ตอนที่ 2 : คืนแรกแห่งการท้าทาย
เสียงกลองไม้ยังสะท้อนอยู่ในอก ซินเหยาหอบหายใจหลังวิ่งออกจากลานพิธี ท้องฟ้าเหนือศีรษะยังคงเรืองด้วยแสงกงล้อสีเงินจาง ๆ ราวกับจับจ้องเธอ
เธอหยุดที่เพิงไม้ร้างริมทุ่งเกลือ ยกมือแตะไหล่ที่ยังเจ็บแปลบจากการต่อสู้เมื่อตอนกลางวัน “แค่สิบวินาที…มันช่วยได้ แต่ก็หมดเร็วเหลือเกิน”
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังจากด้านหลัง “สิบวินาทีที่เจ้าช่วยเด็กสองคนนั้น มีค่ามากกว่ากฎหมายทั้งห้องศาลเสียอีก”
ซินเหยาหันขวับ ชายหนุ่มร่างโปร่งผูกผ้าแดงที่คอ—ซ่งเจี้ยน โผล่ออกมาจากเงา เขายกมือยอมรับ “อย่าตกใจ ข้าเห็นกับตาว่าเจ้าสู้พวกทหารเจ้าเหมินได้ยังไง”
“แล้วเจ้าจะรายงานข้าไหม” เธอถามเสียงเรียบ
เขาหัวเราะหยัน “ถ้าจะขายเจ้า ข้าทำไปแล้ว ข้าแค่อยากรู้…ผู้หญิงจากไหนที่กล้าเอาชีวิตสู้กับพวกมัน”
ซินเหยาจ้องเขาแวบหนึ่ง ก่อนลดเสียง “เรียกข้าว่าคนที่ไม่ทนเห็นความอยุติธรรมอีกต่อไปก็แล้วกัน”
ซ่งเจี้ยนยกคิ้ว “ถ้างั้นฟังนะ พรุ่งนี้กลางคืน พวกมันจะทำพิธีใหญ่ที่โรงงานเกลือ ทุกครั้งต้องมีการใช้ หมุดยึดกาล เป็นศูนย์กลาง ถ้าเจ้าหาโอกาสแตะมันได้ พิธีจะสั่นคลอน”
หัวใจซินเหยาเต้นแรงทันที คำว่า “หมุดยึดกาล” สอดคล้องกับสิ่งที่เธอเคยเห็นในแสงระบบ
【ระบบบันทึก】
เบาะแสใหม่: หมุดยึดกาล – จุดรวมพลังพิธีตัดวัน
ความสัมพันธ์: หากเสียหาย พิธีจะล้มเหลว
เธอกำหมัด “เจ้ารู้ตำแหน่งมันหรือไม่”
ซ่งเจี้ยนพยักหน้า “ใต้แท่นบูชากลางโรงงาน ข้าเคยเข้าไปซ่อมกลไกไฟฉายพวกมัน จึงเห็นตาเงินบนหมุดนั้น”
ซินเหยาหายใจลึก “…คืนนี้เราจะไปดู”
“เจ้าแน่ใจหรือ” เขาขมวดคิ้ว “ยามมันเฝ้าเข้มกว่าโจร”
“ถ้าข้าไม่แน่ใจ คงไม่มายืนตรงนี้หรอก” เธอเอ่ยเย็นชา
สายลมกลางคืนพัดแรงขึ้น กลิ่นเกลือแสบจมูก ซินเหยาเงยหน้ามองกงล้อเหนือฟ้า สาบานในใจ—คืนนี้เธอจะไม่ปล่อยให้ใครถูกตัดวันอีก
ลมกลางคืนพัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นเกลือแสบจมูกจนซินเหยาต้องยกแขนเสื้อปิดปาก ข้างหน้าเป็นรั้วไม้สูงที่ล้อมโรงงานเกลือไว้ เสียงยามเดินย่ำเท้าเป็นจังหวะดังชัดในความเงียบ
ซ่งเจี้ยนก้มกระซิบ “ตรงมุมรั้วตะวันตกมีช่องผุ เราเล็ดลอดเข้าไปได้ แต่ต้องรอจังหวะเปลี่ยนเวรยาม”
ซินเหยาพยักหน้า เธอใช้เวลาสังเกตทิศทางแสงคบไฟ เห็นว่าทุกครึ่งก้านธูป ยามจะสับเปลี่ยนและทิ้ง “หลุม” เงียบเพียงไม่กี่ลมหายใจ
ทันใดนั้น เงาสีขาวสะอาด ปรากฏจากอีกด้าน—หญิงสาวร่างสูงสง่าในชุดผ้าเรียบขาว ปักปิ่นเงินแวววาวก้าวออกมาราวกับไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย เธอคือ เซียวซินเหยา ที่ยังปรับตัวเข้ากับร่างใหม่ไม่ทัน แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
ยามสองนายหันมา “เจ้าเป็นใคร!”
ซินเหยาชูตราไม้ที่เก็บได้จากศาลาว่าการเมื่อช่วงบ่าย—ตราผู้ไต่สวนพิเศษ เธอตอบเสียงเรียบ “ข้าได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบการเก็บเกลือ มีข้อร้องเรียนว่ามีการยักยอก”
คำโกหกนั้นหนักแน่นพอให้ยามลังเล ก่อนหันมาปรึกษากันแล้วเปิดประตูโรงเรือนให้เข้า
ซ่งเจี้ยนอ้าปากจะพูด แต่ซินเหยาหันมาสบตา ส่ายหน้าเบา ๆ สื่อให้เข้าใจว่าเธอกำลังสร้าง “ช่องโหว่” ให้พวกเขาเล็ดลอดเข้าด้านใน
—
ภายในโรงงานมืดทึบ กลิ่นเค็มคละเหล็กสนิมตลบอบอวล แสงคบไฟสะท้อนบนแท่นบูชากลางโถง โต๊ะยาวตั้งหมุดโลหะมหึมา ปักลึกกับพื้น มี ดวงตาเงิน สลักกลางหัวหมุด มันเรืองแสงเย็นยะเยือกราวกับเฝ้าจับตาทุกการเคลื่อนไหว
ซ่งเจี้ยนหอบเบา ๆ “นั่นแหละ…หมุดยึดกาล”
【ระบบวิเคราะห์】
วัตถุ: หมุดยึดกาล
จุดเปราะ: ดวงตาเงิน
ผลหากเสียหาย: พิธีตัดวันผิดพลาดสูง
ซินเหยาขบฟัน เธอก้าวเข้าใกล้ช้า ๆ ใช้ปลายเหล็กงัดที่ได้จากลุงหูเคาะเบา ๆ รอยขีดบางปรากฏบนขอบตาเงิน—เส้นผมเล็กจิ๋ว แต่เพียงพอจะเป็น “เมล็ดแตกหัก”
ทันใดนั้นเสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นจากทางเดิน “ใครอยู่ตรงนั้น!”
ยามสองนายกรูกันเข้ามา ซ่งเจี้ยนสะดุ้ง ซินเหยาคว้าแขนเขา กระซิบแผ่ว “อย่าสู้—ตามข้ามา” เธอหมุนตัวพาเขากลิ้งหลบเข้าเงาเสาไม้ หัวใจเต้นแรงจนได้ยินชัดในหู
ยามชะเง้อมอง แต่เห็นเพียงเงาไฟสั่นไหว จึงบ่น “หนูสกปรกอีกแล้ว” ก่อนถอยกลับ
เมื่อเงียบลง ซ่งเจี้ยนกัดฟัน “เกือบไปแล้ว”
ซินเหยาเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก “คืนนี้เราแค่ฝากรอย ไม่ใช่ทำลาย…ถ้าพิธีเริ่ม พวกมันจะไม่รู้ว่ารอยนี้คือจุดจบของตัวเอง”
เธอมองหมุดกาลอีกครั้ง ดวงตาเงินยังส่องวาวเหมือนหัวเราะเยาะ แต่ในใจซินเหยากลับได้คำตอบชัดเจน—เส้นทางการต่อสู้เพิ่งเริ่มต้น
คืนคลี่คลายสู่ความเงียบ แต่ในอกซินเหยากลับดังเหมือนกลองรบ เธอเดินกลับหมู่บ้านพร้อมซ่งเจี้ยน เสียงฝีเท้าสองคู่ก้องไปตามเส้นทางดินเปียก
“คืนนี้เราทำได้มากแล้ว” ซ่งเจี้ยนพูดเหมือนปลอบใจ “แค่ฝากรอยเล็ก ๆ ไว้ พรุ่งนี้พิธีจะสั่นเอง”
ซินเหยาไม่ตอบทันที เธอยังคงกังวล “แต่หากมันไม่พัง รอยที่เราทำก็แค่ลมปาก กงล้อจะไม่เมตตาเราอีก”
ทันใดนั้น เสียงทารกในบ้านไม้ใกล้ ๆ ร้องไห้ แม่วัยสาวอุ้มลูกออกมาตรงหน้าพวกเขา น้ำตาไหลพราก “ท่านหญิง…คืนนี้ขอบคุณที่ช่วยเด็ก ๆ ของบ้านอื่น ข้าไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ครอบครัวข้าจะถูกเลือกหรือไม่ แต่ขอให้ท่านรับของนี้”
เธอยื่นถุงผ้าเล็ก ๆ ให้ ข้างในคือ เศษเฟืองโลหะเล็กเท่าปลายนิ้ว
【ระบบแจ้งเตือน】
ตรวจพบเศษเฟือง +1
คลังปัจจุบัน: 2
ซินเหยากำของนั้นแน่น “…นี่คือความหวังของพวกเขา”
ซ่งเจี้ยนพยักหน้า “ใช่ แต่ความหวังไม่พอ ต้องมีแผน พรุ่งนี้ถ้าเจ้าเหมินเอาคนจากบ้านนี้ไปจริง เจ้าจะใช้สิบวินาทีนั้นอย่างไร”
คำถามนั้นทิ่มแทงใจ เธอนิ่งไปนาน ก่อนตอบเสียงเบา “สิบวินาที…อาจไม่มากพอช่วยทุกคน แต่ถ้าเลือกได้ ข้าจะใช้มันเพื่อเปิดทางให้คนอื่นหนี แม้จะแลกด้วยชีวิตข้าเองก็ตาม”
ซ่งเจี้ยนชะงัก หันมองเธอด้วยแววตาตกใจ “เจ้า…พูดจริง?”
“ข้าเป็นทนาย” เธอตอบนิ่ง “หน้าที่ทนายคือยืนแทนคนที่ไม่มีเสียง ในโลกนี้ หากไม่มีศาล ข้าก็จะเป็นศาลให้เอง”
—
รุ่งเช้า ฟ้าสีเทาอึมครึมเหมือนรู้ชะตาของวันนี้ ชาวบ้านรวมตัวกลางลานด้วยใบหน้าซีดเผือด เสียงกลองไม้ดังสามครั้ง ธงเฟืองครึ่งซีกโบกสะบัด ขบวนทหารก้าวเข้ามาอย่างสง่า
เหมินอี้ปรากฏกายอีกครั้ง ดวงตาเย็นลึกจนเหมือนเหล็ก “เมื่อคืนมีมือสกปรกแตะต้องหมุดกาลของเรา…” เขายกชิ้นเหล็กโค้งขึ้นสูงให้ทุกคนเห็น “แต่พิธีคืนนี้…จะดำเนินต่อไป”
เสียงฝูงชนแตกฮือ ความกลัวซัดซ้อนหนักหน่วง
ซินเหยากำเฟืองในมือแน่น ใจเต้นระรัว เธอรู้—คืนนี้จะเป็นสนามจริง ไม่มีทางหนีอีกแล้ว
【ระบบแจ้งเตือน】
ภารกิจหลัก: ป้องกันการตัดวัน (ครั้งที่ 1)
เวลาเริ่มนับถอยหลัง: 12 ชั่วโมง
เสียงกงล้อเหนือฟ้าดังก้องเบา ๆ ราวกับเสียดสีหัวใจ
และนี่คือการทดสอบครั้งแรกจริง ๆ ของ ผู้พิทักษ์กงล้อเวลา