บท
ตั้งค่า

ตั้งใจฟังด้วยครับ!

“พ่อกับแม่เป็นยังไงบ้าง?” ผมกล่าวถามพลางเดินเข้าไปในบ้านโดยที่มีหงส์เดินอยู่ข้างๆ

“เหมือนกับคนทั่วไป…” หงส์กล่าวก่อนที่ผมจะเปิดประตูบ้าน

“ตกใจกับสถานการณ์แบบนี้…เพราะเพิ่งจะเคยเจอเป็นครั้งแรก” และเมื่อเราทั้งสองเข้ามาภายในบ้าน ผู้ให้กำเนิดเราทั้งสองก็นอนหมดสติกันไปก่อนแล้ว ดูเหมือนหงส์จะเป็นคนยกทั้งคู่ขึ้นมาบนเตียง และออกไปดูสถานการณ์ข้างนอกบ้าน

“พวกมันมีแผลบาดเจ็บ”

“น่าจะโดนกับดักของพี่” ผมกล่าว เพราะพวกมันแต่ละคนล้วนมีรอยถลอก รอยบาดแผล ส่วนคนที่ยืนถือปืนขาข้างซ้ายหัก โดยที่พวกมันพยายามทรงตัวไม่ให้เห็นอาการบาดเจ็บของพวกมัน

“ไม่มีใครอยู่ในบ้านแล้วใช่ไหม?” ผมกล่าวถามเด็กชายที่เพิ่งจะลงมาจากบันไดชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งผมได้สั่งให้เขาคอยดูสถานการณ์ไว้ห่างๆอยู่ตลอด ถึงแม้เขาจะอายุน้อยกว่าผมสองสามปี แต่ด้วยรูปร่างลักษณะของเขามันทำให้ผมเรียกเขาเป็นเด็ก

“ครับ" เขากล่าวออกมาอย่างสุภาพ

“เอานี่ไป"

“ไปหาห้องที่ว่างอยู่แล้วเพิ่มเลเวลตัวเองตามที่ฉันบอก” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบกระเป๋าเป้ออกมาจากมิติ ซึ่งภายในกระเป๋าเป้มันมีเยลลี่สีเขียวอยู่มากพอสมควร คาดว่าพอจะทำให้ S เพิ่มเลเวลได้ถึง 40 เลเวลเลยทีเดียว และในระหว่างขับรถมา ผมก็ได้บอกกล่าวกับ S ไว้แล้วเกี่ยวกับการเพิ่มเลเวล แนวทางการอัพแต้มสเตตัสของเขา รวมถึงข้อตกลงระหว่างเรา

โดยที่ผมจะให้ S เป็นเงาไปอย่างแท้จริง S จะไม่เข้าร่วมปาร์ตี้ของผมจนกว่าผมจะพร้อม เขาจะทำงานภายใต้คำสั่งของผม แต่ถ้าหากอะไรที่คิดได้ก่อนแล้วมันดี ก็ทำไปเลย และ S จะไม่ได้อยู่รอบๆตัวของพวกเรา เขาจะต้องอยู่ให้ห่างพวกเราพอสมควร นอกจากการบุกทลายดันเจี้ยน

เพราะผมเชื่อว่าในตอนนี้ มนุษย์กำลังเล็งเป้าหมายมาที่ผมและหงส์ เพราะเราทั้งสองมีเลเวลที่มากกว่าคนทั้งโลก และไปไกลเกินกว่าพวกเขาจะตามทัน ซึ่งมันจะทำให้หลายๆประเทศต้องการให้ผมออกมาชี้แจง เพราะคิดว่าผมมีข้อมูลที่พวกเขายังไม่รู้อีกมาก ผมจึงต้องรีบออกมาจากค่ายให้เร็วที่สุดเพื่อลดปัญหาลง

“ครับ” S กล่าวออกมาด้วยตาที่เป็นประกายพร้อมกับยื่นมือรับกระเป๋าเป้และเดินกลับขึ้นไปชั้น 2 ทันที

“พี่จะไปเช็คกับดักรอบๆบ้านสักหน่อย”

“ฝากที่นี่ด้วย” ผมกล่าวก่อนที่จะเปิดประตูบ้านและออกไปอีกครั้ง

โฮกกก

เสียงคำรามลั่นป่า มันทำให้ผมถึงกับสะดุ้ง ถ้าหากลองคิดถึงสัตว์ชนิดนี้แล้ว คงจะเป็นหมี ซึ่งมันอยู่ไม่ไกลจากผม ผมไม่มั่นใจว่ามันยังคงเป็นหมีธรรมดาที่ไม่ติดเชื้ออยู่หรือเปล่า แต่ที่มั่นใจเลยคือผมต้องไปหามัน ผมต้องไปดูสถานการณ์สักหน่อย

โฮกก โฮกกกฮึก

ซึ่งเมื่อผมเดินไปตามเสียง ผมก็ได้ยินเสียงคำรามของหมีดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดจุดหนึ่งที่พอจะเห็นร่างของมัน ผมจึงหยุดและซ่อนตัวหลังต้นไม้ โดยที่หมีตัวนั้นมันกำลังดิ้นไปดิ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ความยาวของตัวมันประมาณ 190 เซนติเมตรเห็นจะได้ ถึงกระนั้นแล้วตัวมันก็ใหญ่มาก แต่รอบๆตัวของมัน มีรอยบาดแผลเต็มไปหมด เดาว่ามันคงจะติดเชื้อไปเป็นที่เรียบร้อย

‘เดี๋ยวนะ…’

‘สัตว์?’ ผมที่นึกอะไรขึ้นได้ มันคือสิ่งที่สำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ นั่นก็คืออาหารในอนาคต สัตว์ที่ไม่ติดเชื้อหาได้ยากมาก แต่การบริโภคของมนุษย์นั้นไม่มีขีดจำกัด พวกสัตว์จึงถูกล่าและใช้ทำอาหารกันอย่างบ้าคลั่ง สุดท้ายพวกมันก็ตายกันไปจนหมดหรือแทบจะไม่พบสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่ติดเชื้ออีก

[แชท-ส่วนตัว]

[ควีน]

มังกร : เชื่อว่าในตอนนี้เธอน่าจะตื่นขึ้นมาแล้ว

มังกร : ไม่ต้องตกใจ เธอจะยังไม่สามารถตอบข้อความนี้ได้ นอกจากเธอจะยกระดับขึ้นเป็นผู้เล่น

มังกร : เราต้องรวบรวมสิ่งมีชีวิตที่จะนำมาเป็นอาหารได้ให้มากที่สุด

มังกร : สร้างที่เลี้ยงมัน ผสมพันธ์ และนำมาเป็นอาหารเพื่อความอยู่รอด

มังกร : ผักผลไม้ก็เช่นกัน และต้องดูแลให้ดีอย่าให้ติดเชื้อ

มังกร : จงรีบแข็งแกร่งขึ้น!

ในทันทีที่ผมคิดได้ ผมก็รีบส่งข้อความหาควีนทันที เพราะในตอนนี้ถ้าหากเราเริ่มกักเก็บสัตว์ ผักและผลไม้ ในอนาคตจะทำให้เรามีกินมีใช้ได้พอสมควร เพราะถึงยังไงแล้วสถานที่ที่ควีนอยู่ถือเป็นเซฟโซนแห่งแรกของโลก ด้วยการที่เราสามารถเคลียร์ดันเจี้ยนได้ก่อนที่พวกซอมบี้จะมีเลเวล

ส่วนเซฟโซนอื่นๆ ถึงแม้มันจะขึ้นชื่อว่าเซฟโซน แต่เพียงแค่ในสถานที่นั้นๆมันไม่มีซอมบี้ เป็นพื้นที่โล่ง หรืออาจจะเป็นใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นหลุมหลบภัย เซฟโซนที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้คงจะมีเพียงที่เดียวที่ไม่มีต้นกำเนิดซอมบี้ ซึ่งที่นั่นก็คือบริเวณมหาลัยของผม

“เราต้องฆ่ามันตอนที่ฆ่าได้” ผมกล่าวในขณะที่หมีกำลังดิ้นทุรนทุรายก่อนจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อไปอย่างสมบูรณ์ ซึ่งนอกจากซอมบี้ที่มีเลเวลแล้ว ก็จะเป็นพวกสัตว์ที่มีความแข็งแกร่งจำพวกหมี เสือหรือสิงโตนี่แหละที่น่ากลัว

“ต้องลงมือ”

“เพียงครั้งเดียว” ผมกล่าวอีกครั้งก่อนที่จะเปิดเผยตัวตนออกไปจากหลังต้นไม้ และใช้หอกของผมเขวี้ยงไปเสียบที่คอของมัน ถึงกระนั้นแล้วมันก็ยังคงขยับได้ผมจึงต้องพุ่งออกไปด้วยความเร็วและใช้ขวานของผมในการเฉาะหัวมัน

โฮกกก ฮึกฮึก…

จนในที่สุดมันก็ได้ตายลงไปเมื่อโจมตีที่หัว ซึ่งผมก็ไม่รอช้าที่จะเก็บเยลลี่สีเขียวออกมาจากสมองของมันทันที ผมไม่แน่ใจว่าในป่าแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อมากมายขนาดไหน

“ที่นี่ไม่ปลอดภัย” ผมกล่าวออกมาอย่างเร่งรีบและวิ่งกลับไปที่บ้านพักอย่างไวที่สุด

แอ๊ดด

“พี่?” เมื่อเสียงเปิดประตูบ้านดังขึ้นมันทำให้หงส์เรียกผมทันที ซึ่งเมื่อผมเข้ามาก็พบกับพ่อที่กำลังถือคันธนูและเล็งมาที่ผมเตรียมพร้อมจะยิง ส่วนแม่กำลังตกใจกลัวอย่างสุดขีดเมื่อประตูถูกเปิด

“มังกร?” เมื่อพ่อเห็นผมที่เปิดประตูเข้ามาในบ้าน เขาจึงปล่อยวางคันธนูและรีบวิ่งมาหาผม

หมับ

“มังกร…” พ่อวิ่งมากอดผมไว้แน่นส่วนแม่ เธอยังไม่สามารถลุกขึ้นเดินได้เพราะกลัวจนตัวสั่นไปหมด หงส์ทำได้เพียงกอดปลอบแม่ไว้อย่างใจเย็น เพราะเธอเองก็เคยผ่านสถานการณ์เช่นนี้มาแล้ว และเธอก็สามารถก้าวข้ามผ่านมันมาได้

“พ่อ" ผมกอดพ่อกลับในทันที ในตอนนี้ถึงแม้ผมจะคิดว่าผมเตรียมตัวมาพร้อมแล้ว เตรียมรับทุกสถานการณ์ แต่มันไม่ใช่เลย สิ่งที่ผมไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้น

“ตอนนี้ที่นี่อันตรายครับ!” ผมผละกอดออกมาจากพ่อเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผมต้องรีบกลับมาที่บ้านพักได้

“ยังไง?” พ่อกล่าวถามผมด้วยความสงสัย เพราะตอนนี้ในโลกไม่มีที่ไหนที่พูดได้เต็มปากว่าปลอดภัยทั้งนั้น มันก็อันตรายไปทั้งหมด

“สัตว์ป่า”

“พวกมันกำลังกลายเป็นซอมบี้” ผมกล่าวออกไป ซึ่งมันทำให้หงส์ที่ได้พบเจอกับซอมบี้มามากมายถึงกับอ้าปากค้าง เพราะเธอสามารถคิดตามสิ่งที่ผมจะสื่อได้

“เราต้องทำยังไง?” พ่อกล่าวถามผม ถึงแม้พ่อจะพยายามใจเย็นให้มากที่สุด แต่ในตอนนี้คนที่เป็นผู้นำครอบครัวให้ผมเป็นคนตัดสินใจ

“พรุ่งนี้เช้าเราจะต้องรีบออกไปจากที่นี่” ผมกล่าว เพราะถึงยังไงตอนนี้มันก็ช่วงเย็นแล้ว เดินทางกลางคืนในโลกาวินาศเช่นนี้มันไม่สมควรอย่างยิ่ง!

“ลูก…ฮึก…ลูก” สติของแม่ยังคงไม่กลับมา มันทำให้ผมถอนหายใจแรงออกมา ถึงแม้ผมจะเป็นคนพูดไว้เองก็ตามว่าในตอนนี้ คนที่สามารถยอมรับเรื่องในปัจจุบันได้จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่คนคนนั้นกลับเป็นแม่ของผมที่ไม่สามารถยอมรับเรื่องโลกที่เปลี่ยนไปได้

“พ่อครับ”

“หลังจากนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่าห้ามมังกร” ผมกล่าวออกไปอย่างจริงจังก่อนที่จะหันไปมองหงส์ที่กำลังกอดแม่ไว้แน่น

“หงส์ไปทำอาหาร” ผมกล่าวพลางเดินไปหาทั้งคู่ ซึ่งในเมื่อผมเป็นคนสั่ง ทำให้หงส์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าผมจะสั่งอะไร ล้วนเป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดเรื่องดีๆขึ้นตลอด และผมยังไม่เคยตัดสินใจผิดแม้แต่ครั้งเดียว

“หงส์!หงส์!” เมื่อหงส์ปล่อยกอดจากแม่ แม่ได้ร้องเรียกหงส์ในทันที ซึ่งผมก็ได้เดินเข้าไปกอดแม่ไว้แทน

“แม่ครับ…ในตอนนี้โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว” เมื่อผมเริ่มกล่าว มันทำให้พ่อถึงกับกลืนน้ำลาย

“แม่ฟังนะครับ” ผมยกมือขึ้นมาจับที่ใบหน้าของแม่ทั้งสองข้างเพื่อให้แม่ลืมตาขึ้นมามองหน้าผม

“มังกรมังกร!” เมื่อแม่ได้เห็นหน้าของผม เธอก็กอดผมไว้แน่นในทันที

“แม่ครับ!” ผมเริ่มส่งเสียงดังขึ้นเพื่อเรียกสติแม่ ส่วนพ่อ เขาถึงกับสะดุ้งเมื่อผมกล่าวเสียงดัง แต่เมื่อได้ย้อนคิดเกี่ยวกับคำพูดของผม ทำให้พ่อต้องยอมปล่อยวางและตั้งใจฟังสิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวซะแทน

“ในตอนนี้!โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว!” ผมกล่าวเน้นคำจนทำให้แม่ถึงกับนิ่งค้าง

“ฮึก…ฮืออ!” และแม่ก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

“ตั้งใจฟังด้วยครับ!” ผมกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นอีก

“ในตอนนี้แม่ต้องเรียกสติตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด!”

“แม่อยากให้ครอบครัวของเรามีชีวิตรอดไหมครับ!?” ผมกล่าวออกไป ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดที่แรง แต่มันก็ดีกว่าต้องพูดอย่างประณีประนอม ซึ่งมันใช้ไม่ได้ผลกับคนที่ขาดสติเช่นนี้

“มีชีวิต…รอด” แม่กล่าวออกมาด้วยท่าทางที่ค่อยๆเปลี่ยนไป

“แม่อาจจะยังไม่เข้าใจครับ”

“แต่ขอให้แม่เชื่อในคำพูดของมังกร”

“มังกรสัญญาว่าจะพาครอบครัวของเรามีชีวิตรอดจนกว่ามังกรจะตาย!” ผมกล่าวให้คำสัญญาออกไป มันทำให้พ่อถึงกับขนลุก

“มังกรเข้าใจว่าในตอนนี้แม่ยังตกใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”

“แต่เราไม่มีทางเลือกแล้วครับ!”

“เราต้องกัดฟันฝืนไปสถานที่ที่ปลอดภัย”

“ไปยังที่ที่เราพอจะวางใจได้ในระยะยาว!" ผมกล่าวเป็นครั้งสุดท้ายและรอดูการตอบรับของแม่ ซึ่งเธอก็ได้พยักหน้าตอบกลับมารัวๆด้วยเนื้อตัวที่สั่นไปหมด ซึ่งผมก็ได้สวมกอดเธออีกครั้ง

“หลังกินข้าวเสร็จผมมีสิ่งที่จะต้องพูดคุยกับพ่อและแม่ครับ" ผมกล่าวก่อนที่จะหันกลับไปมองหน้าพ่อ ซึ่งเขาก็ได้เดินมาหาผมทันทีและก้มลงมากอดภรรยาของตน ผมจึงค่อยๆปล่อยมือออกช้าๆและเดินขึ้นไปยังชั้นที่สอง ในตอนนี้ผมไม่สามารถทำอะไรเชื่องช้าได้ ผมจะต้องดำเนินแผนการให้ไวที่สุดเพื่ออนาคตที่เราจะสามารถป้องกันตัวเองได้จากพวกซอมบี้

ก็อกๆ

‘ครับ’ เสียงเบาได้กล่าวออกมาผ่านประตู

แอ็ดด

ผมได้เข้าไปในห้องของ S ซึ่งเขากำลังพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเขา นั่นก็คือหน้าต่างระบบ ผมคิดว่าเขาน่าจะพร้อมแล้วสำหรับการสัมผัสมานา

“เอาล่ะ…ฉันจะสอนเกี่ยวกับมานา” ผมเดินไปนั่งบนเตียงและกล่าวออกมา มันทำให้เขาสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่ผมจะกล่าวมาก เพราะมันอาจจะเป็นสิ่งที่ทำให้ผมแข็งแกร่งจนพวกทหารยำเกรง

โดยที่ผมก็ได้อธิบายเกี่ยวกับมานาไปจนหมด รวมถึงการสัมผัสมานา ระดับขั้นของมัน ซึ่ง S ก็ตั้งใจฟังผมเป็นอย่างมาก จนมาถึงขั้นตอนที่ผมจะส่งมานาเข้าในในร่างของ S เพื่อกระตุ้นการรับรู้มานาของเขา

“มันอาจจะเจ็บหน่อยนะ”

“เพราะฉันต้องการให้นายสามารถใช้มานาได้อย่างรวดเร็วที่สุด” ผมกล่าวพร้อมกับใช้มือของผมทาบไปที่แผ่นหลังของ S โดยที่เขากำลังตั้งท่าสมาธิอยู่บนที่นอน ผมจึงไม่รอช้าในการส่งมานาของผมเข้าไปในร่างของ S ทันที ซึ่งผมส่งเข้าไปมากกว่าปกติถึงสองเท่า! ผมเชื่อมั่นว่าเขาสามารถรับมันไหวและทนอาการเจ็บปวดภายในได้

คลืนน

เพราะถ้าหากเขาทนไม่ได้ นั่นหมายความว่าเขาไม่สามารถเป็นเงาได้อย่างแท้จริง ไม่ได้ไม่กลัวตาย และไม่มีแรงจูงใจพอที่จะทำให้ผมพาเขาไปต่อ

“อ๊าก!!” ในทันทีที่มานาของผมส่งตรงเข้าไปถึงหัวใจของเขา S ร้องออกมาในทันทีด้วยความเจ็บปวด แต่เขาก็ยังคงควบคุมสมาธิไว้ให้ได้มากที่สุด กัดฟันสู้กับความเจ็บปวด กำหมัดเอาไว้แน่น และพยายามเรียนรู้มานาตามที่ผมบอก

จนเวลาได้ผ่านไปเกือบชั่วโมง S สามารถรับรู้ถึงมานาในตัวของเขาได้ แต่มันก็คงน่าผิดหวังไม่น้อยเพราะว่าเขาไม่มีพรสวรรค์เกี่ยวกับมานาเลยแม้แต่นิดเดียว สีศักยภาพมานาของเขาเป็นสีดำที่มืดมิดสุดๆ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะใช้มานาไม่ได้

เขายังสามารถใช้ได้!

เพียงแต่การใช้มานาของเขา การฝึกและการควบคุมมันจะยากกว่าคนอื่นเป็นเท่าตัว ส่วนเรื่องระยะการทำลายล้างของมานา แน่นอนว่ามันคงจะทำได้มากสุดเพียงแค่ทำให้มานาปกคลุมอาวุธ และเพิ่มความแข็งแกร่งให้เท่านั้น แต่นั่นมันก็เพียงพอแล้วสำหรับอาชีพนักฆ่าของเขา เพราะการโจมตีของนักฆ่าไม่ได้ต้องการให้มันเป็นวงกว้าง ต้องการเพียงแค่ความรวดเร็ว แม่นยำ และหนักหน่วงที่จุดตาย

ผมจึงกล่าวเรื่องพวกนี้ให้กับเขารับรู้ มันจึงทำให้สีหน้าของเขานั้นดีขึ้นมาก เพราะผมเคยกล่าวไว้ว่าถ้าหากเขาไม่มีสิ่งที่ผมต้องการ ผมก็จะไม่ให้เขาตามไปด้วย นั่นหมายความว่าเขาจะถูกทิ้งให้เอาชีวิตรอดตัวคนเดียว แต่มันกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเมื่อผมกล่าวออกมา

เช้ามืดของวันถัดไป

โดยที่หลังการกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตา รวมถึงการแนะนำคนแปลกหน้าให้พ่อและแม่รู้จักนั่นก็คือ S เมื่อกินข้าวเสร็จผมก็ได้มอบผลึกสีฟ้าให้กับพ่อและแม่ ทั้งสองได้วิวัฒนาการกลายเป็นผู้เล่นเอาชีวิตรอด และผมก็ได้นำเยลลี่ส่วนที่ผมเก็บไว้ให้กับทั้งสอง เพื่อให้พ่อและแม่เพิ่มเลเวลไปถึง 20 ในทันทีที่วิวัฒนาการ

“พร้อมนะครับ” ผมกล่าว ซึ่งสีหน้าของพ่อและแม่นั้นดีขึ้นมากๆหลังจากที่ได้เรียนรู้การใช้ระบบกันอย่างยาวนาน

สเตตัสเริ่มต้น

ผู้เล่น : คุณเก่ง

ระดับ : ผู้รอดชีวิต

เลเวล : 20 

สถานะปัจจุบัน : มั่นใจ

ทักษะติดตัว : SENSORY

พละกำลัง : 28/100

ความว่องไว : 24/100

พลังป้องกัน : 25/100

ความฉลาด : 45/100

ศักยภาพการเติบโต : 5

ศักยภาพมานา : ?

ทักษะของผู้เล่น : เอาชีวิตรอด A , ไหวพริบB , การต่อสู้ B , จิต C

ป้ายกำกับ : มือธนูระดับชาติ

ผู้เล่น : นิว

ระดับ : ผู้รอดชีวิต

เลเวล : 20

สถานะปัจจุบัน : หวาดกลัว

ทักษะติดตัว : MASTERY

พละกำลัง : 17/100

ความว่องไว : 15/100

พลังป้องกัน : 15/100

ความฉลาด : 51/100

ศักยภาพการเติบโต : 4

ศักยภาพมานา : สีขาว

ทักษะของผู้เล่น : ตัดเย็บ A , ไหวพริบC , เอาชีวิตรอด C , จิต D , การต่อสู้F 

ป้ายกำกับ : คุณแม่ใจดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel