ตอนที่ 2: ความใกล้ชิดที่ควรเป็นหน้าที่...แต่กลับไม่เหมือนเดิม - 1
เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องพักครูที่ฉันได้รับจัดสรรให้เป็นการชั่วคราว ฉันตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอก ภาพของภัทรและคำพูดของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัวไม่หยุดหย่อน "ผมคงอยากมาโรงเรียนทุกวันเลยครับ" คำพูดนั้นไม่ใช่แค่ประโยคธรรมดาๆ ของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง แต่มันกลับเป็นกุญแจที่ไขประตูบานหนึ่งในใจของฉันให้เปิดออก ประตูที่ฉันพยายามปิดล็อกมาตลอดชีวิต มันคือประตูแห่งความรู้สึกที่ลึกซึ้งและซับซ้อนเกินกว่าที่ฉันจะเข้าใจได้
ฉันลุกขึ้นจากเตียง เดินไปยืนหน้ากระจกบานเล็กๆ ในห้องพัก ภาพสะท้อนของตัวเองในกระจกดูซีดเซียวเล็กน้อย ดวงตาของฉันยังคงฉายแววความกังวลและสับสน ฉันอายุ 22 ปี เป็นครูฝึกสอนที่ไร้ประสบการณ์ มีความฝันและความตั้งใจที่จะเป็นครูที่ดี แต่เพียงแค่วันแรก...ฉันกลับรู้สึกเหมือนกำลังหลงทางอยู่ในเขาวงกตแห่งความรู้สึกที่มืดมิด
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ฉันก็เดินไปยังห้องอาหารของโรงเรียน ห้องอาหารยังคงเงียบสงบ มีเพียงครูไม่กี่คนที่นั่งทานอาหารเช้ากันอย่างเงียบๆ ฉันเลือกนั่งที่มุมหนึ่ง พยายามหลีกเลี่ยงการสบตากับใคร เพราะฉันรู้ว่าสีหน้าของฉันในตอนนี้คงจะบ่งบอกถึงความรู้สึกภายในได้เป็นอย่างดี
ขณะที่กำลังจิบกาแฟอุ่นๆ อยู่นั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นข้างหลังฉัน "คุณครูเมษาครับ"
ฉันสะดุ้งเล็กน้อย หันกลับไปมอง พบว่าเป็นภัทร เขายืนอยู่ตรงนั้นในชุดนักเรียนที่ดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนเดิม ใบหน้าหล่อเหลาของเขามีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่ ดวงตาคมกริบของเขายังคงจ้องมองฉันอย่างไม่ลดละ
"ภัทร..." ฉันแทบจะคุมเสียงตัวเองไม่ได้ "มาทานข้าวเหรอ"
"ครับ" เขายิ้มเล็กน้อย "แล้วครูเมษาล่ะครับ ทานข้าวเช้าหรือยัง"
ฉันพยักหน้าเล็กน้อย "ทานแล้วค่ะ"
ภัทรยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่ได้เดินจากไปไหน ทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ฉันพยายามหาหัวข้อสนทนาที่จะทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและเดินจากไป "วันนี้มีเรียนกี่คาบเหรอ"
"วันนี้มีเรียน 5 คาบครับ" เขาตอบเสียงเรียบ "แล้วครูเมษามีสอนคาบไหนบ้างครับวันนี้"
ฉันบอกตารางสอนของฉันให้เขาฟัง ภัทรพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้นมาว่า "ถ้าครูเมษาว่าง ผมจะแวะมาทักทายนะครับ"
คำพูดของเขาทำให้ฉันรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วร่างอีกครั้ง ฉันไม่รู้ว่าเขาตั้งใจจะพูดแบบนั้น หรือมันเป็นเพียงคำพูดธรรมดาๆ ของนักเรียนคนหนึ่ง แต่ในใจของฉันกลับรู้สึกหวั่นไหวอย่างรุนแรง "ไม่ต้องหรอกภัทร ครูยุ่งๆ" ฉันตอบปัดๆ ไป พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
ภัทรไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินจากไปเพื่อหาที่นั่งทานอาหารเช้าของเขา ฉันมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนกระทั่งเขาหายลับไปจากสายตา
ตลอดทั้งวัน ฉันพยายามตั้งสมาธิกับการสอนและการทำงานอื่นๆ ให้มากที่สุด แต่ภาพของภัทรและคำพูดของเขายังคงตามหลอกหลอนฉันอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เดินผ่านห้องเรียนที่เขากำลังเรียนอยู่ ฉันจะพยายามหลีกเลี่ยงการสบตาเขา แต่เหมือนกับว่าเขามีเซนส์บางอย่าง เพราะทุกครั้งที่ฉันเดินผ่าน เขามักจะหันมามองฉันเสมอ ทำให้ฉันต้องรีบเดินผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกผิดเริ่มก่อตัวขึ้นในใจของฉัน ฉันเป็นครู ฉันไม่ควรจะรู้สึกแบบนี้กับนักเรียนของตัวเอง มันเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง มันเป็นเรื่องที่ผิดศีลธรรมจรรยาบรรณของครู และที่สำคัญที่สุด...มันเป็นเรื่องที่อาจจะทำลายอนาคตของฉันและของเขาได้
ฉันพยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นเพียงความรู้สึกชั่วคราว ความหลงใหลที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ และมันจะหายไปเองเมื่อฉันได้ทำความคุ้นเคยกับโรงเรียนแห่งนี้มากขึ้น แต่ลึกๆ ในใจ...ฉันกลับรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วคราว มันคือแรงดึงดูดที่รุนแรง และมันกำลังจะกลายเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถควบคุมได้
ช่วงบ่ายหลังเลิกเรียน ฉันเดินไปยังห้องชมรมการแสดงด้วยความรู้สึกที่ปั่นป่วนอยู่ในใจ วันนี้เป็นวันที่สองของการซ้อมละคร และฉันรู้ว่าฉันจะต้องเผชิญหน้ากับภัทรอีกครั้ง ฉันพยายามเตรียมใจมาอย่างดีว่าจะทำตัวให้เป็นปกติที่สุด จะรักษาระยะห่างให้มากที่สุด และจะทำตัวให้เป็นครูที่เคร่งขรึมและจริงจัง เพื่อที่เขาจะได้ไม่กล้าเข้ามาใกล้ชิดกับฉันอีก
