ตอนที่ 7 ช่วงกอบโกย
เช้าวันรุ่งขึ้น
อัยยาตื่นแต่เช้าอาบน้ำสวมเสื้อคลุมยืนรีดชุดนักศึกษาที่เตรียมมาในกระเป๋าสะพายใบใหญ่อยู่ภายในห้องซักรีดของคอนโด เขมทัตสวมเสื้อคลุมสีดำออกมาชงกาแฟแล้วปิ้งขนมปังใส่แฮมชีสเตรียมไว้ให้อัยยา
“ผมเตรียมแซนด์วิชไว้ให้ที่โต๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ทีหลังเอาชุดนักศึกษาไว้ที่นี่ก็ได้แม่บ้านจะได้ซักรีดให้” เขามองหญิงสาวรีดเสื้อผ้าคล่องแคล่วต่างจากเขามีคนทำให้ตลอดเลยรีดผ้าไม่เป็น
“ไม่เป็นค่ะเผื่อวันไหนไม่ได้มาขี้เกียจซักชุดที่บ้านบ่อย” อัยยารีดเสื้อพร้อมกับพูดคุย ชุดนักศึกษาของเธอมีไม่กี่ชุดหากแบ่งมาไว้ที่นี่ก็ต้องซักเสื้อผ้าที่บ้านบ่อยขึ้น
“ชุดนักศึกษามันจะสักกี่บาท ผมซื้อเพิ่มให้ก็ได้” เขาเสียงขุ่นเบื่อหน่ายความมัธยัสถ์ของเธอทั้งที่เขาให้เงินใช้ไม่ขาด อัยยานิ่งเงียบเหลือบมองเล็กน้อยไม่อยากเถียงเขมทัตชะงักรู้ว่าถ้าเธอเงียบไม่ตอบโต้แสดงว่ากำลังเคือง
“พึ่งกลับไปเรียนต่อ เรียนทันเพื่อนไหม?” เสียงทุ้มอ่อนลงเปลี่ยนเรื่องคุย
“ทันอยู่ค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาแจ้งอาจารย์ท่านอื่นว่าอัยมีปัญหาทางบ้านท่านเลยช่วยทบทวนและให้ส่งงานตามหลังได้ค่ะ”
“ก็ดี พยายามเข้าล่ะ” เขายิ้มอ่อนที่เธอยอมพูดด้วยปกติถ้าเคืองจะไม่ได้ยินเสียงพูดของเธอเป็นชั่วโมง ฐกรเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับซองสีน้ำตาลขนาดกลาง
“ขออนุญาตครับ” ฐกรยื่นซองสีน้ำตาลให้เจ้านายแล้วหันมาก้มหน้าเล็กน้อยทักทายอัยยา ๆ ก้มหน้าลงรับตามมารยาทอับอายไม่ค่อยกล้าสบตากับคนที่รู้ว่าเธอขายตัวแลกหนี้ เขมทัตเห็นท่าทางเหนียมอายของฐกรทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าอัยยาแล้วหงุดหงิด
“นายไปหาของกินข้างล่างก่อน แต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่จะโทรไปหา” เขมทัตเสียงเข้มหน้าตึงไม่พอใจผู้ช่วยคนสนิท
“ครับ” ฐกรรับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องพัก เขมทัตเหล่มองหงุดหงิดก่อนจะเดินหน้าบึ้งวางซองเงินบนโต๊ะรีดผ้า
“ค่าใช้จ่ายเดือนนี้”
“ทบกับเงินที่เป็นหนี้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจหลังจากถูกหลอกเรื่องการเซ็นสัญญาประกวดทำให้เธอต้องรอบคอบมากขึ้น
“อันนี้เป็นรางวัลของคนเก่ง ไม่รวมกับหนี้ที่ติดค้าง”
“ขอบคุณค่ะ” มือเรียวยกขึ้นไหว้แต่คนให้หันหลังเดินจากไปไม่ได้มอง อัยยาหยิบซองเงินขึ้นมาเปิดดูเงินปึกใหญ่มือเรียวหยิบเงินออกมาเป็นธนบัตรหนึ่งพันจำนวนห้าปึกเดาว่าน่าจะห้าหมื่นบาท หน้าสวยแย้มยิ้มช่วยกอบโกยหากเขาให้เธอจะรับไว้ตั้งใจเก็บเงินไว้รักษาพี่สาวและดำเนินชีวิตหลังจากหมดสัญญาหนี้กับเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น
อัยยาตื่นแต่เช้าอาบน้ำสวมเสื้อคลุมยืนรีดชุดนักศึกษาที่เตรียมมาในกระเป๋าสะพายใบใหญ่อยู่ภายในห้องซักรีดของคอนโด เขมทัตสวมเสื้อคลุมสีดำออกมาชงกาแฟแล้วปิ้งขนมปังใส่แฮมชีสเตรียมไว้ให้อัยยา
“ผมเตรียมแซนด์วิชไว้ให้ที่โต๊ะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ทีหลังเอาชุดนักศึกษาไว้ที่นี่ก็ได้แม่บ้านจะได้ซักรีดให้” เขามองหญิงสาวรีดเสื้อผ้าคล่องแคล่วต่างจากเขามีคนทำให้ตลอดเลยรีดผ้าไม่เป็น
“ไม่เป็นค่ะเผื่อวันไหนไม่ได้มาขี้เกียจซักชุดที่บ้านบ่อย” อัยยารีดเสื้อพร้อมกับพูดคุย ชุดนักศึกษาของเธอมีไม่กี่ชุดหากแบ่งมาไว้ที่นี่ก็ต้องซักเสื้อผ้าที่บ้านบ่อยขึ้น
“ชุดนักศึกษามันจะสักกี่บาท ผมซื้อเพิ่มให้ก็ได้” เขาเสียงขุ่นเบื่อหน่ายความมัธยัสถ์ของเธอทั้งที่เขาให้เงินใช้ไม่ขาด อัยยานิ่งเงียบเหลือบมองเล็กน้อยไม่อยากเถียงเขมทัตชะงักรู้ว่าถ้าเธอเงียบไม่ตอบโต้แสดงว่ากำลังเคือง
“พึ่งกลับไปเรียนต่อ เรียนทันเพื่อนไหม?” เสียงทุ้มอ่อนลงเปลี่ยนเรื่องคุย
“ทันอยู่ค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาแจ้งอาจารย์ท่านอื่นว่าอัยมีปัญหาทางบ้านท่านเลยช่วยทบทวนและให้ส่งงานตามหลังได้ค่ะ”
“ก็ดี พยายามเข้าล่ะ” เขายิ้มอ่อนที่เธอยอมพูดด้วยปกติถ้าเคืองจะไม่ได้ยินเสียงพูดของเธอเป็นชั่วโมง ฐกรเดินเข้ามาใกล้พร้อมกับซองสีน้ำตาลขนาดกลาง
“ขออนุญาตครับ” ฐกรยื่นซองสีน้ำตาลให้เจ้านายแล้วหันมาก้มหน้าเล็กน้อยทักทายอัยยา ๆ ก้มหน้าลงรับตามมารยาทอับอายไม่ค่อยกล้าสบตากับคนที่รู้ว่าเธอขายตัวแลกหนี้ เขมทัตเห็นท่าทางเหนียมอายของฐกรทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าอัยยาแล้วหงุดหงิด
“นายไปหาของกินข้างล่างก่อน แต่งตัวเสร็จเมื่อไหร่จะโทรไปหา” เขมทัตเสียงเข้มหน้าตึงไม่พอใจผู้ช่วยคนสนิท
“ครับ” ฐกรรับคำแล้วรีบเดินออกจากห้องพัก เขมทัตเหล่มองหงุดหงิดก่อนจะเดินหน้าบึ้งวางซองเงินบนโต๊ะรีดผ้า
“ค่าใช้จ่ายเดือนนี้”
“ทบกับเงินที่เป็นหนี้หรือเปล่าคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจหลังจากถูกหลอกเรื่องการเซ็นสัญญาประกวดทำให้เธอต้องรอบคอบมากขึ้น
“อันนี้เป็นรางวัลของคนเก่ง ไม่รวมกับหนี้ที่ติดค้าง”
“ขอบคุณค่ะ” มือเรียวยกขึ้นไหว้แต่คนให้หันหลังเดินจากไปไม่ได้มอง อัยยาหยิบซองเงินขึ้นมาเปิดดูเงินปึกใหญ่มือเรียวหยิบเงินออกมาเป็นธนบัตรหนึ่งพันจำนวนห้าปึกเดาว่าน่าจะห้าหมื่นบาท หน้าสวยแย้มยิ้มช่วงกอบโกยหากเขาให้เธอจะรับไว้ตั้งใจเก็บเงินไว้รักษาพี่สาวและดำเนินชีวิตหลังจากหมดสัญญาหนี้กับเขา
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใต้ตึกคณะ
กลุ่มเพื่อนนั่งเลือกสำอางในโทรศัพท์เพื่อส่งให้อัยยาไปหิ้วมา อัยยาวางกระเป๋าสะพายใบใหญ่ไว้บนเก้าอี้ไม้แล้วเดินไปซื้อน้ำดับกระหาย เพื่อนนักศึกษาที่พึ่งเดินมาบังเอิญชนกระเป๋าสะพายของอัยยาร่วงลงพื้นข้าวของกระจาย
“อุ้ย! ขอโทษนะ” เพื่อนรีบเก็บกระเป๋าพลอยก็ลุกมาช่วยเก็บข้าวของที่ร่วงเข้ากระเป๋ามีทั้งเครื่องสำอางชุดชั้นในและเสื้อผ้าอยู่ในถุงพลาสติกสามใบ อัยยารีบวิ่งหน้าตาตื่นกลัวเพื่อนเจอซองเงินที่เขมทัตให้มา
“กระเป๋าใบใหญ่ไม่ปวดไหล่เหรอ?” บีนี่ช่วยหยิบจับกระเป๋ามาวางบนเก้าอี้
“ก็นิดหน่อย”
“พกถุงเสื้อเยอะได้กลับบ้านบ้างไหม?” พลอยถามด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้ว่าเพื่อนต้องทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวและพี่สาวที่ป่วย
“ได้กลับสิบางทีก็ไม่ได้ใช้หรอก เตรียมพร้อมไว้เผื่อกะทันหัน” อัยยายิ้มเจื่อนหลุกหลิกความห่วงใยของเพื่อนทำให้เธอรู้สึกผิดที่มีความลับปิดบังเพื่อนสนิทที่หวังดีกับเธอ
