ไจแอนท์ซอมบี้
“เรากำลังรออะไรอยู่?" ชาเบตะกล่าวถามด้วยความสงสัย ขณะที่เราได้ซุ่มกันอยู่หน้าทางเข้าสนามบินมาสักพักใหญ่
ฟึบๆ
“รอคนเก่ง” ผมกล่าวตอบ ซึ่งมันพอดีกับมีเสียงการเคลื่อนไหวภายในป่าเบื้องหลังของพวกเรา และดูเหมือนควีนจะไม่ได้มาคนเดียว
“ควีน…เจมส์” ผมกล่าวชื่อของทั้งสองคนที่ปรากฏตัวออกมา แต่ดูเหมือนจะมีอีกคนที่อยู่เบื้องหลังของพวกเขา
“สวัสดี” ทั้งสองกล่าวทักทายผู้รอดชีวิตทุกคนที่อยู่ที่นี่
“นี่!”
“เด็กบ้า” ควีนกล่าวออกมาซึ่งมันทำให้ผมตกใจเล็กน้อย อะไรทำให้เธอเรียกคนคนนั้นเช่นนี้กัน?
“เดี๋ยวก่อน”
“ผมอายุใกล้เคียงกับคุณนะ” บุคคลที่สามกล่าวออกมา เมื่อผมได้หันกลับไปก็ได้พบกับชายหนุ่มทีมีหน้าตาเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากดูจากลักษณะภายนอกแล้วเขาน่าจะอายุยี่สิบต้นๆ มันก็ไม่แปลกที่ควีนจะเรียกเขาว่าเด็ก
‘อ่า…ไอเวรนี่นี่เอง’ ผมคิดในใจเมื่อได้เห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน ผมจำได้ดี เขาเป็นคนที่คอยอยู่เบื้องหลังสั่งการผู้เล่นที่แข็งแกร่ง ไม่แน่ใจว่าเขาทำยังไงให้ผู้เล่นที่ทรงพลังพวกนั้นอยู่ภายใต้บัญชาของเขา แต่สุดท้ายเมื่อเขาเจอคนที่แข็งแกร่งกว่าเขาจะก็ย้ายฝั่งในทันที และมันเคยเป็นศัตรูกับผมช่วงที่ฐานทัพของประเทศไทยยังไม่แตก
[คุณเปิดใช้ดวงตาแห่งความจริง]
สเตตัสเริ่มต้น
ผู้เล่น : โตโต้โต
ระดับ : ผู้รอดชีวิต
เลเวล : 18
สถานะปัจจุบัน :
ทักษะติดตัว : MASTERY
พละกำลัง : 27/100
ความว่องไว : 20/100
พลังป้องกัน : 17/100
ความฉลาด : 89/100
ศักยภาพการเติบโต : 5
ศักยภาพมานา : ?
ทักษะของผู้เล่น : ไหวพริบ SS , แผนการ SS , จิต A , เอาชีวิตรอด A , การต่อสู้ C
ป้ายกำกับ : ราชาจิ้งจอก
‘ไม่แปลกที่มันจะเอาตัวรอดเก่ง’ ผมคิดในใจเกี่ยวกับป้ายกำกับของเขา ซึ่งยังมีทักษะอย่างไหวพริบและแผนการที่อยู่ในระดับสูงมากๆ และที่เขาเป็นศัตรูกับผมเพราะว่าเขาไม่สามารถโน้มน้าวผมให้ทำตามคำสั่งของเขาได้
คนคนนี้จะว่าไปก็มีประโยชน์มาก แต่ถ้ามาแว้งกัดเราก็ไม่ดีเหมือนกัน ถ้าหากใช้สมองของเขาในการบริหารเซฟโซนและคอยจัดการทุกๆอย่าง มันคงจะดีไม่น้อย แต่เขาน่ากลัวเกินไป ซึ่งถ้าให้ผมเดา ที่เขามาที่นี่ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะควีนบังคับให้เขามา แต่ด้วยสายตาของเขาที่สังเกตุทุกคนก่อนที่จะมาหยุดที่ผมและอมยิ้มออกมา มันทำให้ผมพอจะรับรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังหาที่พึ่งพิง
ซึ่งการที่เขามากับควีนได้ก็น่าจะเป็นเพราะว่าควีนคือที่พักพิงของเขา เพราะควีนน่าจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ถ้าหากไม่รวมผม และเขาอาจจะมาตามข่าวลือที่ว่าผมเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดคนแรก และมีความแข็งแกร่งที่ลึกลับเหนือใคร
“สวัสดี” ผมเป็นฝ่ายเดินเข้าไปทักเขาเองด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ซึ่งมันทำให้เขาเงียบไปเพียงชั่วครู่
“สวัสดีครับ” ก่อนที่จะกล่าวออกมาอย่างสุภาพ
โดยที่ผมได้ตัดสินใจแล้วว่าจะให้เขาทำงานช่วยเหลือควีน ถ้าหากเขาต้องการที่พักพิง ผมสามารถเป็นให้ได้ แต่มันก็ต้องแลกกับความสามารถที่เขามี ซึ่งการที่จะทำเช่นนั้น ผมต้องเปลี่ยนความคิดของเขาใหม่ ลบความเห็นแก่ตัวของเขาออกไปบ้าง และเพิ่มเป้าหมายให้เขาใหม่
“เจ้าเด็กนี่ ถึงจะกวนประสาท”
“แต่ความคิดของเขานั้นเป็นของจริง”
“ชอบทำอะไรที่ฉันคิดไม่ถึงอยู่ตลอด” ควีนกล่าวออกมา ถึงแม้เธอจะดูไม่ไว้ใจโตโต้ แต่เธอเองก็น่าจะเห็นความสามารถของเขาและต้องการให้มาพบกับผม เผื่อว่าผมจะมีวิธีจัดการกับเขาไม่ให้ล้ำเส้น
“อืม”
“แล้วพาเขามาทำไม?” ผมกล่าวถามออกไปถึงแม้จะพอรู้อยู่แล้วก็ตาม
“เขาบอกว่าถ้าพาออกมาพบกับคุณ”
“บางทีเขาอาจจะช่วยเหลือฉันได้…ในการจัดระเบียบค่าย” ควีนกล่าว มันทำให้ผมยิ้มออกมาทันที เขาต้องการมาดูว่าผมแข็งแกร่งอย่างที่ว่าจริงไหม
“ว่าไง” ผมหันกลับไปถามโตโต้ ในเมื่อตอนนี้เราได้พบกันแล้ว ผมก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะเล่นลูกไม้อะไรกับผม
“เราค่อยคุยกันหลังจากคุณเสร็จภารกิจก็ได้ครับ” เขากล่าวออกมาอย่างสุภาพและยิ้มอย่างอ่อนน้อม
มันทำให้ผมอยากจะอ้วก!
“ได้สิ…ได้เลย” ผมกล่าวออกไปก่อนที่จะพาควีนและเจมส์ไปทำความรู้จักกับคนอื่นๆ รวมถึงแนะนำเอสให้ควีนรู้จักเป็นการส่วนตัว
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
“ถึงมันจะดูบ้าบิ่นไปหน่อย”
“แต่ในเมื่อคุณมังกรตั้งใจจะทำมันแล้ว”
“ฉันเองก็จะตั้งใจทำมันเช่นกัน” ควีนกล่าวออกมาด้วยความเชื่อมั่นในตัวผม ซึ่งเมื่อทุกคนได้ฟังแผนของผมแล้ว ในเรื่องที่เราจะฝ่าฟันพวกซอมบี้ทั้งหมดทั้งสนามบินและทำลายสิ่งที่เรียกว่า ‘ดันเจี้ยน’ ซึ่งมันคล้ายกับที่ผม หงส์และควีนเคยเข้าไปในอุโมงค์ใต้ดินข้างๆที่ทำงานผู้อำนวยการ ควีนจึงเห็นด้วย เพราะการทำเช่นนั้นมันจะทำให้พวกซอมบี้หายไป แต่ผมก็ยังไม่ได้เฉลยกับเธอว่ามันเป็นเพียงแค่สถานที่แรกเท่านั้น
“ระ…เราจะทำมันจริงๆเหรอ?” โตโต้กล่าวด้วยท่าทางสั่นกลัว ซึ่งเมื่อเขาได้ยินแผนของผม เขาถึงกับกล่าวว่าจะรีบกลับค่ายในทันที เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่จะมาถูกซอมบี้นับพันรุมล้อม
“เชื่อเถอะ”
“คอยดูคนที่นายอยากเจอและน้องสาวของเขาไว้ให้ดีเถอะ” ควีนกล่าวก่อนที่ผมจะเริ่มเดินเข้าไปในเขตทางเข้าสนามบิน ซึ่งสถานที่แรกคือลานจอดรถ ที่นี่จะมีพวกซอมบี้เยอะเป็นอันดับต้นๆ ด้วยเสียงรถที่ทำให้พวกมันมารวมตัวกัน ถ้าหากเราผ่านด่านนี้ไปได้ ภายในก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ฟึบๆๆ
กรรร!!
การโจมตีแรกถูกเปิดโดยหงส์ ซึ่งหงส์ได้ยิงลูกธนูออกไป แต่มันไม่ใช่ลูกธนูธรรมดา มันถูกสร้างขึ้นจากมานา มันทำให้ควีน โต้และเจมส์ตกใจเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าพวกเขาไม่เคยเห็นอะไรเช่นนี้มาก่อนยกเว้นควีนที่เคยเห็นผมใช้มานา และสอนเธอเช่นกัน
ฟุบ ฟุบ ฟุบ
ซึ่งต่างจากผม ไม่ว่าผมจะเดินผ่านซอมบี้ตัวไหนไป พวกมันล้วนเสียส่วนหัวของตนเองร่วงลงสู้พื้นดิน การโจมตีของผมบางคนไม่สามารถดูออกด้วยซ้ำ เพราะมันเร็วเกินไป แม่นยำเกินไป และนิ่งเกินไป ถึงแม้ผมจะไม่ได้เปิดตัวอลังการเหมือนหงส์ แต่ท่าทางเรียบๆของผมกลับดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งมันทำให้ควีนยิ้มออกมาอย่างพอใจ สมแล้วจริงๆที่เธอกล่าวไว้ว่า มังกรบินเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด รวมถึงน้องสาวของเขา หงส์บินที่ดูทรงพลังไม่แพ้กัน
“เดินไปเรื่อยๆ”
“เราจะหยุดที่เนินทางขึ้นประตูแรก” ผมกล่าวโดยที่ไม่ได้สนใจซอมบี้ที่กำลังเดินมาจากทุกทิศ เราทำเพียงเดินหน้าไปเรื่อยๆและจัดการซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเราเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากเราได้ทำเลดี เราจะสามารถสังหารพวกมันได้ง่ายขึ้น ยิ่งเป็นบนเนิน ถ้าหากพวกมันจะขึ้นมา ก็ขึ้นยาก และยังสามารถสะกัดขามันให้พวกมันกลิ้งตกลงมาเบื้องล่างได้อีกด้วย
“ใจเย็นๆ”
“เราทำได้” ผมกล่าว ผมรู้ว่าทุกคนตื่นเต้นที่มีพวกซอมบี้รายล้อมเต็มไปหมด แต่เราสามารถควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างได้ ถ้าหากทำตามแผนของผม และโชคดีมากที่ประตูเลื่อนพัง ทำให้พวกซอมบี้ไม่สามารถออกมาจากอาคารได้ เราจึงเคลื่อนที่ไปตั้งหลักปักฐานบริเวณหน้าทางเข้าอาคาร ส่วนโตโต้ที่ยังไม่ได้เรียนการต่อสู้ และไม่มีทักษะการต่อสู้ เขาจึงทำได้เพียงใช้ท่อนเหล็กยาวที่ให้ชาเบตะใช้ดาบคาตานะตัดให้ผลักพวกซอมบี้กลิ้งลงไปเบื้องล่าง
ซึ่งการต่อสู้ในครั้งนี้ ผมได้กลับมาใช้หอกของผม ส่วนดาบคาตานะผมให้ชาเบตะที่ได้ฝึกการใช้ดาบมาบ้าง เพราะในช่วงที่เธอยังเรียนอยู่เธอได้เข้าร่วมชมรมรักดาบ และได้เรียนรู้พื้นฐานในการใช้ดาบคาตานะ ส่วนเอส เขาลงไปสู้เบื้องล่าง โดยที่ไม่มีซอมบี้ตัวไหนรับรู้การมีอยู่ของเขา แม้แต่พวกเราเองที่มีประสาทสัมผัสครบ เรายังไม่สามารถสัมผัสถึงเขาได้ มันจึงเป็นเรื่องง่ายที่ทำให้เอสฆ่าพวกซอมบี้และนำเยลลี่สีเขียวมาจากสมองของพวกมัน ราวกับกำลังเดินเก็บผลไม้จากไร่
3 ชั่วโมงผ่านไป
“แฮ่กๆ” คนส่วนใหญ่ได้มีความเหนื่อยล้ากันพอสมควร ต่างจากผม หงส์และควีนที่มีทักษะติดตัวเป็น Regen ซึ่งทำให้เราสามารถฆ่าพวกซอมบี้ได้ตลอดเวลา ศพของพวกมันได้นอนกองกันเป็นภูเขา แต่พวกมันก็ยังคงปีนป่ายศพพวกเดียวกันเองเพื่อมาหาเราไม่หยุดหย่อน
ฮาาสๆๆๆ
เสียงขู่ร้องของพวกซอมบี้ยังคงดังไม่หยุด ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผลักดันให้พวกเราโจมตีพวกมันไม่หยุดเช่นกัน ถึงแม้จะเหนื่อยล้าจนแขนแทบจะไม่มีแรงแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นผมจึงสั่งให้พวกเขาไปพัก เหลือไว้เฉพาะคนที่มีทักษะติดตัว Regen เพราะทุกคนยังคงต้องไปลุยดันเจี้ยนด้วยกันอีก และผมไม่แน่ใจว่ายังมีพวกซอมบี้มอนสเตอร์อีกไหม หรือซอมบี้กลายพันธ์จะกำเนิดขึ้นแล้วยัง?
และการที่เราให้คนพักไปส่วนหนึ่ง ทำให้พวกซอมบี้จึงขึ้นมาได้สูงกว่าปกติ แต่มันก็ไม่สามารถมาถึงข้างบนเนินได้เช่นเดิม โดยที่พวกมันเหลือน้อยลงมาก ลดลงไปเหลือ 2 ส่วนจาก10ส่วน มันทำให้พวกเราผ่อนคลายลงได้บ้าง เพราะยังมีศพของพวกมันเองที่ทำให้พวกมันเคลื่อนที่ล่าช้า และจำกัดการมาในแต่ละตัว
โฮกกกก
เสียงคำรามลั่นดังมาจากในอาคาร ซึ่งมันทำให้พวกเราถึงกับสะดุ้งและหันมองกันไปทางต้นเสียง และเมื่อหันไปก็ต้องพบกับมนุษย์ร่างใหญ่สูงราวสามเมตรครึ่ง มันทำให้เจมส์ถึงกับอ้าปากค้าง ส่วนผมนั้นสามารถรู้ได้ทันทีว่ามันคืออะไร มันคือซอมบี้กลายพันธ์ ไจแอนท์ซอมบี้ มันมีดีเพียงแค่ขนาดตัวที่ใหญ่และพละกำลังตามน้ำหนักของมัน แต่มันคงน่ากลัวสำหรับทุกๆคนที่ต้องเจอตัวประหลาดใหญ่โตเช่นนี้
[รูปนี้ถูกวาดขึ้นโดย AI]
ถึงแม้เราจะเห็นมันได้แค่เงาลางๆ เพราะภายในสนามบินมันมืดมิด แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับมันไม่เว้นแม้แต่ระยะไกล ทุกคนต่างรู้สึกกลัวจนตัวสั่น ด้วยความสูงของมัน ความใหญ่ของมัน อะไรจะฆ่ามันได้?
โฮกกกกก เพล้งง!!
ไจแอนท์ซอมบี้ได้พุ่งเข้ามาชนกับประตูเลื่อน ทำให้ประตูเลื่อนกระจกได้แตกกระจาย ซึ่งทำให้เราได้เห็นหน้าของมันอย่างชัดเจน แท้จริงแล้วมันไม่ได้น่ากลัวและแข็งแกร่งเหมือนกับรูปร่างของมัน เพราะถึงยังไง จุดอ่อนของมันก็ยังคงเหมือนซอมบี้ธรรมดา นั่นก็คือส่วนหัว และความแข็งของกระโหลกมันไม่ได้แข็งเหมือนกับพวกซอมบี้กลายพันธ์ระดับสองและสาม ยังคงเป็นความแข็งเดียวกับพวกซอมบี้ปกติ
“มันไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่ทุกคนคิด!" ผมกล่าวออกไปเพื่อปลุกกำลังใจทุกคน แต่ในตอนนี้ทุกคนกลับเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น
“เอส”
“หัวของมัน”
“ไปเด็ดมา” ผมกล่าวสั่งเงาของผม ซึ่งทำให้เอสได้หายไปพร้อมกับผมที่เขวี้ยงขวานออกไปที่บริเวณหัวของไจแอนท์ซอมบี้
วึบ ฉึก! ฉับ!
แต่เป้าหมายของผมไม่ได้เป็นการโจมตีมันโดยตรง ผมได้เขวี้ยงขวานให้กับเอส เงาของผมได้จับด้ามขวานก่อนที่ไจแอนท์ซอมบี้จะยกมือของมันขึ้นมาป้องกัน ส่วนเอสหมุนตัวหลบมือของมันพร้อมกับใช้ขวานสับไปที่หน้าผากของไจแอนท์ซอมบี้ ซึ่งในทันทีนั้นผมได้พุ่งไปเหยียบแขนของมันและใช้ปลายหอกฟันคอของมัน ทำให้หัวของไจแอนท์ซอมบี้กระเด็นลงไปกองกับศพซอมบี้ตรงเนินทางขึ้น
ตุบ
ส่วนร่างใหญ่ยักษ์ของมันก็ได้ทรุดลงพื้นและนอนราบไปในที่สุด ซึ่งการโจมตีของผมและเอสทำให้ทุกคนต้องเรียบเรียงความคิดกันใหม่จริงๆ ไจแอนท์ซอมบี้ที่ตัวใหญ่ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิด เพียงแค่โดนผู้เล่นสองคนโจมตีก็ตายแล้ว แต่ที่ทุกคนเห็นว่าง่าย ถ้าหากลองสู้เองแล้วล่ะก็ มันคงไม่เป็นแบบนี้แน่!!
เพราะด้วยความที่เอสฝึกมาอย่างหนักจนมีความคล่องแคล่วและคล่องตัวสูงมากๆ ขนาดที่ทำให้ซอมบี้จับสัมผัสการมีอยู่ของเขาไม่ได้เลย มนุษย์ส่วนมากเองก็น่าจะไม่สามารถเข้าถึงตัวตนเขาได้ ส่วนผมก็รู้กันอยู่ในความแข็งแกร่งที่เหนือใคร กระสุนปืนก็ยังไม่สามารถทำอะไรผมได้
“…” ผมได้เหลือบไปมองคนคนหนึ่งที่ต้องการเจอกับผมก่อนหน้านี้ หรือก็คือผู้เล่นนามว่าโตโต้โต เขามีสายตาที่ลุกวาวเป็นอย่างมาก มันบ่งบอกได้ว่าหลังจากนี้เขาจะพยายามสนิทกับผมอย่างแน่นอน ซึ่งมันทำให้ผมถึงกับยกยิ้มมุมปากออกมา
“เราต้องรับมือทั้งสองด้านแล้ว!”
“ลุกขึ้นและกวาดล้างพวกข้างนอกให้หมด!!” ผมกล่าวสั่งการในเมื่อไจแอนท์ซอมบี้ได้ทำลายประตูที่กั้นอยู่ ทำให้พวกซอมบี้พากันเดินออกมาหวังจะกินพวกเรา
“ผมขอเข้าไปข้างในได้ไหม?” เอสกล่าวกับผม มันเป็นครั้งแรกที่เขาขอร้องผมเช่นนี้
“ตามใจ” ผมกล่าวออกไป ในตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว ว่าเอสแข็งแกร่งมากกว่าแค่เอาชีวิตรอดจากซอมบี้ อย่างที่เห็นเมื่อครู่ขนาดซอมบี้กลายพันธ์ก็ยังอ่อนไปสำหรับเขา เพราะฉะนั้นมันจะเป็นเรื่องดีถ้าเขาได้ฝึกในความมืด พวกซอมบี้จะจับสัมผัสจากสิ่งที่เขากระทำ มันก็ท้าทายไปอีกแบบ และมันจะทำให้พวกซอมบี้ไม่ออกมาภายนอก แต่กลับเข้าไปรุมล้อมเขาภายในซะแทน
“เราต้องเร่งมือแล้วทุกคน!" ผมตะโกนก่อนที่จะแยกลงไปลุยเดี่ยวกับพวกซอมบี้ข้างล่างเนินทางขึ้นอาคาร ซึ่งผมก็สามารถจัดการพวกซอมบี้ไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะถูกรุมล้อมหรือหลังชนฝาก็สามารถต้อนพวกมันกลับไปได้ และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่ความสามารถทั้งหมดของผม ของจริงมันหลังจากที่เราลงไปในดันเจี้ยนต่างหาก!
