ตอนที่ 15
EP15
@โรงพยาบาล
ฉันใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงก็มาถึงโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้หอพักที่เปิดทิ้งไว้มากที่สุดเพราะคิดว่าพวกท่านไม่น่าจะไปไหนได้ไกล พอมาถึงก็ตรงดิ่งไปยังแผนกฉุกเฉินทันที สายตาก็เห็นแม่นั่งด้วยสีหน้าเศร้าอยู่ เห็นแบบนั้นจึงรีบเข้าไปหาท่านทันที
"แม่"
"ปิ่น"
"หมอออกมารึยังคะ" ฉันถามออกไปแล้วเข้าไปจับมือท่านเอาไว้แน่น
"ยังเลย กำลังรอผลเอกซเรย์ร่างกายอยู่"
"ทำไมอยู่ๆ ยายถึงเป็นแบบนี้ละคะ ตอนถูกส่งตัวไปต่างประเทศ เขาให้แม่กับยายทำอะไร" ไม่รอช้าก็ตัดสินใจถามสิ่งที่ข้างคาในใจออกไป ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงข้างกายแม่
"เอ่อ…"
"บอกมาเถอะค่ะแม่"
"เขาก็ให้ทำงาน"
"งานอะไร"
"ปิ่นไม่ต้องรู้หรอกลูก"
"ปิ่นต้องรู้ค่ะแม่"
"เขาให้แม่กับยายทำงานกับกลุ่มพวกแรงงานต่างชาติ แต่มันเป็นงานกลางแจ้งที่สำหรับผู้ชายทำ ร่างกายของยายเลยทรุดลงตั้งแต่วันแรก" แม่เล่าด้วยสีหน้าเศร้า เดิมทีร่างกายของยายก็ป่วยอยู่แล้ว ได้แต่กินยารักษาตามอาการมาตลอดเพราะยายไม่ยอมตรวจสักทีจนอาการมันทรุดลงแบบนี้แหละ
"แม่หมายถึง งานก่อสร้าง งานในโรงงานแบบนั้นหรอคะ?"
"ใช่ ยายล้มป่วยกลางงานไปทีนึงแล้ว แต่หัวหน้าคนงานก็บอกว่ามีคนสั่งให้ห้ามหยุด แม่ขอเขาให้แม่ทำงานคนเดียวยกเว้นยายไว้ได้มั้ย เขาก็ไม่ยอม แม่ร้องไห้ทั้งน้ำตาเพราะทำอะไรไม่ได้"
"ทำไม…" ฉันพูดอะไรไม่ออก มันจุกอยู่ในอก คงเป็นเพราะคำสั่งของเขาถึงไม่มีใครกล้าปฏิเสธ กับคนแก่สองคนทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้ เขาไม่มีความเป็นมนุษย์บ้างเลยหรอ ภายในสมองคิดมือก็บีบกระโปรงนักเรียนตัวเองแน่น โกรธ แต่ก็ทำอะไรคนแบบเขาไม่ได้
"แม่ถามได้มั้ย ปิ่นไปทำอะไรให้เขาลูก"
"หนู ขอโทษค่ะแม่ แต่หนูต้องชดใช้เขาเพราะเป็นหนี้"
"เท่าไหร่หรอปิ่น"
"มันเยอะมากๆ เลยค่ะ แต่แม่ไม่ต้องห่วงนะ หนูจะหาใช้คืนเขาเอง หนูไม่ยอมให้แม่กับยายลำบากหรอก"
"ระวังตัวด้วยนะปิ่น เขาเป็นใครก็ไม่รู้ แม่เป็นห่วงปิ่นนะ"
"ค่ะ หนูจะดูแลตัวเองนะคะแม่" แววตาของแม่เอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาสีใสไม่ต่างกันจากฉันที่กำลังกลั้นร้องไห้ ในตอนนั้นเองพยาบาลก็เดินออกมาโดยมีคุณหมอเดินนำออกมาก่อนและหายไป ส่วนพยาบาลเป็นคนนำผลตรวจมาให้
"ญาติคนไข้ใช่ไหมคะ"
"ใช่ค่ะ" ฉันเป็นคนเอ่ยตอบแล้วเดินเข้าไปหาพยาบาล
"นี้เป็นผลตรวจของคนไข้นะคะ"
"ขอบคุณค่ะ"
"คนไข้มีการติดเชื้อที่ปอดขั้นรุนแรงค่ะ เป็นมาก่อนหน้านั้นแล้วแต่มารุนแรงเพราะติดเชื้อจากแบคทีเรียตัวหนึ่งที่เราตรวจพบ เดี๋ยวต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลนะคะ เดี๋ยวจะย้ายไปห้องพักฟื้น ส่วนค่าใช้จ่ายเบื้องต้นชำระได้ที่ด้านล่างเลยค่ะ"
"ค่ะ" ฉันยกมือไหว้ขอบคุณแล้วพยาบาลก็เดินห่างออกไป
"ปิ่น มีตังไหมลูก" มือเย็นๆ ของแม่แตะลงที่แขนทำให้ฉันดึงสติตนเองกลับมาได้
"ไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง"
"งั้นก็รีบจัดการแล้วรีบกลับไปพักผ่อนนะ แม่จะอยู่เฝ้ายายเอง"
"หนูฝากด้วยนะคะ แล้วหนูจะมาหาใหม่"
"ไปเถอะลูก"
"หนูไปก่อนนะคะ" ฉันโผล่เข้ากอดแม่ก่อนจะผละออกแล้วเดินห่างออกมาจากบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน พอได้ห่างออกมาจากแม่นํ้าตาที่กลั้นไว้มันก็ไหลออกมาเป็นสาย เกลียดเขาที่ทำให้ชีวิตฉันเป็นแบบนี้ ทั้งเรื่องบ้าน เรื่องที่เขาทำให้ยายอาการทรุด ไหนจะยํ่ายีร่างกายของฉันจนบอบช้ำ ทำไมคนคนนึงถึงได้ใจร้ายได้มากขนาดนี้กันนะ
•••
@Sweetคลับ
"ขอบคุณนะปิ่นที่ยอมมาเป็นเพื่อนอ่ะ" แพรวาเอ่ยขอบคุณคนข้างกายที่กำลังนั่งน่าเศร้าอยู่ เธอไม่ได้อยากมาสักเท่าไหร่แต่เพราะแพรวาขอเอาไว้เนื่องจากเธอมากินเลี้ยงกับสายรหัสแต่แพรวากลัวตนเองเกิดอันตรายเลยให้ปิ่นโตมาเป็นเพื่อน และอีกอย่างสายรหัสของเธอก็ยืนยันว่าจะเลี้ยงปิ่นโตด้วยอีกคน แม้เธอยืนยันว่าจะไม่กินก็ตาม เพราะเป็นห่วงเพื่อนเธอเลยยอมมาและอีกอย่างเห็นว่าร้านนี้กำลังประกาศรับคนทำงานแต่ไม่รู้ตำแหน่งอะไร ถ้ามันไม่ชนกับพาร์ทไทม์ของเธอก็จะลองสอบถามดู เพราะเสาร์-อาทิตย์ก็ว่าง
"ไม่เป็นไร แกเอ็นจอยกับพี่ๆ เลยนะ"
"จะสี่ทุ่มแล้ว ทำไมยังไม่มากันอีกนะ" แพรวาบ่นพึมพำแล้วมองหน้าจอโทรศัพท์
"แพร แล้วนี่บอกอาเธอแล้วใช่ไหม"
"บอกทั้งอาวิลและแฟนฉัน บอกหมดแล้วไม่ต้องห่วงนะ"
"แล้วอาเธอ เขาโอเคหรอ"
"อาคงเป็นห่วงฉันหน่ะ อีกอย่างฉันก็ไม่ไว้ใจใครด้วย"
"ทำไมครั้งนี้เขาถึงยอมกันนะ"
"นั้นหน่ะสิ อย่าไปคิดใส่ใจเลย"
"สวัสดีน้องแพร รอนานไหม" ในขณะที่สองสาวกำลังนั่งคุยกันอยู่โต๊ะเสียงของใครบางคนก็เอ่ยขึ้นใกล้ๆ แข่งกับเสียงเพลง คนมาใหม่มาเพิ่มอีกสามคนเธอมาพร้อมกับผู้ชายอีกสองคนที่เดินตามหลังมาคู่กัน
"สวัสดีค่ะพี่ปริม~~" แพรวายกมือไหว้ ก่อนที่ปริมจะหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ เธอเป็นสายรหัสปีที่สี่ อีกสองคนปีสองและปีสามตามลำดับ
"สองคนนี้ชื่อเมฆกับที ทำความรู้จักกันไว้นะ ส่วนวันนี้ไม่เมาไม่กลับ" ปริมแนะนำชายหนุ่มสองคนให้แพรวาและปิ่นโตรู้จัก
"เอ่อ ชื่อปิ่นนะคะ มาเป็นเพื่อนแพรค่ะ" ปิ่นโตเอ่ยทักทายสองหนุ่มด้วยท่าทีเก้ๆ กังๆ แต่ท่าทางของเธอมันกลับน่ารักในสายตาของคนที่ชื่อทีซะงั้น
"แล้วปิ่นเรียนอยู่ไหนหรอ" ทีดูสนใจเธอไม่น้อย เพราะสองหนุ่มรู้ดีว่าแพรวามีเจ้าของแล้วเลยรักษาระยะห่างเอาไว้เป็นอย่างดี
"หนูยังเรียนไม่จบมัธยมเลยค่ะ มีปัญหานิดหน่อย"
"หื้มมม แบบนี้ก็ยังใส่ชุดนักเรียนอยู่สิ"
"ทำไมไอ้ที มึงเห็นเด็กใส่ชุดนักเรียนแล้วมันอาการกำเริบหรือยังไง" ปริมเอ่ยแซว ทำให้ทีหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกขำ
"เปล่าซะหน่อย ผมแค่อยากรู้จักน้อง" ทีเอ่ยปฏิเสธแล้วหลังจากนั้นบรรยากาศก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีเพียงปิ่นโตที่ได้แต่นั่งกินเงียบๆ มองบรรยากาศรอบๆ จนไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยผ่านไปนานแค่ไหน แต่ใจของเธอก็อยากจะกลับแล้ว
•••
00 : 00 น.
เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้คนตัวเล็กกรึ่มๆ ในโซนประสาทได้ยินเสียงเพลงกึกก้องพร้อมกับผู้คนมากมายที่กำลังวาดลวดลายเต้นกันอย่างสนุกสนาน
"แพร เราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ"
"ให้ไปเป็นเพื่อนไหม"
"ไม่เป็นไร เราไหว" ปิ่นโตเอ่ยบอกคนข้างกายที่เหมือนจะเมากว่าเธอด้วยซ้ำ ก่อนที่ร่างเล็กในชุดเดรสสีดำอวดเรือนร่างขาวสว่างจะลุกขึ้นแล้วเดินเบียดเสียดผู้คนออกมาจากโต๊ะ เธอมองหาทางเดินไปห้องน้ำก่อนจะตั้งใจรวบรวมสติของตนเองและเดินให้นิ่งมากที่สุด พอมาถึงห้องน้ำก็จ้องมองตัวเองผ่านกระจกเพื่อจะจัดผมและหน้าตัวเองให้เรียบร้อย เธอกะว่าจะลองถามพนักงานดูก่อนแล้วค่อยมาติดต่อใหม่ นึกได้แบบนั้นก็รีบจัดการธุระส่วนตัวตนเองให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินออกมา
ปึก!
"ไหวไหมครับ" แต่พอเดินออกมาจากห้องน้ำหญิงเพียงเท่านั้นร่างกายของเธอก็ชนเข้ากับร่างของใครบางคนอย่างแรงและดันเซไปซบอกแกร่ง พอเพ่งมองหน้าก็รู้ว่าเป็นใคร
"พี่ที"
"เห็นท่าเราไม่ไหวเลยเดินมาดู"
"หนูไหวค่ะ" ปิ่นโตพยายามใช้มือผละออกแกร่งออก แต่ดูเหมือนว่าฤทธิ์แอลกอฮอล์จะทำร่างกายเธออ่อนแรง ทีจึงใช้แขนโอบคนตัวเล็กเอาไว้แน่น
"พี่ช่วยดีกว่า เดินไหวมั้ย"
"ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะพี่ที"
"เราเดินไม่ไหวแล้วนะปิ่น กลับเลยมั้ย พี่จะไปส่ง"
"หนูรอเพื่อนก่อนค่ะ" เมื่อยากที่จะปฏิเสธเธอจึงปล่อยให้ทีพยุงตัวเองไปที่โต๊ะ แต่กลับไม่เห็นใครสักคนอยู่ที่โต๊ะแล้ว
"ทุกคนกลับหมดแล้ว เพราะเมาไม่ไหว"
"แล้วแพรละคะ แพรก็กลับไปแล้วหรอ"
"เหมือนแฟนเขาจะมารับ เพราะจู่ๆ แพรก็ภาพตัด พี่ถึงเดินไปดูเราไง"
"งั้นหนูกลับเลยนะคะ" เมื่อได้ยินว่าเพื่อนกลับแล้วเธอก็สบายใจ ก่อนจะยื่นมือจะหยิบกระเป๋าตนเองที่ทีกำลังคล้องบ่าอยู่แต่ชายหนุ่มกลับจับไว้
"พี่ไปส่งนะ"
"เดี๋ยวหนูเรียกแท็กซี่ค่ะ"
"อันตราย พี่ไม่ทำอะไรเราหรอก" ความหนักอึ้งเข้าเล่นงานจนเธอแทบจะทรงตัวไม่ไหว เธอไม่แน่ใจว่ากลับแท็กซี่คนเดียวกลับกับทีอันไหนจะไว้ใจได้กว่ากัน แต่เวลานี้ก็ไม่สามารถตัดสินใจได้แล้ว จึงปล่อยให้ทีพยุงตัวเองเดินไปที่รถยนต์ของเขา
"เราพักอยู่ไหน พี่จะได้ขับรถไปส่ง" พอเข้ามาอยู่ในรถด้วยกันสองต่อสองทีก็เอ่ยถาม สายตาของเขาไล่มองเรือนร่างอรชรอย่างปิดไม่มิด
"เดี๋ยวหนูบอกทางค่ะ"
"ได้ครับ เดี๋ยวพี่คาดเข็มขัดให้นะ" ไม่รอให้คนตัวเล็กตอบตกลงทีก็โน้มตัวเข้าไปใกล้เธอ มือหนาหยิบสายเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้จนเสร็จสับ แต่ใบหน้าของเขายังคงคลอเคลียอยู่พวงแก้มเนียนใส ปิ่นโตที่ใกล้จะคล้อยหลับปรือตามองเขาด้วยความสงสัย
"ทำอะไรคะ"
"เปล่าครับ ตัวเราหอมดีนะ"
"เอาหน้าออกไปได้ไหมคะ"
"พี่อยากหอมแก้มเราอ่ะ ขอหอมแก้มหน่อยนะคะ"
"พี่ที…" ปิ่นโตยกมือขึ้นจะผลักอกแกร่งออกแต่กลับถูกมือหนารวบเอาไว้แน่น ทีใช้จมูกคลอเคลียพวงแก้มเนียนใส แล้วเลื่อนตํ่าลงมาที่ลำคอ
ก็อก ก็อก ก็อก!!
และในตอนนั้นเองเสียงเคาะกระจกรถก็ดังขึ้นจนปิ่นโตสะดุ้งตกใจ เธอพยายามเพ่งมองแต่ก็ไม่รู้ว่าใคร
"มีอะไรรึเปล่าครับ"
"มี" เสียงคุ้นหูเอ่ยตอบ ปิ่นโตเพ่งมองก็พบว่าเป็นคาวิล…
"ครับ?"
"ที่มึงยุ่ง เมียกู"
•••
ห้ะ!! เรียกน้องว่าไงนะ!!
