ประชด
เมย์ษญาประชดโดยการไม่ออกมาจากห้องและไม่ยอมกินข้าว ไม่ยอมเปิดประตูให้ใครแม้แต่ป้าขวัญแม่บ้านคนสนิทที่เคยเลี้ยงดูเธอเธอก็ไม่ยอมเปิดให้ ทุกคนพยายามมาเคาะเรียกแต่เธอก็ยังดื้อว่าถ้าใครเอากุญแจไขเข้ามาเธอก็จะกระโดดระเบียงหนี ป้าขวัญกลัวว่าเธอจะทำจริงเลยไม่กล้าใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป
“คุณเมย์คะ เปิดประตูให้ป้าเถอะคะ ไม่ทานอะไรแบบนี้ทั้งวันแล้วนะคะ เดี๋ยวก็หิวเป็นลมไปหรอกค่ะ ออกมาทานอะไรซักหน่อยนะคะคุณเมย์”
ป้าขวัญเรียกเธออยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ เมย์ไม่กินปล่อยให้เมย์ตายไปเลย”
เธอตะโกนออกมาจากในห้องด้วยเสียงสั่นเครือ
“คุณเมย์ อย่าพูดแบบนั้นซิคะ ถ้าคุณเมย์เป็นอะไรไปคุณท่านจะทำยังไงละคะ ออกมาทานข้าวนะคะคุณเมย์”
“เมย์ตายไปซะคุณพ่อคงจะดีใจที่ไม่มีใครมาคอยขัดขวาง คุณพ่อจะได้มีความสุขกับเมียใหม่ไงคะ”
เธอพูดเสียงประชดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจพ่อของตนเอง
“ป้าขวัญครับ”
อัทธกานต์เดินมาเห็นป้าชวัญที่ยืนเคาะประตูอยู่นานแล้วก็เดินเข้ามาหา
“ปล่อยคุณเมย์เธอไปเถอะครับ เดี๋ยวเธอหิวเธอก็ลงไปกินเอง”
“แต่นี้ตั้งแต่เช้าคุณเมย์ยังไม่ได้ทานอะไรเลยนะคะ”
ป้าขวัญสีหน้าดูเป็นห่วงเมย์ษญามาก
“ไม่พ้นคืนนี้หรอกครับป้า ยังไงเธอก็คงทนหิวไม่ได้นาน”
ป้าขวัญมองไปที่ประตูห้องของเมย์ษญาด้วยสีหน้ากังวล
“ไปเถอะครับป้า”
ป้าขวัญมองหน้าเขาแล้วก็พยักหน้าให้แล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น เขาจึงหันไปมองที่ประตูห้องนอนของเมย์ษญา
“ทำตัวเป็นเด็กประชดพ่อตัวเอง อยากจะดูเหมือนกันจะอดข้าวได้นานแค่ไหน”
เขาพูดแล้วก็ส่ายหน้าในความดื้อรั้นของเธอ
“ทำไมเสียงเงียบไป..?”
เมย์ษญาเดินไปที่ประตูก็รู้สึกว่าเหมือนไม่มีคนอยู่นอกห้องแล้ว
“ป้าขวัญนะป้าขวัญ เมย์ยังไม่หายโกรธเลยนะ คอยดูนะเมย์จะอดข้าวให้ตายไปเลย โอ้ยย1”
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงท้องร้องก็ดังออกมา
“ท้องบ้านี่ จะมาร้องทำไมเนี่ย ห้ามร้องนะโอ้ยย..!”
เธอเริ่มปวดท้องหิวข้าวมากขึ้นเพราะวันนี้ตั้งแต่ตื่นเช้ามาก็ยังไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากน้ำ เธอเดินเอามือกุมท้องตัวเองไปนั่งที่เตียง หันไปมองรูปหัวเตียงที่มีเธอในวัยมัธยมถักเปีย 2 ข้างถ่ายรูปคู่กับพ่อแม่ เธอจึงนึกถึงเรื่องในอดีตในตอนที่แม่เธอยังมีชีวิตอยู่
8 ปีที่แล้ว >>
“เมย์ เปิดประตูให้แม่หน่อย”
“ไม่ค่ะ คุณแม่ไม่ต้องมายุ่งกับเมย์เลย”
เมย์ษญาในวัย 15 ปี ตะโกนบอกแม่ด้วยความโกรธ
“เมย์ นี่ลูกยังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ออกมากินข้าวก่อนแล้วเมย์จะประชดพ่อเขาแล้วกลับไปขังตัวเองในห้องอีกก็ได้ แต่ออกมากินข้าวก่อนนะ”
ผู้เป็นแม่อ้อนวอนลูกสาวที่งอนผู้เป็นพ่อเพราะไม่ยอมให้ไปซัมเมอร์กับเพื่อนๆที่ประเทศ
“ถ้าหนูออกมากินข้าว แม่จะช่วยพูดกับคุณพ่อให้ ออกมานะเมย์”
เธอได้ยินที่แม่พูดก็รีบเปิดประตูออกมาจากห้องด้วยความดีใจ
“จริงหรอคะ คุณแม่จะช่วยพูดให้คุณพ่ออนุญาตให้เมย์ไปซัมเมอร์กับเพื่อนๆที่อังกฤษจริงๆนะคะ”
“จ่ะ แต่หนูต้องลงไปทานข้าวกับแม่ก่อน”
เธอยอมลงไปทานข้าวแล้วแม่ก็ขอให้พ่ออนุญาตให้เธอไปซัมเมอร์กับเพื่อนได้จริงๆ
“เย้ๆ คุณพ่อคุณแม่ใจดีที่สุดเลย เมย์รักคุณพ่อกับคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ”
เธอเดินเข้าไปหอมพ่อกับแม่คนละที พ่อกับแม่ของเธอจึงหัวเราะชอบใจในความตื่นเต้นดีใจของลูกสาวสุดที่รัก
ปัจจุบัน >>
“เมย์คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ ถ้าคุณแม่ยังอยู่คุณพ่อคงไม่ทำแบบนี้กับเมย์”
เธอร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงแม่ที่จากเธอไปแล้วโดยไม่มีวันย้อนกลับ
เมย์ษญานั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจที่พ่อไม่สนใจเธอ เพราะตั้งแต่มีเรื่องเมื่อวานพ่อก็ยังไม่มาง้อเธอเลย เธอคิดว่าพ่อคงไม่รักเธอแล้วเขาคงรักเมียใหม่และหลานชายของเมียใหม่มากกว่าเธอ เมย์ษญาคิดแล้วก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจอีกครั้ง จนเผลอหลับไปถึงช่วงค่ำๆ
เวลา 4 ทุ่ม >.
เธอลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะความหิวมองดูนาฬิกาที่หัวเตียง
“4 ทุ่มแล้วหรอเนี่ย ป่านนี้ทุกคนคงหลับกันหมดแล้ว”
เธอพูดกับตัวเองแล้วเดินไปที่ประตูเปิดมันออกช้าๆ ยื่นหน้าออกไปดูนิดนึงว่าข้างนอกมีใครอยู่มั้ย ไม่มีใครอยู่เธอจึงตัดสินใจเดินออกมาแล้วปิดประตูช้าๆเพื่อให้เบาที่สุด เดินย่องลงมาข้างล่างอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ใครได้ยิน
เมย์ษญาเดินไปที่ตู้เย็นที่อยู่โซนเคาว์เตอร์บาร์ ที่มีทั้งผลไม้ ของหวาน นม ขนม มากมาย เธอจึงยิ้มออกมาจากตู้จนเต็มมือแล้วกินมันอย่างรวดเร็วด้วยความหิว เธอหยิบองุ่นกินหลายเม็ด กัดแอปเปิ้ลเข้าปากทีละคำจนเกือบหมดลูก แต่ก็ต้องชะงักที่หันไปเห็นใครคนหนึ่งกำลังยืนมองเธออยู่
“คุณพ่อ”
เธอหันไปมองผู้เป็นพ่อตาค้างทั้งที่ปากยังคาบแอปเปิ้ลอยู่ แล้วมือก็ยังถือองุ่นอยุ๋เป็นพวง
“กินแค่นี้มันจะไปอิ่มอะไร พ่อต้มมาม่าให้เอามั้ย..?”
เธอพูดกับลูกสาวที่ตอนนี้ยังยืนอึ้งๆอยู่
เขาไม่ได้รอฟังคำตอบจากแต่เลือกที่จะเดินไปหยิบซองมาม่ามาแล้วก็ฉีกใส่ชามหยิบผักและลูกชิ้นในตู้เย็นออกมา แล้วตั้งหม้อขึ้นมาเพื่อเอาน้ำใส่ รอจนเดือดแล้วเขาก็หยิบมาม่าแล้วของที่อยู่ในชามทั้งหมดใส่ลงไป
สายตาของเธอคอยจ้องมองดูพ่ออยู่ตลอดเวลาที่กำลังตั้งใจก้มหน้าก้มตาทำมาม่าให้เธอ
“พ่อยังจำได้ว่า สมัยก่อนตอนที่เมย์งอนพ่อเมย์ก็ชอบอดข้าวประชดแบบนี้ ถ้าเมย์ยังไม่หายงอนเมย์ก็จะแอบลงมาหาอะไรกินเองตอนกลางคืน จนแม่มาเห็นต้องต้มมาม่าง่ายๆให้เมย์กินทุกครั้ง”
พ่อคนจนเข้าที่แล้วก็ตักใส่ชามแล้วยกชามมาม่ามาวางตรงหน้าเธอ
“พ่อไม่เคยลืมว่าเมย์ชอบกินมาม่าใส่ลูกชิ้นแล้วก็ใส่กะหล่ำด้วย พ่ออาจจะทำอร่อยสู้แม่ไม่ได้ เมย์จะกินได้มั้ยลูก.?”
พ่อมองเข้าไปในแววตาของลูกสาวที่ต้องการจะสื่อว่าเขารักเธอมากแค่ไหน
เมย์ษญาก้มตักมาม่าขึ้นมากินโดยไม่พูดอะไร ผู้เป็นพ่อมองเธอด้วยสายตาแห่งความรัก
“เมย์ พ่อไม่เคยลืมแม่ของหนูเลยนะ แม่ของหนูยังอยู่ในใจของพ่อเสมอ แล้วเมย์ก็เป็นลูกสาวคนเดียวของพ่อ พ่อรักหนูมากกว่าใครๆในโลกนี้ทั้งหมด ไม่มีใครที่จะมาทดแทนความรักที่พ่อมีให้กับหนุได้นะลูก”
เขาพูดกับเธอที่กำลังก้มหน้าก้มตากินมาม่าอยู่แล้วน้ำตาของเธอก็ไหลลงมาที่ชามมาม่า
เธอเงยหน้าขึ้นมามองพ่อตัวเองด้วยน้ำตาที่มันไหลพรั่งพรูออกมา
“ต่อให้ใครมาแทนที่คุณแม่ของเมย์ คุณพ่อก็ห้ามรักเธอมากเท่ากับรักคุณแม่นะคะ แล้วคุณพ่อก็ต้องห้ามรักใครมากกว่าเมย์ด้วย”
เธอพูดออกมาด้วยน้ำตา เขามองหน้าลูกสาวที่ตาแดงๆแล้วพยักหน้ารับปากเธอ
“เจ็บมั้ยลูก..?”
เขาจับแก้มของเมย์ษญาด้วยความรู้สึกผิดที่ทำรุนแรงกับเธอเมื่อวานนี้
“เจ็บซิคะ....แต่ ตอนนี้เมย์ไม่เจ็บแล้วละคะเพราะคุณพ่อทำมาม่าอร่อยมาก เมย์ไม่โกรธคุณพ่อแล้วก็ได้ค่ะ”
เธอยิ้มออกมาด้วยความสดใสเพราะไม่อยากให้เขาคิดมากที่ทำเธอเจ็บ
ทั้ง 2 คนนั้งคุยกันสนุกสนานเพราะเธอเล่าเรื่องตอนอยู่ต่างประเทศให้พ่อเธอฟังมากมาย คุยกันหัวเราะกันอย่างมีความสุขจนลืมดูเวลาเยว่ามันดึกมากแล้ว
ภาพของทั้ง2คนตอนนี้อยู่ในสายตาของอัทธกานต์ตั้งแต่แรกที่เห็นเธอเปิดตู้เย็นหาอะไรกินจนถึงตอนนี้ ที่เขาได้เห็นความผูกพันธ์ของพ่อลูกคู่นี้ เขามองภาพนี้ไปก็ยิ้มไปมันทำให้เขาละสายตาจากรอยยิ้มของยัยเด็กดื้อคนนี่ไม่ได้เลย มันดูน่ารักแล้วก็ดูไม่มีพิษภัยต่างจากตอนกรี๊ดกราดแล้วดูเป็นนางมารร้ายโดยสิ้นเชิง
.....
