ตอนที่สี่ เจรจา 2
ตอนที่สี่ เจรจา
เอ่อ...เธอคิดแบบนั้นเสียที่ไหน เธอแค่กังวลว่าจะมีคนอื่นมาคว้าตัวของหญิงสาวรายนี้ไปต่างหาก
เถ้าแก่เนี้ยหวังคิดในใจแต่เมื่อไม่อาจเปลี่ยนใจของหญิงสาวซึ่งแลดูมุ่งมั่นตั้งใจ จึงจำต้องเซ็นสัญญาตกลงร่วมมือกันทำการค้าไปพลางก่อน
กลายเป็นว่าจู่ๆจางเจียลี่ก็ได้เป็นหุ้นส่วนร้านขายเสื้อผ้าไปโดยปริยายโดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าสักนิด
“เธอเก่งจัง พูดจนเถ้าแก่เนี้ยคนนั้นยอมตกลงทั้งเถียงไม่ออกสักคำ”
“ก็แค่ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ต่อให้อยากเถียงก็คงหมดแรงจะพูด” เจนนี่คึกคักเพราะยังไม่ทันไรก็ทำสำเร็จไปหนึ่งอย่างแล้ว
“เอาล่ะ เรามาหาห้องพักใกล้ๆแถวนี้กันดีกว่า จะได้แวะมาช่วยขายและคุยกับลูกค้าว่าพวกเขาอยากได้อะไรกันบ้าง”
จริงอยู่ว่าจากการสำรวจที่ผ่านมา เจนนี่สังเกตเห็นกระแสแฟชั่นที่ได้รับอิทธิพลจากต่างเมืองทำให้คนรุ่นใหม่แต่งตัวตามแบบอย่างเช่นการเลือกเสื้อผ้าที่มีสีสันสดใส การใส่เสื้อยืด เสื้อหนัง และเสื้อผ้าแบบนักกีฬา
ในหมู่คนทำงานยังนิยมเสื้อมีลวดลายไม่ใช่สีพื้นๆเช่นเดิมและลูกค้าสาวๆยังชอบเสื้อผ้าพอดีกับรูปร่างและมีรูปแบบที่แปลกตาอีกด้วย
แต่การที่ได้พูดคุยสอบถามความชื่นชอบของลูกค้าตัวเป็นๆ ทำให้เจนนี่คิดแบบและใส่รายละเอียดการตกแต่งได้มากขึ้นจนทำให้แบบเรียบง่ายกลายเป็นโดดเด่นไม่ซ้ำกัน
ได้แก่การติดกระดุมต่างสี การติดลูกไม้ประดับเพิ่ม หรือการเย็บขอบสีที่แตกต่างและตกแต่งกระเป๋าหรือคอปกเพิ่มเติม
แม้กระทั่งการปักลวดลายแปลกตาลงไปเพื่อเพิ่มสีสันสดใสและความสวยงามให้แตกต่างจากเสื้อผ้าของร้านอื่นๆ
ไม่นานร้านเสื้อผ้าของเถ้าแก่เนี้ยหวังจึงเพิ่มหุ่นแสดงเสื้อผ้าจนเต็มพื้นที่บ่งบอกถึงการค้าที่เฟื่องฟู
เจนนี่บอกให้จางเจียลี่แวะเวียนไปช่วยขายและสวมชุดแบบใหม่ๆเดินไปมาคล้ายนางแบบเพื่อให้ลูกค้าสาวได้เห็นกับตาว่าชุดเสื้อผ้าเหล่านี้งามมากแค่ไหนยามสวมลงบนตัวคน
หญิงสาวมีรูปร่างสมส่วนใบหน้างามละมุนช่วยขับให้ชุดที่สวมใส่แลสวยงามขึ้นมาก เมื่อมีคนจริงๆสวมชุดเหล่านี้ให้เห็นกับตา เหล่าลูกค้าจึงสนใจซื้อและสั่งจองไว้จนถึงกับต้องรอการตัดเย็บอีกหลายวัน
เถ้าแก่เนี้ยหวังวิ่งหัวหมุนปล่อยการรับลูกค้าให้เป็นหน้าที่ของจางเจียลี่ซึ่งยิ้มแย้มอ่อนหวานกับเงินทองที่เพิ่มเติมในกระเป๋า
หญิงสาวไม่เคยคิดมาก่อนว่าการทำการค้าจะสามารถเริ่มได้เช่นนี้ ทั้งยังมีรายได้มากกว่าเงินเดือนที่เธอเคยได้รับหลายเท่า
“มิน่าล่ะ คนส่วนใหญ่จึงชอบทำการค้าเพราะได้เงินมากกว่าและเร็วกว่า”
“นั่นก็จริง แต่การค้าก็เสี่ยงกว่ามากเพราะมีทั้งกำไรและขาดทุน ไม่ได้เรื่อยๆเฉื่อยๆพอถึงสิ้นเดือนก็ได้เงินอย่างเช่นคนกินเงินเดือนทั่วไป” ผีสาวแย้งเพราะไม่อยากให้จางเจียลี่มองอยู่ด้านเดียว
