บท
ตั้งค่า

‘ผู้บุกเบิก’

“ฮ่าห์!” เจมส์ถอนหายใจแรงๆออกมาเมื่อซอมบี้ตัวสุดท้ายภายนอกอาคารหัวหลุดออกจากบ่า

“ดราก้อนบอกว่าพบเจ้าตัวใหญ่ที่ลานสนามบินสามตัว”

“เหมือนทั้งตัวของมันจะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ” หงส์กล่าวกับผมเมื่อการกวาดล้างภายนอกอาคารสำเร็จ ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกขนลุกทันที เพราะอะไรมันจึงปรากฏตัวกันไวมาก?

“ซอมบี้มีท” ผมกล่าวชื่อสิ่งที่เราเรียกมัน มันคือซอมบี้กลายพันธ์ระดับ 2 มันตัวใหญ่กว่าไจแอนท์ซอมบี้พอสมควร ทั้งยังมีกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งไปทั้งตัว การโจมตีมันต้องใช้อาวุธที่แข็งแกร่ง หรือไม่ก็ใช้มานาช่วย เพราะมันสามารถฟื้นฟูตนเองได้ด้วย เเละยังไม่ได้มีแค่ตัวเดียว แต่กลับมีถึง 3 ตัว!

โดยที่ซอมบี้มีทเกิดจากการการกลายพันธ์ขึ้นเป็นระดับ 2 จากการกินซอมบี้พวกเดียวกัน มีท่าทางหลังโก่ง ดูเหมือนมันจะเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่นี่ในตอนนี้ แต่เรายังไม่ได้ไปถึงที่นั่น เรากำลังจะเข้าไปภายในอาคาร ซึ่งเป้าหมายของเราคือการทำลายดันเจี้ยน แน่นอนว่ามันไม่ใช่เพียงแค่นั้น ผมจะพาครอบครัวไปที่ญี่ปุ่นโดยมีฟิวส์ขับเคลื่อนเครื่องบินให้ แต่มันก็จะทำให้เราต้องเผชิญหน้ากับซอมบี้กลายพันธ์ระดับ 2 ถึง 3 ตัว!

มันไม่แปลกที่จะเกิดการกลายพันธ์ได้ไวที่นี่ เพราะสนามบินมีซอมบี้และมนุษย์เยอะมากๆ การกลายพันธ์เป็นซอมบี้มีทที่จะกัดกินพวกเดียวกันคงมิแปลก ซึ่งมันทำให้เราต้องเร่งฝีเท้าขึ้นอีก เราต้องรีบทำลายดันเจี้ยนซอมบี้ให้เร็วที่สุด เผื่อพวกซอมบี้จะสื่อสารกันและทำให้ซอมบี้มีททั้ง 3 ตัวรับรู้การมีอยู่ของเรา

“เราจะทะลวงดันเจี้ยนกันเดี๋ยวนี้” ผมกล่าวก่อนที่จะเดินนำเข้าไปในอาคาร ซึ่งเอสได้เข้าไปเล่นภายในอยู่ก่อนแล้ว เพียงแค่ผมเดินเข้าไป ผมสัมผัสได้ถึงรังสีฆ่าฟันที่น่ากลัว ทั้งยังมีกลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมด ไม่ต้องเปิดไฟเราก็สามารถรู้ได้ทันทีว่ามีศพซอมบี้นอนกันเกลื่อนราวกับเป็นใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมาทับถมกันที่พื้น

“เอส” ผมกล่าวเรียกเงาของผม ซึ่งมันทำให้เขาปรากฏตัวขึ้นทันที

“ดูเหมือนนายจะบ้าคลั่งไปหน่อยนะ” ผมกล่าวเมื่อได้เห็นเลือดซอมบี้บนอาวุธของเขา รวมถึงเลือดที่อยู่บนตัวเขาเยอะพอสมควร

วึบ

“เช็ดตัวซะ”

“เราจะบุกดันเจี้ยนกันเดี๋ยวนี้” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวออกมาจากมิติและมอบให้กับเอส ซึ่งเขาก็รับไปและทำตามที่ผมบอกในทันที

โฮกกกกๆ

เสียงคำรามซ้อนกันดังลั่นลานจอดเครื่องบิน ซึ่งตรงหน้าของพวกเรามันเป็นทางเดินที่มีกระจกเป็นผนัง ทำให้เราสามารถเห็นภายนอกได้ และเราก็ได้พบกับซอมบี้ที่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ถึง 3 ตัว พวกมันเดินไปเดินมาราวกับคนไร้จุดหมาย แต่ถ้าหากมันรับรู้ถึงพวกเรา คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะกลายเป็นเป้าหมายของพวกมันในทันที และการที่ทุกคนเห็นสิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดเช่นนี้ มันทำให้หลายคนถึงกับขนลุก ยกเว้นเอสที่เห็นมาก่อนหน้านี้แล้ว

“อย่าบอกนะว่าเราจะไปสู้กับเจ้าพวกนั้น?” ฟิวส์กล่าวถาม เขามั่นใจว่าพวกมันทั้งสามนั้นแตกต่างจากไจแอนท์ซอมบี้ก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก พวกมันคงจะแข็งแกร่งจนไจแอนท์ซอมบี้เทียบไม่ติด

“ยังก่อน”

“เราจะเพิ่มเลเวลกันก่อน" ผมกล่าวตามความจริง ถ้าหากต้องสู้กับพวกมันในตอนนี้ ผมคิดว่ามันจะอันตรายเกินไป เราต้องเน้นความปลอดภัยกันไว้ก่อน

ณ สถานที่ซื้อของฝาก

“ที่นี่สินะ” โตโต้กล่าว เขาเงียบหลังจากเก็บข้อมูลมานาน

“อืม” ผมส่งเสียงเบาๆเป็นการตอบรับ ไม่ต้องบอกว่ามันอันตรายขนาดไหนพวกเขาก็สามารถจินตนาการเองได้

“ตามที่เราได้คุยกันไว้”

“ผมจะอยู่ข้างหน้าสุด”

“เราจะไปกันด้วยความเร็วเท่าที่คุณโตโต้ไหว”

“เอสจะอยู่ข้างๆพวกคุณ"

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพยายามเรียกสติของตนเองกลับมาให้ได้”

“พร้อมแล้ว…” ผมกล่าวก่อนที่จะหยุดลงเพื่อตั้งสติโดยการสูดลมหายใจเข้าลึกๆและปล่อยออกมา

“ลุย!” เมื่อผมกล่าวพบมานาสีน้ำเงินก็ได้เคลื่อนไหวจากหน้าแขนของผมเข้าสู่อาวุธหอกในทันที ทำให้หอกของผมเปล่งแสงออกมาเป็นสีน้ำเงิน และมีคลื่นพลังปกคลุม การทำเช่นนี้มันทำให้ทุกคนตกใจเป็นอย่างมาก มันดูแข็งแกร่งกว่าการโจมตีของหงส์ซะอีก

ฟิ้วว คลื่นนนน

ผมพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด เป็นการบุกทะลวงทางเบื้องหน้าอย่างสุดความสามารถ และมันทำให้พวกซอมบี้ที่อยู่ตามทางถูกผมชนกระเด็น และชนอีกครั้งทำให้ร่างของพวกมันกลายเป็นเศษเนื้อ

“อะไรวะนั่นอะ!?” โตโต้สบถออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่เคยเห็นอะไรทรงพลังเช่นนี้มาก่อน เพราะฉะนั้นมันก็ไม่แปลกที่พวกทหารติดอาวุธปืนเป็นสิบๆนายจะทำอะไรเขาไม่ได้ ซึ่งเมื่อคนคนนั้นพุ่งออกไป ทุกคนก็ได้วิ่งตามไปเช่นกัน

“เราเจอซอมบี้ก็อบลิน 3 ตัว!” ผมกล่าวเมื่อมาถึงครึ่งทาง ด้วยความที่มีเศษผลึกสีเขียวมากขึ้น ผมก็คิดอยู่ในใจ เพราะโดยปกติแล้วพวกซอมบี้ก็อบลินจะเคลื่อนไหวกันเป็น 9 ตัวอย่างต่ำ แต่ที่ผมเจอคือมันมีเพียง 7 นี่คงจะเป็นคำตอบ เพราะสมาชิกที่เหลือคงจะอยู่ที่ดันเจี้ยนหรือจุดกำเนิดของพวกมัน

เคี๊ยก-ฉับ

พวกมันได้เพียงแค่ร้องออกมาแอะเดียวก็โดนผมฟันคอขาดไปหนึ่งตัว หัวของมันปลิวไปทางควีน ทำให้เธอสับสนมาก ว่าไอตัวเวรนี่มันมีอยู่บนโลกด้วยงั้นหรือ?

“มันคือมอนสเตอร์ซอมบี้!”

“ระวังด้วยมันแตกต่างจากซอมบี้!” ผมกล่าวเตือนในขณะที่ควีนกำลังพุ่งเข้าไปจัดการหนึ่งก็อบลินซอมบี้หนึ่งตัวที่กำลังตั้งท่าเตรียมจะตระครุบผม

เคี๊ยก เคี๊ยก ฉึก

หมับ!

ตุบ ฉึก

ควีนต้องโจมตีไปถึงสามครั้งในการฆ่ามัน สองครั้งแรกไม่โดนมันเพราะอีกตัวหนี่งเข้ามาขวาง อีกการโจมตีหนึ่งเพื่อเป็นการไล่ตัวที่เข้ามาขวางออกไป และฆ่ามันทิ้ง แต่ในตอนนั้นเอง ตัวที่ถูกช่วยเอาไว้ก็กำลังพุ่งเข้าหาควีน  ซึ่งก็ได้เอสที่สามารถปกป้องควีนไว้ทันด้วยการจับหัวของมันกดลงพื้นและใช้ขวานสับเข้าไปกลางหัวของมัน

“อึก..” โตโต้ถึงกับสะอึก เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งของพวกเขาอย่างชัดเจน ซึ่งทันทีที่เหตุการณ์นี้จบลง ผมก็วิ่งนำไปต่อพร้อมกับจัดการซอมบี้ไปมากมายด้วยพลังมานาของผม ทำให้คนเบื้องหลังมีหน้าที่แค่วิ่งตาม ส่วนคนที่สู้จริงๆมีเพียงแค่ผม ควีน หงส์และเอส ผมจะเป็นคนเปิดทาง ควีนจะเก็บส่วนเหลือที่ผมฆ่าไม่หมด หงส์มีหน้าที่ยิงมานาออกไปเบื้องหน้าเพื่อเป็นแสงสว่าง ส่วนเอส ตามที่ผมบอกคือเขาจะอยู่ข้างๆทุกคน ไม่ว่าใครจะอยู่ในอันตราย เอสจะปรากฏตัวออกมาและจัดการให้ในทันที

“เราใกล้ถึงแล้ว!” ผมกล่าวเมื่อผลึกสีเขียวมีมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมหยุดใช้มานาลง

“ข้างหน้ามีพวกมันมากเกินไป!” ควีนกล่าว เพราะควีนอยู่ในระดับแนวหน้าเดียวกันกับผม

“ไม่ต้องห่วง” ผมกล่าวพร้อมกับเงาได้ปรากฏตัวข้างบนกลุ่มซอมบี้

ฉึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เสียงการโจมตีเกิดขึ้นในทันทีที่เงานั้นหายไปอีกครั้ง ก่อนที่พวกซอมบี้จะหัวหลุดร่วงลงพื้น แต่มันก็ยังคงมีซอมบี้ที่อยู่ใกล้กับหินสีเขียวอีกเป็นสิบตัวเช่นกัน

ฟิ้ววว ฉับ!

ผมได้จับที่ปลายด้ามหอกและเหวี่ยงมันออกไป ทำให้ปลายแหลมคมของหอกได้ตัดผ่านคอของพวกซอมบี้มากมายในบริเวณนั้น จนพวกมันทรุดลงพื้นกันไปหมด และการโจมตีของผมไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ต่างสร้างความประทับใจหรือกำลังใจให้กับทุกคนในทีม ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่สนใจผมมากที่สุดจะเป็นโตโต้

“จัดการเลยหงส์!” ผมกล่าวพร้อมกับหงส์ที่หยิบอาวุธสงคราม ปืน AK ออกมาจากมิติและเล็งไปที่หินผลึกสีเขียว ก่อนที่จะมีมานาของเธอไหลเวียนเข้าสู่อาวุธปืนและเน้นไปที่แม็กกระสุนปืน

ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง เพล้งง

เธอได้ยิงออกไปเป็นจังหวะเพื่อให้กระสุนทับซ้อนกัน และทะลุเข้าไปในผลึกสีเขียว จนในที่สุดผลึกสีเขียวก็ได้แตกสลายออกไป ภาพเดิมๆ

“แกนกลางของผลึกสีเขียว” ผมกล่าวเมื่อเดินเข้าไปหยิบแกนกลางผลึกสีเขียวออกมา ซึ่งแน่นอนว่ามันจำเป็นสำหรับการนำไปใช้ทำอาวุธกลายพันธ์

[ปาร์ตี้ของคุณได้ทำลายดันเจี้ยนเป็นที่แรกของโลก]

[ทุกคนในปาร์ตี้ได้รับฉายา]

เมื่อข้อความของระบบสลายไป ทุกคนต่างตรวจสอบฉายานั้นทันที ‘ผู้บุกเบิก’ ส่วนคำอธิบายของฉายาคือ ได้รับจากการทำลายดันเจี้ยนเป็นที่แรกของโลก คุณสมบัติ : เมื่อเข้าสู่ดันเจี้ยน หากมีบุคคลที่มีฉายานี้อยู่ในปาร์ตี้ ทุกคนจะได้รับของรางวัลเป็นสองเท่า รวมถึงเยลลี่สีเขียว

“ในอนาคตเราจะกลายเป็นคนดังแน่ๆ!” ฟิวส์กล่าวออกมา เพราะด้วยเอฟเฟคความสามารถนี้ เพียงแค่พกเราไปด้วยตอนลุยดันเจี้ยน มันจะทำให้ทรัพยากรที่จะได้รับจากดันเจี้ยนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า! พวกเราจะเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดที่มีประโยชน์สำหรับผู้เล่นทั้งโลก

ซึ่งการที่มันจบง่ายเช่นนี้มีเพียงอย่างเดียว นั่นก็คือการ 'เตรียมตัว' เราทำตัวเองให้พร้อมที่สุด แข็งแกร่งที่สุด และมีแผนที่ดีที่สุด แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้อีก ถ้าสิ่งพวกนี้ไม่ได้มาจากความคิดและความรู้ของมังกร เพราะมังกรนั้นรู้ทุกอย่าง ทั้งจุดเด่น จุดอ่อน รวมทั้งยังมีความรู้เรื่องดันเจี้ยนที่ดีมากๆ จึงสามารถวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนจนจบการทำลายดันเจี้ยนลงได้ ทั้งทุกคนในทีมยังปลอดภัยอีกด้วย

‘สุดยอด’ โตโต้คิดในใจด้วยตาที่เป็นประกาย คนคนนี้แหละที่ตนจะเกาะเบื้องหลังของเขา และตนจะรอดปลอดภัยจากทุกสิ่ง!

โฮกกก

เสียงคำรามทำให้เหล่าผู้มีทักษะติดตัว SEN ต่างสะดุ้ง มันคือเสียงคำรามของซอมบี้มีท ซอมบี้กลายพันธ์ระดับสอง ซึ่งเมื่อทุกคนที่มีทักษะติดตัวนี้ลองตรวจสอบ ปรากฏว่าพวกมันกำลังขึ้นมาบนอาคาร และน่าจะเข้ามาในดันเจี้ยนที่ถูกทำลายลง เมื่อทุกคนรู้เช่นนี้ถึงกับตาโตกันทันที ควีนได้หันมามองหน้าผมราวกับต้องการความคิดเห็นว่าควรทำอย่างไร

“ทุกคน”

“ตอนนี้เราอยู่ในอันตรายแล้ว” ผมกล่าวก่อนที่จะเตรียมตัวอีกครั้งเพื่อออกไปจากดันเจี้ยน และเผชิญหน้ากับพวกซอมบี้มีท

“หืม?” ความดีใจของทุกคนได้หยุดลงและหันมาฟังผม

“ซอมบี้มีท”

“ไอกล้ามยักษ์ใหญ่เวรนั่นมันอยู่หน้าดันเจี้ยน!” เมื่อผมกล่าวจบทุกคนต่างจมลงไปสู่ความสิ้นหวัง ถ้าหากมันเข้ามาในดันเจี้ยนแล้วเราคงจะไม่มีทางรอดออกไปแน่ๆ เพราะแค่ตัวมันก็เกือบจะปิดทางมิดแล้ว ทั้งไม่ได้มีพวกมันแค่ตัวเดียว แต่มีถึงสาม! มันจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้ในการหนี

และถ้าหากต้องสู้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างมังกรยังคงแสดงสีหน้าตึงเครียดออกมา มันทำให้พวกเขาเริ่มคิดว่าเราอาจจะตายจริงๆ

‘เขาจะไม่แสดงความคิดเห็นอะไรสักหน่อยเลยงั้นหรือ?’ ผมคิดในใจเมื่อโตโต้ไม่กล่าวอะไรออกมา หรือเขากำลังทดสอบการตัดสินใจของผมอยู่?

“ฟิวส์”

“คุณคิดว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการเตรียมพร้อม?” ผมกล่าวถึงเครื่องบินของฟิวส์ เพราะเรามีแผนว่าจะใช้เครื่องบินไปจากที่นี่ ซึ่งเรายังไม่ทราบเกี่ยวกับน้ำมันและความพร้อมของเครื่องยนต์ โดยที่ผมก็คิดว่าเราไม่สามารถเอาชนะซอมบี้มีทในตอนนี้ได้แน่ๆ แต่ถ้าหากเราได้ฟื้นฟูและเพิ่มเลเวล เราอาจจะฆ่ามันได้อย่างปลอดภัย

ผมจึงคิดว่าจะไปยื้อพวกมัน ให้ฟิวส์พร้อมนำเครื่องขึ้น และพวกของหงส์พร้อมที่จะกลับไปยังเซฟโซน แต่ก่อนหน้านั้นคงต้องขอยืมมือพวกเขาในการช่วยเหลือ เพราะแน่นอนว่าผมไม่สามารถรับมือพวกมันได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ

“30 นาที”

“ไม่สิ…ผมขอแค่ 20 นาที" ฟิวส์กล่าวออกมา เขาเองก็พอจะรับรู้สถานการณ์ ในตอนนี้ไม่สามารถเดินเล่นกันได้อีกแล้ว เขาต้องรีบเตรียมพร้อมให้ไวที่สุด!

“ตกลง”

“ผมจะเป็นคนล่อพวกมันออกไปเอง” ผมกล่าวด้วยความกดดัน เพราะผมเชื่อว่าถ้าเป็นผม ผมคงจะสามารถทำอะไรสักอย่างได้แน่ๆ และผมยังคงมีทักษะติดตัว REGEN ในการฟื้นฟูตนเอง ถึงแม้ผมจะเชื่อว่าเอสสามารถลากพวกมันออกไปได้ก็ตาม แต่ถ้าผิดพลาด เขาโดนเพียงการโจมตีเดียวก็อาจจะปางตายได้ เพราะพื้นที่มันแคบ

“แต่-” ในขณะที่เอสกำลังจะท้วง

“นายก็รีบตามออกมาช่วยล่ะกัน” ผมกล่าวตัดบทก่อนที่จะเดินนำไปในทันที

“มังกร…ลูกอย่าฝืนตัวเอง”

“ได้โปรด” แม่กล่าวออกมาทั้งน้ำตา มันทำให้ผมถึงกับหยุดชะงัก

“เชื่อใจมังกรนะครับ”

“ในตอนนี้ไม่ว่าอะไรทำได้ก็ต้องทำ”

“เราไม่ได้สู้เพื่อไอเท็ม”

“เราไม่ได้สู้เพื่ออัพเลเวล”

“แต่เราสู้เพื่อรอดชีวิต”

“และเราต้องทำให้ผู้รอดชีวิตทุกคนแข็งแกร่งจนสามารถกำจัดพวกซอมบี้ได้”

“โลกเราจะได้กลับมาเป็นเหมือนเดิม” ผมกล่าวจบก็เดินต่อไป และคำพูดของผมดูเหมือนมันจะไปเข้าความคิดใครหลายคนเข้า โดยเฉพาะโตโต้

‘งั้นหรือ…’

‘นั่นคือเป้าหมายของเขา’

‘ฉันเองก็…’ โตโต้คิดในใจพลางยกมือทั้งสองมือขึ้นมามองดู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel