บท
ตั้งค่า

8 ติดค้างน้ำใจ

“ระหว่างเรา เอ่อ....เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า” เขาเอ่ยเสียงเบา

“ท่านอ๋องเป็นคนกตัญญูย่อมต้องทำทุกอย่างเพื่อไท่เฟยอยู่แล้วเจ้าค่ะ อย่าได้โทษตนเองเลย เป็นข้าเองที่ไร้วาสนา”

“ความจริงเรื่องระหว่างเรา ข้าก็ยินดีจะทำตามที่ท่านพ่อท่านแม่ต้องการ เพียงแต่...เจ้าก็เห็นแล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นล้วนเป็นเหตุสุดวิสัย”

“ข้าทราบเจ้าค่ะว่าท่านอ๋องแต่งงานเพราะความจำเป็น” ใบหน้างดงามของเซียวหว่านหม่นเศร้า ท่าทางของนางช่างดูอ่อนแอบอบบางนัก

หยางหลีเหว่ยได้แต่ยิ้มอย่างจนใจ เขาไม่อาจจะเข้าไปปลอบโยนนางได้เพราะต่างฝ่ายต่างมีคู่แล้ว เขาเองก็ต้องให้เกียรติตนเองและต้องระวังชื่อเสียงของนางด้วย “เจ้ารู้ก็ดีแล้ว ข้าต้องขอโทษที่ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าเสียหาย”

เซียวหว่านเงยหน้าขึ้น “ข้าเองก็จำเป็นเช่นกันเจ้าค่ะ คนทั้งเมืองหลวงพากันพูดเรื่องที่ท่านอ๋องจะแต่งงานกับคุณหนูรองหลี่ ข้าไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ท่านพ่อกับท่านแม่ก็พลอยทุกข์ใจไปด้วย ช่วงนั้นคุณชายซางมาขอหมั้นพอดี ท่านพ่อของข้าเห็นว่าเป็นหนทางจะปิดปากผู้คนเอาไว้ได้จึงบีบบังคับให้ข้ารับหมั้นเขาเจ้าค่ะ”

หยางหลีเหว่ยค้อมถอนหายใจ เขาได้ยินจากซ่งสวินว่าซางฮ่าวอวี่ผู้นั้นมิใช่คนดี นอกจากจะมีสาวใช้ข้างห้องอยู่แล้วถึงสองคน ยังเลี้ยงสตรีเอาไว้นอกจวนอีก แต่จะพูดออกไปก็ใช่ที่ ยามนี้เซียวหว่านมิใช่สตรีที่เขาต้องแสดงความรับผิดชอบแล้ว

“ที่ข้าออกมาพบเจ้าก็เพราะอยากขอโทษเจ้าต่อหน้า ก่อนหน้านี้ข้าพยายามไปสานสัมพันธ์กับเจ้าจริงๆ และทำให้เจ้าต้องขายหน้า นับว่าเป็นความผิดของข้า”

“เรื่องนี้ หาใช่ความผิดของท่านไม่ เป็นข้าที่คิดไปเองเจ้าค่ะ” นางเถียงเสียงอ่อยๆ ดวงตายังคงแดงก่ำ

“อย่าได้กล่าวเช่นนั้น ความตั้งใจเดิมของข้า เจ้าเองก็ย่อมรู้ แต่สวรรค์มิได้ลิขิตมาให้เราสองคนเป็นคู่กัน ทุกอย่างจึงกลายเป็นเช่นนี้”

“มิใช่เป็นเพราะนางหรอกหรือเจ้าคะ”

หยางหลีเหว่ยชะงัก นึกถึงใบหน้าของหลี่หยวนหยวนขึ้นมา ก่อนหน้านี้เขารู้สึกว่านางน่ารำคาญเหลือแสน ทว่าหลังแต่งงานกันมาถึงวันนี้เป็นวันที่ห้า ท่าทีของนางกลับแปลกไปราวกับเป็นคนละคน

ก่อนหน้านี้หยางหลีเหว่ยเกลียดหลี่หยวนหยวนที่หลงใหลในตัวเขามาก นางต้องการแต่งงานกับเขาจนใช้ความตายของมารดาของเขามาบีบบังคับ แต่พอได้ยินคำพูดกล่าวโทษนางออกจากปากผู้อื่นเขากลับรู้สึกไม่เห็นด้วย

“อันที่จริง จะโทษว่าเป็นความผิดของนางทั้งหมดก็ไม่ได้ หากว่าท่านแม่ของข้าไม่เป็นโรคประหลาดนั่น ข้าก็คงไม่ต้องถูกท่านป๋อหลี่บีบบังคับ”

เซียวหว่านถอนหายใจ เขาพูดเช่นนี้ นางจะกล่าวโทษมารดาของเขาได้หรือ หญิงสาวได้แต่หลับตาปริบๆ พลันหยางหลีเหว่ยก็เอ่ยต่อ

“คงเป็นเพราะสวรรค์ไม่มอบหนทางแก้ไขอื่น จงใจส่งข้าไปอยู่ในเงื้อมมือของคนสกุลหลี่”

เซียวหว่านได้ยินหยางหลีเหว่ยเข้าข้างหลี่หยวนหยวนก็นิ่งไปอึดใจหนึ่ง นางจึงนึกได้ว่าการโจมตีศัตรูโดยเปิดเผยเช่นนี้อาจไม่เหมาะสม ควรเปลี่ยนไปใช้กลยุทธ์เหยื่อเพื่อเรียกความสงสารเห็นใจจะดีกว่า

“ท่านอ๋องเจ้าคะ เป็นชะตาของข้าเองที่อาภัพ ข้าไร้ความสามารถ ไม่อาจจะช่วยเหลือท่านอ๋องและไท่เฟยในยามยากลำบาก ทำให้พวกท่านต้องถูกผู้อื่นทำให้คับแค้นใจ”

หยางหลีเหว่ยมองสตรีตรงหน้าแล้วรู้สึกว่าตนเองยิ่งพยายามอธิบายเรื่องราวก็ยิ่งแย่ เขาไม่ได้ต้องการให้นางโทษตนเองหรือโทษเขาอีกต่อไป เรื่องระหว่างเขากับนางยังมิได้ถึงขั้นผู้หลักผู้ใหญ่มาพูดคุยตกลงกันเลยด้วยซ้ำ

บิดาของเขาก็เพียงเห็นว่านางเป็นตัวเลือกที่ดีจึงเปรยบอกมารดาของเขาไว้ตั้งแต่ยังไม่สิ้นชีพในสนามรบ บัดนี้เขากับนางมีอันต้องคลาดคลา เขาเห็นว่าตนเองเคยพยายามสานสัมพันธ์ทำให้เกิดข่าวลือกันไปว่าเขากับนางผูกสมัครรักใคร่ พอเขาต้องแต่งกับผู้อื่น นางจึงพลอยเสียชื่อเสียง ส่วนหนึ่งของความเดือดร้อนของนาง มีเขาร่วมอยู่ด้วยจึงต้องการจะขอโทษ

แต่ส่วนที่นางเสียอกเสียใจจนล้มป่วยนั้น เขาไม่รู้เลยว่านางปักใจในตัวเขามากเพียงนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเขายังไม่เคยมอบของขวัญแทนใจให้นางเลยสักชิ้น กระทั่งอักษรสักตัวก็ยังไม่เคยเขียนถึง

“นั่นมิได้ขึ้นอยู่กับเจ้า อาการป่วยของท่านแม่เป็นสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดได้ ข้าเองก็ยิ่งคาดไม่ถึงว่าการรักษา มีเพียงต้องใช้ยาสูตรลับของสกุลหลี่ ข้าได้พยายามทุกหนทางแล้ว แต่ไร้ผล จึงจำต้องยอมทำตามเงื่อนไขของท่านป๋อหลี่” สายตาของหยางหลีเหว่ยแข็งกร้าวขึ้นเมื่อพูดถึงตรงนี้

“น่าเศร้ายิ่งนักที่สกุลของข้ามิได้มีสูตรยาลับที่จะช่วยเหลือไท่เฟยได้ ต้องปล่อยให้ท่านถูกคนสกุลหลี่ข่มเหงรังแก”

“เจ้าอย่าโทษตนเองอีกเลย ข้าได้รู้ว่าเจ้าเองก็ทุกข์ใจจนล้มป่วย ย่อมเป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า ทำให้เจ้าคาดหวังและรอคอย สุดท้ายก็ทำให้เจ้าไม่สมหวัง” ชายหนุ่มพยายามกล่าวปลอบใจนาง เขาอยากให้นางกับเขาจากกันด้วยดี ไม่ต้องมีสิ่งติดค้างในใจ

นางเงยหน้า สบตาเขานิ่ง “ท่านอ๋อง ข้ารู้ว่าท่านเองก็ไร้สุขที่ต้องแต่งงานกับสตรีอย่างนาง”

หยางหลีเหว่ยนิ่งไป ยามนี้เซียวหว่านหมั้นหมายกับผู้อื่นแล้ว หากเขากับนางมามัวคร่ำครวญอยู่ด้วยกัน เกรงว่าผู้อื่นมาได้ยินจะคิดว่าเขาอยากแย่งชิงภรรยาผู้อื่น

“ช่างเถิด ทุกอย่างผ่านไปแล้ว เจ้าเองก็หมั้นหมายกับคุณชายซางแล้ว อันที่จริง เรื่องระหว่างเรา ยังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ จากนี้ไปก็อย่ารื้อฟื้นเลยดีกว่า”

เซียวหว่านไหนเลยจะยอมให้หยางหลีเหว่ยจบเรื่องระหว่างเขากับนางไว้เพียงเท่านี้ “ท่านอ๋องเจ้าค่ะ ความจริงข้ายังมีเรื่องหนักใจมากอยู่เรื่องหนึ่ง”

“เจ้าพูดมาเถิด หากมีสิ่งใดที่ข้าช่วยเหลือได้ ข้าก็ยินดี”

“เจ้าค่ะ” นางนิ่งไปครู่หนึ่ง “ข้าเป็นเพียงสตรีในห้องหอ ไหนเลยจะรู้จักบุรุษได้เท่าบุรุษ หากท่านอ๋องเมตตา ก็โปรดช่วยดูให้ข้าทีเถิดว่าคุณชายซางผู้นี้ ข้าสมควรจะฝากชีวิตด้วยหรือไม่”

คำพูดของเซียวหว่านทำให้หยางหลีเหว่ยนิ่งไป หากว่าเขาพูดความจริงเกี่ยวกับซางฮ่าวอวี่ออกไปก็อาจทำลายบุบเพสันนิวาสของนางอีกคราหนึ่ง สตรีที่ถูกเขาละทิ้งไปแต่งกับผู้อื่น ไหนเลยจะทนรับการถอนหมั้นได้

“ข้าจะช่วยเจ้าดูก็แล้วกัน”

เซียวหว่านค้อมศีรษะยิ้มงดงามให้เขา “ขอบคุณท่านอ๋องมากเจ้าค่ะ”

“ยามนี้ท่านแม่ของข้าก็อาการดีขึ้นมากแล้ว อีกไม่นานข้าก็จะพาท่านแม่เดินทางกลับเมืองเฉินม่าย”

เซียวหว่านชะงัก “แล้ว...นางเล่า”

หยางหลีเหว่ยเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย “ในเมื่อข้าทำตามสัญญากับบิดาของนางครบแล้ว ต่อไปก็ย่อมไม่เกี่ยวข้องกันเฉกเช่นน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง”

“ท่านอ๋องไม่คิดจะหย่านางหรือเจ้าคะ”

“ข้าไม่ได้เต็มใจแต่งงานกับนาง ย่อมต้องการหย่าอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่อาจจะทำในยามนี้ได้”

ชายหนุ่มชะงัก เขาพลันคิดได้ว่าตนเองพูดเช่นนี้คล้ายชี้ชวนให้เซียวหว่านรอให้เขาหย่าร้างจากหลี่หยวนหยวน เขาเองยังไม่แน่ใจว่าจะจัดการเรื่องของหลี่หยวนหยวนได้อย่างหมดจดเมื่อใด หากเซียวหว่านเกิดมีความหวังกับเขาขึ้นมาแล้วถอนหมั้นจากซางฮ่าวอวี่ เขาย่อมต้องรับผิดชอบนาง

….การให้ความหวังเช่นนี้ หากเซียวหว่านเกิดผิดหวังอีกครา ต่อให้เขากระโดดลงแม่น้ำฮวงโหก็คงล้างมลทินได้ไม่หมด…

“ข้าไม่ควรพูดเรื่องในครอบครัวให้เจ้าพลอยไม่สบายใจไปด้วย ช่างเถิด เรื่องของวันหน้าอย่าเพิ่งไปคิดจะดีกว่า”

เซียวหว่านได้ยินว่าเขาต้องการหย่ากับหลี่หยวนหยวนก็ใจชื้นขึ้นมา บุรุษผู้นี้รู้สึกผิดที่ทำให้ชื่อเสียงของนางด่างพร้อย หากวันใดเขาหย่ากับหลี่หยวนหยวนนางจะทำให้เขาต้องหวนกลับมาหานางอีกครั้ง

นางก็แค่...หมั้น รอให้เขาหย่าขาดเสียก่อน นางมีนับร้อยวิธีที่จะผลักไส ซางฮ่าวอวี่ออกไปแล้วค่อยดึงมือของหยางหลีเหว่ยมากุมเอาไว้ การแสดงบท ‘เหยื่อผู้น่าสงสาร’ นางถนัดนัก บุรุษส่วนใหญ่ก็มักจะพลาดท่าหญิงงามที่อ่อนแอมิใช่หรือ

‘ขนาดหัวหน้าหยางผู้แสนชาญฉลาดยังตกหลุมพรางฉันเลย ประสาอะไรกับท่านอ๋องในโลกยุคโบราณนี่จะมารู้ทัน คอยดูเถอะ ตำแหน่งชายาอ๋องจะต้องเป็นของฉัน’

*********************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel