บทที่ 1 สตรีประหลาด (2/2)
สตรีวัยกลางคนส่งยิ้มให้กับนาง ก่อนจะประคองนางเดินผ่านลานหินอ่อนที่ทอดยาวเข้าสู่ประตูตำหนักเฉียนชิงที่ประทับของจักรพรรดิ การสวมใส่รองเท้าส้นกระถางของราชวงศ์ชิงเดินเป็นระยะทางไกล ๆ สร้างความลำบากให้แก่นางไม่น้อย โชคดียิ่งนักที่มีเฉินหมัวมัวประคอง ไม่เช่นนั้นฟันหน้าของนางคงหายไปยกแผงเสียแล้ว
ตำหนักเฉียนชิง เป็นตำหนักใหญ่ที่ผู้เป็นฝ่าบาทมักจะประทับอยู่เป็นประจำ ด้านในเป็นห้องโถงใหญ่โอ่อ่า ประดับประดาด้วยข้าวของเครื่องใช้สมกับเป็นยุคที่เฟื่องฟู ต่างรายล้อมไปด้วยเก้าอี้ไม้แกะสลักเรียงรายตามฐานะของสตรี ลดหลั่นลำดับลงไปคือบรรดาขุนนางคนสำคัญของราชวงศ์
ที่ยามนี้ประทับนั่งในที่ของตัวเอง บรรดาพระสนมต่างเหลือบตามองนางด้วยความเย็นชา บางพระองค์เพียงส่งยิ้มบางอย่างไม่เต็มใจ
สมกับเป็นวังหลัง
แต่สิ่งที่ทำให้นางตะลึงงันจนไม่อาจขยับฝ่าเท้าที่หนักอึ้ง แม้กระทั่งลมหายใจยังขาดห้วงไป คือภาพเบื้องหน้าที่นางปรายดวงตาขึ้นมอง
แท่นพระที่นั่งที่สูงตระหง่าน มีบัลลังก์มังกรจากไม้จันทน์แกะสลักลาย ประดับล้อมด้วยหยกขาวและทองคำ บนบัลลังก์นั้น
มีบุรุษหนึ่งประทับอยู่บนแท่นพระที่นั่งในอิริยาบถที่นิ่งสงบ ราวกับภาพวาดในห้องบูชาเทพ ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างภายในโถงกว้างกลับมืดมนไปชั่วขณะ เมื่อเปรียบเทียบกับบุรุษผู้เป็นศูนย์กลางนั้น
หากนางคาดเดาไม่ผิด บุรุษผู้นั้นคือ เยี่ยซินเหวินหลัว หงเฉินหรือจักรพรรดิเจิ้นหยวน แห่งราชวงศ์ชิง ในอาภรณ์จี้ฟู [2] สีทองสว่างปักลวดลายมังกรห้าเล็บทะยานเหนือคลื่นมรกต ลวดลายปักด้วยเส้นไหมแน่นละเอียดจากช่างเย็บปักมากฝีมือ สวมใส่สร้อยประคำยศที่ทำจากไข่มุกจำนวนหนึ่งร้อยแปดเม็ด
เรือนผมถูกโกนเกลี้ยงจากหน้าผากจรดกลางกระหม่อม ตามธรรมเนียมของแมนจูดั้งเดิม ปลายเส้นผมที่ยาวสยายถูกถักรวบเป็นเปียยาวแนบหลังศีรษะ โดยที่เปียนั้นจะถูกพันเอาไว้อย่างดี ไม่หลุดลุ่ยแม้แต่เส้นเดียว บ่งบอกถึงความพิถีพิถัน และความมีระเบียบวินัยอันเคร่งครัดของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี
ใบหน้าได้รูปดูงดงามราวกับสวรรค์ปั้นแต่ง ปลายคางเรียวเข้ากับรูปหน้าสมบูรณ์ดั่งหยกสลัก ซ้ำยังน่าทึ่งชวนมอง คิ้วเข้มดูหนาและดกดำดุจปลายพู่กัน ดวงตาคู่คมรับนัยน์ตาที่ฉายแววความเย็นชาและน่าเกรงขามเสียยิ่งกว่านกอินทรี อีกทั้งยังแฝงด้วยความลึกล้ำที่ยากหยั่งถึง ปลายจมูกโด่งเป็นสันคม รับกับริมฝีปากบางได้รูปติดจะหยักเล็กน้อยที่บริเวณมุมปาก ยามนิ่งกลับดูเคร่งขรึม แต่เมื่อยามแย้มยิ้มกลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่สามารถทำให้หัวใจของสตรีนับร้อยหวิวไหวราวใบไม้ต้องลม
ผิวกายนั้นผุดผ่องดั่งทองคำ ไม่ขาวซีด รัศมีที่เปล่งประกายไม่ได้มาจากความหล่อเหลาเพียงเท่านั้น หากยังประกอบไปด้วยบารมีของผู้ครองแผ่นดิน
ไม่นึกเลยว่าจักรพรรดิผู้นี้จะงดงามหล่อเหลา เสียจนนักแสดงชายที่รับบทบาทเป็นเขาเทียบไม่ติดเลยแม้แต่น้อย ในทันทีที่สายตาของนางสบกับดวงเนตรคู่นั้นหัวใจของฟู่เหยียนจิ้ง…ไม่ใช่สิ...หัวใจของน่าหลันซือหนิงก็แทบจะหยุดเต้น
‘หล่อเหลาอะไรถึงเพียงนั้น’ นางได้แต่พึมพำอยู่ในภวังค์ บุรุษผู้นั้นกำลังจะเป็นสามีนอกบทบาท ทำให้นางรู้ดีว่า…
การแสดงครั้งนี้ มิอาจมีคำว่า ‘คัต!’ ได้อีกต่อไป
[1] หมัวมัว เป็นตำแหน่งหญิงรับใช้หรือหญิงอาวุโสในราชสำนักจีน โดยเฉพาะในราชวงศ์ชิง มีบทบาทสำคัญและน่าเกรงขามในหมู่สตรีในวัง ซึ่งมีหน้าที่ดูแล จัดระเบียบ หรือควบคุมเหล่าสตรีในวัง
[2] ชุดจี้ฟู ใช้ในการออกว่าราชการ พบขุนนางหรือร่วมพิธีภายในราชวงศ์รูปแบบใกล้เคียงชุดเฉาฟู แต่ลดระดับความเป็นทางการลง