใดทำให้น้องสาวของข้าเสียใจข้าจักมารับตัวนางคืน ”
พญาครุฑหนุ่มหันไปจ้องสบตากับพระสุวรรณเมฆานิ่งก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงเข้ม
“ หึ.. ท่านมิต้องห่วงดอก ข้าจักมิมีวันทำให้นิศามณีเสียใจอย่างแน่นอน นางคือดวงใจของข้า..”
พระสุวรรณเมฆาหัวเราะในลำคอ มือหนาส่งไปกอบกุมมือเล็กของเมียรักเอาไว้พลางสบตากัน ก่อนจะหันไปตอบพญาครุฑหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจัง
“ น้องดีใจเหลือเกิน.. ที่เจ้าพี่พระมหิงส์มาร่วมอวยพรให้น้องเจ้าค่ะ..” ครุฑีน้อยพูดขึ้น
“ พี่จักต้องมาอยู่แล้ว.. ก็ในเมื่อเพลานี้เจ้าเป็นน้องสาวของพี่แล้วนี่... ” มาถึงตรงนี้พระมหิงส์เวหะก็หยุดพูด เมื่อดวงตาเฉียบคมของพญาครุฑหนุ่ม บังเอิญเหลือบไปเห็นนางอัปสรน้อยตนหนึ่ง ที่ดูคุ้นตา
มุมปากหยักกระตุกยิ้มน้อย ๆ ออกมา ก่อนจะหันกลับมาพูดกับครุฑีน้อยต่ออย่างใจเย็น
“ จริงหรือไม่เล่า? ” คำพูดของพระมหิงส์เวหะทำให้นิศามณีเผยรอยยิ้มดีใจออกมา
“ เจ้าค่ะ..” ครุฑีน้อยตอบพญาครุฑหนุ่มด้วยรอยยิ้ม
ดูเหมือนว่าการพบเจอกันในครั้งนี้ พระมหิงส์เวหะดูจะทำใจได้แล้ว มันทำให้ครุฑีน้อยรู้สึกสบายใจขึ้นมาก
______?______
ขอคนละ 1 คอมเม้นท์ เพื่อเป้นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า
