บท
ตั้งค่า

แม่เลี้ยง @ ลูกเลี้ยง

วันรุ่งขึ้น 

วันนี้เธอตื่นนอนมาด้วยอารมณ์์ที่สดใสร่าเริงและดูมีความสุข เธอเดินลงมาทานอาหารเช้าก่อนทุกคนในบ้าน ป้าขวัญที่เห็นเธอเเดินลงมาจากชั้นบนก็ตกใจที่เธอยอมลงมาทานข้าวได้แล้วและสีหน้าของเธอยังดูสดใสร่าเริงมากขึ้นอีกด้วย 

“นี่คุณพ่อยังไม่ลงมาหรอคะป้าขวัญ.?”

“ยังค่ะ.”

“ทำไมป้าขวัญ มองเมย์แบบนั่นละคะ แปลกใจหรอที่เมย์ลงมาทานข้าวเช้าได้ วันนี้เมย์อารมณ์ดีไงค่ะเลยอยากลงมาทานข้าวเช้าพร้อมคุณพ่อ”

ป้าขวัญยิ้มออกมาได้ แต่พอหันไปเห็นใบหน้าของเมย์ษญาที่มองไปอีกทางเห็นเธอหุบรอยยิ้มนั้นก็หันไปมองตามเธอจึงได้รู้ว่าใครที่กำลังเดินมา 

“ตอนนี้เมย์เริ่มอารมณ์ไม่ดีอีกแล้วละค่ะ”

เธอมองอัทธกานต์ที่เดินมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าวร่วมกับเธอ แต่เขาทำเหมือนเธอเป็นแค่ธาตุอากาศ

“ใครให้นายมานั่งทานข้าวตรงนี้..?”

“...”

เขาไม่ตอบแต่หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอ่านแล้วนั่งกินกาแฟไม่สนใจเธอ

“ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง ใครให้นายมาร่วมนั่งโต๊ะทานข้าวกับพวกฉัน..."

"..."

"นี่ไอ้หมาอิท แกไม่ได้ยินที่ฉันพูดใช่มั้ย ฉันถามว่าใคร...?”

“คุณอาอนุญาตให้ผมมาทานข้าวที่นี่”

เขาหันไปหาเธอแล้วก็หันกลับมาอ่านหนังสือต่อ

“แต่ฉันไม่อยากร่วมนั่งโต๊ะกับนาย ลุกออกไปฉันไม่อยากนั่งโต๊ะร่วมกับคนชั้นต่ำไม่มีหัวนอนปลายเท้า หรือเป็นลูกหลานของคนที่หวังจะรวยทางลัดอย่างพวกนาย”

“คุณเมย์”

เขาวางหนังสือพิมพ์ลงบนโต๊ะทันทีแล้วยืนขึ้นด้วยความโมโห

“ทำไม นายจะทำไมฉัน..?”

“คุณเมย์คะ..”

ป้าขวัญจับแขนเธอให้เธอใจเย็นลง แล้วพ่อเธอกับอรอุมาว่าที่แม่เลี้ยงก็เดินมาคู่กันพอดี 

เมย์ษญาหันไปมองทั้ง 2คนที่เดินมา ก็นึกโมโหในใจแต่ก็เก็บอารมณ์ไว้

“อิท เกิดอะไรขึ้น..?”

อรอุมามองไปที่อัทธกานต์ก็ถามเขาขึ้นทันที ที่เห็นสีหน้าดูไม่ดีนัก

“หลานชายของคุณคงไม่อยากนั่งร่วมโต๊ะกับเมย์เพราะรู้สึกเจียมตัวเองนะคะ”

เธอพูดแทรกเขาออกไปแต่สายตาก็หันไปมองทางอรอุมา

“เมย์..”

พ่อเรียกเชื่อลูกสาวเพื่อให้เธอหันมาหา

“คะคุณพ่อ...เมย์อยากทานข้าวกับคุณพ่อแค่ 2 คนไม่ได้หรอคะ เมย์เพิ่งกลับมาจากเมืองนอกเมย์ก็อยากได้มีเวลาอยู่กับคุณพ่อ 2 คนแบบส่วนตัวบ้างนี่คะ”

เธอเน้นคำว่า 2 คนแล้วหันไปทางอรอุมา จนอัทธกานต์รู้สึกได้ว่าเธอพูดเพื่อประชดน้าสาวของเขา

“เอ่อ..พ่อว่า..”

“ไม่เป็นไรครับคุณอา เดี๋ยวผมพาน้าอรออกไปทานข้าวข้างนอกก็ได้ คุณอาจะได้มีเวลาอยู่กับคุณเมย์เพราะถึงพวกเราอยู่คุณเมย์ก็คงจะทานอาหารไม่อร่อย”

“รู้ตัวก็ดีแล้วละรีบไปซิจะยืนอยู่ทำไมละ”

เมย์ษญามองหน้าเขาอย่างท้าทาย

“อร..”

พ่อหันไปหาภรรยาเขามองเธอก้วยสีหน้าหนักใจ

“ไม่เป็นไรค่ะ อรออกไปทานข้าวข้างนอกกับตาอิทก็ได้ แล้วเดี๋ยวเราค่อยเจอกันที่บริษัทนะคะ”

อรอุมามองหน้าสามีแล้วยื่นมือไปจับเขาเธอรู้ดีว่าเขาคงหนักใจมาก ซึ่งเขาก็มองเธอด้วยความเห็นใจเช่นกัน 

“แล้วเจอกันที่บริษัทนะ อาฝากน้าอรด้วยนะอิท”

“ครับคุณอา ไปครับน้าอร”

เขาตอบรับแล้วพาน้าสาวเดินออกไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองสายตาของเธอที่ดูร้ายการเหมือนนางมารร้าย

“คุณพ่อคะ มานั่งตรงนี้เถอะค่ะ”

เธอเดินไปจับแขนพ่อไว้แล้วพาเขามานั่งที่หัวโต๊ะ

“เมย์ไม่ได้ทานข้าวเช้ากับคุณพ่อมานานแล้วนะคะ เวลาคุณพ่อไปหาเมย์ที่นู้นคุณพ่อก็อยู่กับเมย์ แค่ 2-3 วันเอง เมย์อะคิดถึงคุณพ่อม๊ากมาก”

“พ่อต้องทำงาน เมย์ก็รู้พ่อทิ้งงานไปนานไม่ได้ แต่พ่อก็คิดถึงเมย์ตลอดเลยนะ”

เขายิ้มให้เธอแล้วก็ตอบเธอออกไป

“เมย์นึกว่าคุณพ่อน่าจะไม่อยากทิ้งอย่างอื่นไปนานมากกว่า...”

เธอจ้องไปในแววตาของพ่อตัวเองอย่างหาคำตอบ

“เมย์ คุณอรเขาไม่ใช่...”

“เมย์ไม่อยากพุดถึงเธอตอนนี้ค่ะ เมย์กลัวจะกินอะไรไม่ลง ทานเถอะค่ะคุณพ่อ...”

เธอก้มลงทานอาหารโดยไม่ได้สนใจพ่อตัวเองว่าตอนนี้เขารู้สึกหนักใจขนาดไหนที่ลูกสาวกับแม่เลี้ยงอย่างอรอุมาดูจะเข้ากันไม่ได้เลย

“วันนี้เมย์เข้าบริษัทไปกับคุณพ่อด้วยนะคะ เมย์เหงาไม่รู้จะไปไหน”

เธอหันมาบอกพ่อตัวเองแล้วก้มลงไปทานข้าวต่อ

“เมย์ก็เรียนจบแล้ว อยากมาทำงานมั้ยพ่อจะได้ดูตำแหน่งที่เมย์อยากทำให้”

“ไม่อะคะ เมย์จบแฟชั่นมานะคะคุณพ่อ เมย์ไม่ได้จบบัญชีหรือบริหารมาซะหน่อย แล้วเมย์ก็ไม่อยากนั่งทำงานเอกสารด้วยเห็นแล้วปวดหัว”

เขามองเธอแล้วรู้สึกหนักใจที่ลูกสาวคนเดียวไม่ได้มีใจอยากสานต่อธุรกิจของครอบครัวเลย เขาคิดถึงปัญหาที่จะตามมาแล้วก็กลุ้มใจ

....

บริษัท เมซาญา ไทยแลนด์

ดูแลเรื่องธุรกิจนำเข้าส่งออกทุกอย่างที่เป็นของคนไทยผลิตเพื่อนำออกไปขายต่างประเทศ และ ของต่างประเทศมาขายในไทย เพื่อแลกเปลี่ยนกันเป็นบริษัทรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

“คุณพ่อไปทำงานเถอะค่ะ เดี๋ยวเมย์เดินเล่นรอบบริษัทเอง จะได้ไม่รบกวนคุณพ่อด้วย แล้วตอนเที่ยงเมย์รอทานข้าวพร้อมคุณพ่อนะคะ”

พ่อยิ้มให้เธอแล้วพยักหน้ารับแล้วเขาก็เดินเข้าห้องทำงานไป

“คุณเป็นเลขาคนใหม่ของท่านประธานหรอ..?”

เมย์ษญาเดินมาหาเลขาหน้าห้องของพ่อ

“ค่ะ ดิฉันนันทาพร หรือเรียกว่านันก็ได้นะคะ นันเป็นเลขาของท่านประธานค่ะ”

เธอลุกขึ้นตอบเมย์ษญาด้วยท่าทางนอบน้อม

“เธอมาทำงานที่นี่กี่ปีแล้ว.?”

“นันมาเป็นเลขาท่านได้ 2 ปีแล้วค่ะ”

เธอแปลกใจมากเพราะสงสัยว่าเลขาเก่าคุณพ่อหายไปไหน

“คุณอรอุมาเขาไปไหนหรอ..?”

นันทาพรเลขาของพ่อเธอมองหน้าด้วยความลำบากใจ

“เอ่อ...คือ คุณอรอุมาเธอเป็นผู้ช่วยประธานบริษัทนะคะ”

“ผู้ช่วยประธานบริษัท..?”

เธอทวนคำตอบแล้วทำหน้าไม่พอใจ รีบเดินออกจากตรงนี้นเพื่อตรงไปที่ห้องประธานบริษัททันที

ผู้ช่วยประธานบริษัท:

อรอุมา อโนชีวิน

“สวัสดีคะ ผู้ช่วยประธานบริษัทคนใหม่ คุณอรอุมา อโนชีวิน”

เมย์ษญาเปิดประตูเข้ามาแล้วตะโกนพูดชื่อเธอออกมาจนสะดุ้ง

“คุณเมย์....”

“เป็นยังไงคะได้นั่งในที่ที่แม่ฉันเคยนั่ง ได้อยู่ในห้องที่แม่ฉันเคยอยู่ แล้วยังได้สามีของแม่ฉันไปครองได้อีก คุณนี่เก่งนะได้เลื่อนจากเลขาหน้าห้องมาเป็นผู้ช่วยท่านประธานได้เร็วดี...”

เมย์ษญามองหน้าอรอุมาว่าที่แม่เลี้ยงที่เธอรู้สึกเกลียด

“ทำงานกับพ่อฉันมาตั้งหลายปีคงจะคิดเรื่องนี้มานานแล้วซินะ”

“คุณเมย์คะ อรไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณพ่อของคุณเลยนะคะ อรรัก....”

“หยุด อย่ามาพูดคำนี้กับฉัน เพราะฉันไม่มีวันเชื่อว่าเธอจะรักพ่อฉันจริง เธอบอกว่าเธอไม่ต้องการอะไร แต่ดูนี่...”

เมย์ษญาผายมือไปรอบๆห้อง เธอมองไปตามมือแล้วก็ก้มหน้าลง

“นี่คือสิ่งที่เธอได้มันมาทั้งหมด แล้วเธอยังบอกอีกหรอว่าเธอไม่ต้องการอะไร”

“มันจะมากไปแล้วนะคุณเมย์”

อัทธกานต์เปิดประตูเข้ามาแล้วพูดตะโกนแทรกเธอด้วยความไม่พอใจ เขารู้ว่าเมย์ษญามาที่บริษัทแล้วได้ยินคนในบริษัทซุบซิบว่าเมย์ษญาเข้ามาในห้องของผู้ช่วยท่านประธานเขาจึงรีบมาที่นี่ทันที

“น้าอร ไม่ต้องไปคิดมากกับคำพูดของคนที่หวงพ่อเหมือนเด็กไม่รู้จักโตหรอกครับ”

เขาหันมาหาน้าสาวที่ตอนนี้ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจที่เธอกำลังเข้าใจผิด

“ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ แล้วฉันก็เรียนจบแล้วด้วย”

“หรอครับ แปลว่าการศึกษาไม่ได้ช่วยทำให้คุณคิดดิพูดดีได้เลย ไม่น่าไปเรียนถึงเมืองนอกเลยนะครับ”

“ไอ้ ไอ้ ไอ้บ้าาา ถ้าแม่ฉันยังอยู่พวกแกไม่มีทางขึ้นมาอยู่จุดนี้ได้หรอก พวกแกอย่านึกนะว่าคุณพ่อเป็นคนให้พวกแกขึ้นมาชูคอบนนี้ได้ แล้วฉันจะทำอะไรพวกแกไม่ได้”

“ผมมาอยู่จุดนี้ได้ด้วยความสามารถของผมเอง น้าอรก็ทำงานกับพ่อคุณมาเป็น 10 ปี ก็ไม่ผิดที่พ่อคุณจะไว้ใจ เชื่อใจน้าอรจนได้มายืนตรงจุดนี้ คุณอย่าใช้ความอคติของคุณมาตัดสินว่าผมและน้าอรจะเป็นอย่างที่คุณคิด เพราะมันไม่ใช่”

เขาพูดกระแทกใส่หน้าเธอ เธอเดินเข้ามาใกล้าเขาแล้วพูดใส่หน้าเขากลับบ้าง 

“ฉันไม่ได้อคติ เพราะฉันวัดจากสิ่งที่ฉันเห็น พวกแกมายืนจุดนี้ได้ยังไงฉันไม่สน เพราะฉันนี่แหละจะเป็นคนทำให้พวกแกลงไปอยู่จุดเดิมเอง”

“ผมจะคอยดู...”

เขามองหน้าเธออย่างท้าทาย ทั้ง 2 คนจ้องหน้ากันด้วยความรู้สึกที่อยากเอาชนะกัน

อรอุมามองทั้งคู่ด้วยความหนักใจ แล้วกังวลใจเรื่องของท่านประธานขึ้นมาว่าจะทำยังไงต่อไปยิ่งถ้าเขารู้ว่าเมย์ษญายังเป็นแบบนี้ เขาคงเครียดมากจนทำให้เธอเป็นห่วงอาการของเขาว่าจะเป็นหนักขึ้น ยิ่งใกล้เวลามากขึ้นเท่าไหร่เธอยิ่งกังวลใจ

....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel