บท
ตั้งค่า

พื้นฐานที่ต้องจำ!

“อืม…”

“ตื่นแล้วงั้นหรือ?” ผมกล่าวถามเมื่อชายที่นอนสลบอยู่บนเตียงส่งเสียง

“หืม!?” และการทักทายของผมมันทำให้เขาถึงกับสะดุ้งและลุกขึ้นนั่งในทันที

“ที่นี่…ปลอดภัยไหม?” เขากล่าวถามออกมาเป็นประโยคแรก ซึ่งผมก็พยักหน้าให้กับเขา

โดยที่หลังจากผมได้วางร่างเขาลงบนเตียงนอน ผมก็ขอใช้ชุดเซ็ตอาบน้ำในห้องของเขาไปหนึ่งเซ็ต เนื่องจากทุกๆห้องจะมีอยู่ 2 เซ็ต ผมจึงได้ทำความสะอาดเนื้อตัวโดยการอาบน้ำและเปลี่ยนชุดซะใหม่ ทิ้งชุดเดิมที่เปื้อนไปด้วยเลือดของซอมบี้

“จัดการตัวเอง"

“อาหารอยู่บนโต๊ะ”

“เมื่อพร้อมแล้วก็ขึ้นไปที่ชั้นดาดฟ้า” ผมกล่าวก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปในทันที ซึ่งผมได้ให้แม่ทำเสต็กไก่ให้ เนื้อไก่ก็นำมาจากห้องครัวของโรงแรม เนื่องจากวัตถุดิบอาหารของโรงแรมยังถูกเก็บไว้อย่างดี และเราก็ได้เข้ายึดที่นั่นเป็นที่เรียบร้อย ทั้งยังมีไวน์ให้เขาดื่มอีก เรียกได้ว่าเป็นมื้ออาหารสุดหรูในโลกาวินาศเลยก็ว่าได้

“ขอบคุณครับ” เขากล่าวออกมาก่อนที่ผมจะปิดประตูห้อง ซึ่งมันทำให้ผมนิ่งค้างไปสักพักก่อนที่จะยิ้มออกมาและปิดประตูห้องลง

“มันก็น่าลุ้นอยู่บ้าง” ผมกล่าวออกมาระหว่างเดินไปที่ทางขึ้นชั้นดาดฟ้า โดยที่เราได้ปิดกั้นบันไดทางขึ้นสู่ชั้น 15 ไม่ว่าจะเป็นทางหนีไฟหรือบันไดปกติก็ตาม ซึ่งทำให้ทางเดียวที่ขึ้นมายังชั้น 15 ได้คือลิฟท์

สเตตัสเริ่มต้น

ผู้เล่น : ฟิวส์

ระดับ : -

เลเวล : -

สถานะปัจจุบัน : หวาดระแวง

ทักษะติดตัว : -

พละกำลัง : 40/100

ความว่องไว : 35/100

พลังป้องกัน : 38/100

ความฉลาด : 60/100

ศักยภาพการเติบโต : 5

ศักยภาพมานา : ?

ทักษะของผู้เล่น : ความเป็นผู้นำ S , การขับขี่ S , ไหวพริบ A , จิต A , เอาชีวิตรอด B , การต่อสู้ C

ป้ายกำกับ : ผู้กล้าที่เมตตา

ผมยกยิ้มมุมปากเมื่อนึกถึงป้ายกำกับของเขา เขาอาจจะเป็นวีรบุรุษในอนาคต หรืออาจจะเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดที่สำคัญมากๆ เพราะเขามีทักษะในเรื่องการขับขี่ ในอนาคตสำคัญมากในการรวบรวมมนุษย์เขาด้วยกันและสร้างสังคมขึ้นมาใหม่ เพราะเราจะต้องไปทุกๆประเทศ และเราไม่สามารถเดินทางได้ด้วยการขับรถแน่ๆ ถึงกระนั้น ฟิวส์มีความสามารถในเรื่องการขับขี่ระดับ S เดาว่าเขาน่าจะมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการขับขี่พาหนะต่างๆอย่างแน่นอน

ฟึบ

“เป็นไงบ้าง?” ผมกล่าวถามหงส์ที่เพิ่งออกมาจากห้องของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น

“หงส์เช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอแล้ว” หงส์กล่าวออกมาซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆเล็กน้อยกับสิ่งที่ผมกระทำ เพราะเมื่อผมปล่อยชายคนนั้นไว้บนเตียงผมก็ไปจัดการตัวเองทันที ปล่อยให้เขานอนในสภาพเน่าๆแบบนั้น แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะถึงยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย เขาควรจะต้องดูแลตนเอง

“แต่เธอก็ยังคงนอนไม่รู้สึกตัว” หงส์กล่าวอีกครั้งก่อนที่จะถอนหายใจออกมา เพราะเธอก็ได้ปฐมพยาบาลไปพอสมควรแล้ว เนื่องจากชาเบตะอ่อนแรงมาก หงส์จึงเจาะเข็มที่ข้อพับแขนของเธอและให้น้ำเกลือไป โดยที่หงส์ได้เก็บอุปกรณ์พวกนั้นมาจากที่ห้องของเธอ เพราะในห้องพักมีอุปกรณ์เกี่ยวกับการรักษาเยอะพอสมควร เนื่องจากเธอต้องฝึกปฏิบัติอยู่ตลอดเวลากับหุ่น

“เธอทำดีแล้ว"

“เราไปชั้นดาดฟ้ากันเถอะ” ผมกล่าว ซึ่งชั้นดาดฟ้าของเขาในตอนนี้นับได้ว่าเป็นสถานที่รวมตัวในการสังเกตการณ์บริเวณรอบๆโรงแรม รวมถึงเป็นที่ไว้ฝึกทักษะต่างๆโดยที่มีผมคอยสอน จะว่าไปแล้วหงส์เองก็กระตือรือร้นเกี่ยวกับการฝึกเป็นอย่างมาก ซึ่งผมเข้าใจความรู้สึกนั้นดี กับการที่ต้องฝึกฝนให้ตนเองแข็งแกร่งจนสามารถปกป้องคนรอบข้างได้

ณ ชั้นดาดฟ้าของโรงแรม

ในตอนนี้ทั้งสามคน พ่อของผม น้องสาวของผมและเอส ต่างตั้งหน้าตั้งตาฝึกทักษะการต่อสู้ระยะประชิดกันอย่างบ้าคลั่ง เพราะเมื่อคืนหลังจากที่แม่หลับไปแล้วผมได้มาพบกับพ่อที่กำลังยิงธนูอยู่ชั้นดาดฟ้า เขาพยายามยิงหัวพวกซอมบี้ที่อยู่เบื้องล่าง ในอดีตพ่อเคยเป็นแชมป์ยิงธนูระดับประเทศ แต่ความชอบนั้นก็ต้องดับสูญไปเมื่อมาพบกับแม่ ไม่มีใครสั่งให้เขาเลิกเป็นนักกีฬา แต่เป็นเพราะว่าเขาเบื่อเพียงเท่านั้น และอยากจะใช้ชีวิตคู่โดยที่ต้องการมาช่วยแม่บริหารร้านอาหารจนก่อนที่โลกาวินาศจะเกิดขึ้น ซึ่งร้านอาหารก็กลายเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงพอสมควร

โดยที่พ่อเป็นคนกล่าวกับผมเอง ว่าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นไม่ว่ายังไงก็ตาม เขาอยากจะปกป้องภรรยาและลูกๆของเขาให้รอดปลอดภัย แต่ในเมื่อทั้งลูกชายและลูกสาวของเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เขาจึงมีเป้าหมายเพียงปกป้องภรรยาและสนับสนุนลูกๆของตนก็พอ ผมจึงให้สัญญาว่าจะฝึกพ่อให้แข็งแกร่งตามที่ท่านต้องการ

‘ฉันคงต้องอัดเลเวลให้กับเอสจนยกระดับเป็นผู้เล่น’ ผมคิดในใจพลางมองดูการต่อสู้กันระหว่างหงส์และเอส หงส์ที่มีความแม่นยำในการโจมตียังไม่สามารถโจมตีเอสได้หลังจากที่เอสเรียนรู้เทคนิคการต่อสู้จากผมไปบ้าง

นี่ถ้าหากเขามีทักษะการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมเมื่อไหร่ เขาคงจะกลายเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอดระดับแนวหน้าที่แข็งแกร่งมากๆอย่างแน่นอน

แต่กลับกัน

เอสเองก็ไม่สามารถโจมตีหงส์ได้ เขาทำได้มากที่สุดคือเข้าประชิดตัวหงส์ แต่ด้วยทักษะติดตัวของหงส์ทำให้เธอไหวตัวทันและออกมาจากบริเวณนั้นได้ ซึ่งจากที่ผมมองดู ถ้าหากให้ทั้งสองรุมโจมตีผมแล้ว ผมคิดว่าผมสามารถปัดเป่าการโจมตีพวกนั้นได้อย่างง่ายดาย เพราะพวกเขายังมีช่องโหว่ในการขยับตัวเยอะมากๆ มันก็ไม่แปลกเพราะว่าพวกเขายังคงเป็นผู้เริ่มต้นที่เริ่มฝึกการต่อสู้สำหรับผม

‘และคงต้องรีบส่งเอสกลับไปช่วยเหลือควีน’ ผมคิดในใจอีกครั้งเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่ผมคาดหวังเอาไว้ ผมต้องการให้เธอเป็นผู้นำของเซฟโซนที่ดีที่สุดในโลก ส่วนผมจะต้องไปปกครองต้นกำเนิดโพชั่นสีฟ้า ที่นั่นสำคัญกว่าเซฟโซนซะอีก เพราะถ้าหากเราไม่มีโพชั่นสีฟ้า มนุษย์จะใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมาก รวมถึงยังมีร้านค้าในวันสิ้นโลกคลาส S ที่จะสุ่มของมาขาย ซึ่งของที่ขายในร้านค้าต่างเป็นของที่มีประโยชน์สำหรับการต่อสู้กับพวกซอมบี้

แต่ก่อนที่จะคิดถึงตอนนั้น คงต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จเสียก่อน โดยผมต้องการจะเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น แต่ในเมื่อผมได้เจอกับกัปตันเครื่องบินฝีมือดี เขาจะเป็นประโยชน์กับผมมาก ส่วนชาเบตะที่อยู่ในวงไอดอลของประเทศญี่ปุ่น ผมคงยังไม่สามารถหางานให้เธอทำได้ เพราะผมยังไม่ได้ใช้ดวงตาแห่งความจริงกับเธอจึงไม่แน่ใจว่าเธอถนัดงานอะไร

“หงส์หยุดฝึกก่อน”

“เธอรีบไปฝึกควบคุมมานา"

"เพื่อให้สามารถใช้ลูกศรมานาแทนลูกธนูได้” ผมกล่าวทำให้การซ้อมของเอสและหงส์ได้หยุดลง ซึ่งทุกๆคนต่างทำตามคำสั่งของผมอย่างเคร่งครัด ในตอนนี้แม่เองก็สามารถยอมรับสถานการณ์ของโลกในปัจจุบันได้แล้ว และเริ่มที่จะต้องการฝึกการต่อสู้ด้วย แต่ด้วยความที่ทั้งชีวิตเธอทำอาหารมาโดยตลอด ไม่เคยฆ่าคน และเป็นคนโลกสวยมากๆ ทำให้การฝึกค่อนข้างยากสำหรับเธอ ถึงกระนั้นเธอก็มีความสามารถในการใช้มีดพอสมควร

ผมจึงให้แม่เป็นคนที่คอยเก็บเยลลี่สีเขียวจากสมองของพวกซอมบี้ เพื่อให้เธอคุ้นชินกับการผ่าหัวของพวกมัน ซึ่งมันก็เป็นเรื่องดีที่ทุกๆคนในครอบครัวของผมโหยหาความแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเองและครอบครัวของ

“ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมจะเริ่มฝึกเอสตัวต่อตัว” ผมกล่าวออกมาอย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครคัดค้าน โดยที่เจ้าตัวเองก็ดีใจมากที่ผมกล่าวเช่นนี้ เขาต้องการที่จะแข็งแกร่งและคอยช่วยเหลือผมที่เป็นเจ้านาย เป้าหมายของเขาในชีวิตตอนนี้นั้นมีเพียงอย่างเดียว นั่นไม่ใช่คือการมีชีวิตรอด แต่คือการฆ่าล้างพวกซอมบี้จากคำสั่งจากผม แต่ถ้าหากผมสั่งให้เขาไปทำอย่างอื่นเขาก็ไม่คัดค้านแต่อย่างใด

“และการกวาดล้างชั้นต่างๆในโรงแรมจะเป็นหน้าที่ของหงส์และพ่อ” แต่เมื่อผมกล่าวอีกครั้งมันทำให้แม่แสดงอาการเป็นห่วงออกมาทันที เพราะถึงยังไงพ่อเองก็มีอายุมากแล้ว แต่ยังต้องไปเสี่ยงชีวิตสู้กับพวกซอมบี้ และยังคงมีลูกสาวที่เป็นดั่งสมบัติของครอบครัวด้วยอีก

“นี่คืออาวุธที่ผมได้มาจากชั้น 3”

“มันคืออาวุธสงครามของพวกมาเฟีย” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบปืน AK M4 M16 ออกมาวางบนโต๊ะประดิษฐ์ มันคือโต๊ะสำหรับการสร้างลูกธนูและอาวุธอื่น ซึ่งการที่ผมนำอาวุธสงครามพวกนี้ออกมาวางไว้ มันสร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกๆคนในทันที

“แต่พี่บอกห้ามใช้ปืน?” หงส์กล่าวถามด้วยความสงสัย เพราะมันคือพื้นฐานที่เหล่าผู้รอดชีวิตต้องจำไว้เป็นอย่างดี เพราะการส่งเสียงดัง จะทำให้พวกซอมบี้กรูเข้าหาเสียงในทันที ซึ่งเราจะถูกรุมล้อมจากพวกมันจนไร้หนทางรอด

“นั่นมันช่วงที่เรายังไม่แข็งแกร่ง”

“เราจะใช้ปืนในการกวาดล้างซอมบี้ในเขตสนามบิน” เมื่อผมกล่าวถึงสนามบินมันทำให้พวกเขาถึงกับขนลุก เพราะเพียงถูกรุมล้อมไปด้วยพวกซอมบี้ในบริเวณโรงแรม ก็อยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะไปไหนไม่ได้แล้ว ถ้าหากเข้าไปในสนามบินที่มีแต่ผู้คนมากมายกว่าตรงนี้ มันคงจะเป็นสถานที่สุดท้ายของพวกเราแน่ๆ ซึ่งมันก็จริง แต่ถ้าในตอนนั้นพวกเราเตรียมพร้อมสุดๆ คงจะไม่มีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

แน่นอนว่าการที่พวกเราถูกรุมล้อมในตอนนี้ มันก็คือแผนของผม มันไม่ใช่สถานการณ์ที่น่ากลัว ผมได้มองหาทางหนีทีไล่ไว้เรียบร้อยแล้วถ้าหากเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเราจะสามารถหนีไปได้ในทันที

แอ๊ดด

เสียงเปิดประตูขึ้นสู่ดาดฟ้า และคนที่เปิดประตูน่าจะเป็นชายที่ผมได้ช่วยชีวิตเอาไว้ ทุกสายตาจึงได้จับจ้องไปที่เขาในทันที รวมถึงผมด้วย

“คุณเป็นไงบ้าง?" ผมกล่าวถามชายคนนั้น

“ดีขึ้นมากแล้ว"

“ผมขอขอบคุณอีกครั้งครับ” เขากล่าวออกมาพร้อมกับพนมมือไหว้ผมด้วยความเคารพ ซึ่งมันก็จริง สีหน้าของเขาดีขึ้นมาก

“ไม่เป็นไร”

“เพียงแค่หลังจากนี้คุณต้องทำประโยชน์ให้กับพวกเรา” ผมกล่าวซึ่งมันทำให้เขาแสดงสีหน้าสับสนออกมา

“ตอนนี้เอาเป็นว่าคุณพักผ่อนให้มากที่สุดเสียก่อน”

“แล้วเราค่อยมาว่ากัน” ผมกล่าวอีกครั้ง โดยการที่ผมเรียกเขาขึ้นมาบนชั้นดาดฟ้าเพื่อให้เขาได้มาทำความรู้จักกับครอบครัวของผม

“ครับ” เขาตอบรับคำกล่าวของผมในทันทีก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาทักทายพ่อและแม่ของผม

‘เขาเป็นคนดีพอสมควร’ ผมคิดในใจเกี่ยวกับการกระทำที่อ่อนน้อมของเขา

“แล้วผู้หญิงคนนั้น?” เขากล่าวถามผมด้วยความสงสัย เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นคนช่วยเขาเข้ามาในห้องพักอย่างปลอดภัย

“เธอยังไม่ได้สติ”

“คงต้องปล่อยให้เธอพักผ่อนไปก่อน”

“ว่าแต่คุณชื่ออะไร?” ผมกล่าวถามเขาทั้งที่ผมรู้อยู่แล้ว

“ผมชื่อฟิวส์…" เขากล่าวออกมาเพื่อรอการตอบรับของผม

“ผมชื่อมังกร”

“ส่วนนั่นน้องสาวของผมชื่อหงส์” ผมกล่าวแนะนำตนเองและแนะนำหญิงสาวที่กำลังนั่งสมาธิ ซึ่งฟิวส์คงจะกำลังสับสนว่าหงส์นั่งสมาธิไปเพื่ออะไร? และด้วยสายตาของเขาที่มองหงส์มันบ่งบอกได้ว่าเขากำลังเห็นหญิงสาวที่สวยงามคนหนึ่งจนไม่สามารถละสายตาได้

“อ่ะแฮ่ม” ผมส่งเสียงเตือนเขาทำให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์และกลับมาสนใจผม

“ส่วนเด็กนั่นชื่อเอส” ก่อนที่ผมจะกล่าวแนะนำ S ให้เขารู้จัก

“ส่วนอาหารที่คุณได้กินไป”

“แม่ผมเป็นคนทำ” ผมกล่าวเพื่อที่จะต้องการให้เขาไปพูดคุยกับพวกผู้ใหญ่ด้วยกันซะแทน ที่จริงผมเองก็ต้องการจะไปฝึกฝนเอสด้วย เนื่องจากเวลาทุกๆวินาทีของเรานั้นมีค่ามาก เราจะต้องแข็งแกร่งกว่าใคร ต้องเป็นกำลังหลักของมนุษยชาติ และจะเป็นผู้เล่นแนวหน้าที่จะกวาดล้างพวกซอมบี้ทั่วโลก!

“เอาล่ะเอส”

“เตรียมใจไว้ดีๆ”

“เพราะฉันจะทำทุกวิถีทางให้นายแข็งแกร่งขึ้น” ผมกล่าวต่อหน้าเอส

“ผมเองก็จะทำทุกวิถีทางให้ตนเองแข็งแกร่งให้มากที่สุด” เขากล่าวออกมาเป็นการตอบรับผม

“เช่นนั้นเราก็มาเริ่มกันเลย!" ผมกล่าวก่อนที่จะตั้งท่าเตรียมต่อสู้ด้วยมือเปล่า ซึ่งเอสเองก็เช่นกัน และเมื่อเราทั้งคู่ตั้งท่าเตรียมพร้อมเสร็จสิ้น ผมก็ได้พุ่งเข้าไปกดดันเอสในทันที

และการต่อสู้ของเราหรือเรียกว่าผมกำลังรังแกเด็กก็ทำให้เป็นเป้าสายตาของพ่อแม่และฟิวส์ พวกเขาได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของผมอีกครั้งจากที่ได้เห็นเอสต่อสู้กับหงส์อย่างสูสีที่ว่าสุดยอดแล้ว ผมสามารถกดดันเอสได้อย่างง่ายดาย โดยที่เอสไม่สามารถตอบโต้ผมได้แม้แต่น้อย ทั้งที่เอสเองก็ได้พยายามดิ้นรนอย่างสุดความสามารถ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel