บทที่ 4
หญิงสาวกัดริมฝีปากที่สั่นระริกของตัวเองไว้ เธอพยายามกลั้นสะอื้น คลายแรงขืนตัวต่อเขา ใบหน้าซีดขาวก้มลงไม่สบตา...คนที่สามารถทำอะไรแบบนี้ในวัดได้ สิ่งที่เขาพูดเขาต้องกล้าทำมันแน่นอน!
“มารยาเหมือนแม่ไม่มีผิด! แต่น้ำตามันจะไม่ช่วยอะไร! แม้แต่ความเห็นใจฉันก็ไม่มีให้! และที่ฉันต้องมายุ่งกับเธอก็เพราะบุญคุณที่พ่อเธอเคยช่วยชีวิตฉัน วันนี้ถือว่าเราหายกันแล้วนะพี่วิช!!!” เสียงเข้มหันไปตะโกนบอก เธอเห็นเช่นนั้นก็ปิดปากร้องไห้ออกมา
“ผมจะดูแลลูกพี่อย่างดีเลย...”
#บนรถ
เสียงสะอื้นไห้ดังเบาๆ ตลอดทั้งทางที่กลับปาง เขาสั่งให้เพิ่มเสียงเพลงสากลที่เปิดในรถเพื่อกลับความรำคาญคนข้างๆ ที่เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด
“ร้องไปพ่อเธอก็ไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก...เก็บน้ำตาของเธอไว้เถอะ”
“..........” พิณะเอียงกายเท้าศอกลงที่พักแขนก่อนจะใช้ขาเขี่ยกระโปรงเธอให้เลิกขึ้น หญิงสาวสะดุ้งเฮือก! ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัว
“เธอไม่จำเป็นต้องใส่กระโปรงยาวขนาดนี้...มันลากพื้นและสกปรก!” ริมฝีปากหยักแสยะยิ้ม ก่อนจะหันไปมองข้างทางที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟที่ส่องสว่างจากถนน
“ก่อนตาย...พ่อเธอบอกอะไรบ้าง?”
“..........”
“เธอรู้ดี...ว่าการอวดดีกับฉัน ไม่ใช่เรื่องฉลาด” หญิงสาวกัดริมฝีปากของตัวเองไว้ และเอามือเช็ดน้ำตาตัวเอง
“พ่อเธอบอกอะไรบ้าง”
“สิ่งที่คุณอยากได้...มันจะไม่มีวันเป็นของคุณ” ดวงตาคมหรี่ตาลงและจ้องมองเธอ ใบหน้านวลไม่มีน้ำตาแล้ว และยังคงเจือสะอื้นอยู่
“งั้นหรอ? เธอรู้ว่าฉันอยากได้อะไรงั้นหรอ?”
“ปางไม้ขจรศักดิ์...ใครๆ ก็อยากได้ ฮึกก” พิณะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ก่อนจะยืดตัวเข้าไปใกล้ๆ หญิงสาวที่กล้าพูดประโยคนั้นออกมา
“โลกของเธอมันแคบ...ถ้าเธอรู้จักฉัน เธอจะไม่มีวันพูดอะไรโง่ๆ แบบนี้” เขาถอนหายใจออกมา ก่อนจะหัวเราะในลำคอ...ปางไม้ขจรศักดิ์งั้นหรอ? เขาส่ายหัวและลูบคางตัวเอง
“หนูไม่อยากรู้จักคุณ”
“พ่อเธอฝากให้ฉันเป็นผู้ปกครองเธอ...จนกว่าจะเห็นสมควรให้เธอไปมีชีวิตของตัวเอง”
“หนู 20 แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีใครมาดูแล หนูดูแลตัวเองได้ และชีวิตมันเป็นของหนู”
ดวงตากลมที่บวมช้ำจากการร้องไห้มาตลอดทั้งวัน เธอจ้องมองเขาอย่างไม่เกรงกลัว...เธอกำลังยืนยันในสิ่งที่เธอพูด
“จำเป็นหรือไม่...เธอไม่มีสิทธิเลือก จำไว้!”
