บท
ตั้งค่า

2

“ตอนพ่อสันต์มีเมียคนแรกน่ะ ด้วยความที่พ่อแม่เขารักลูกก็เลยยอมให้อยู่กินกัน อยู่กันพอมีลูกก็ออกลาย พอจับได้ว่าเมียมีชู้พ่อสันต์เขาเสียใจมาก แม่เขายื่นคำขาดว่าจะหาเมียให้เอง”

“คุณสันต์ของแม่อายุเท่าไหร่แล้วจ๊ะ”

“ว่าที่ผัวเอ็งนะเหรอ ปีนี้ก็สามสิบเก้าแล้วล่ะ”

“คะ!!!” ดอกแก้วอุทานตาโต เขาอายุเกือบสี่สิบเข้าไปแล้ว เธออายุแค่สิบแปด ทำไมแม่เธอถึงอยากให้แต่งงานกับคนแก่กันนะ

“เอ็งอย่ามองแม่แบบนี้สิ ผัวแก่น่ะดี ตามใจเราทุกอย่าง อีกอย่างคนมีอายุก็หลักฐานมั่นคง ไม่ใช่พวกเด็กรุ่นๆ ที่จีบเอ็งอยู่ตอนนี้ ได้ผัวแก่สบายไปทั้งชาติ พอเขาตายสมบัติก็ได้เอ็งกับลูก”

“โธ่... แม่”

“โลกสวยอดตายนะโว้ย ผู้ชายดีๆ รวยๆ มาขอไม่เอาก็โง่แล้ว” ดอกแก้วได้ยินมารดาพูดไม่หยุดปาก แต่เธอยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ ยังอยากใช้ชีวิตวัยสาวเหมือนคนอื่นๆ แต่เพราะบิดามารดาตกปากรับคำไปแล้ว เธอไม่ใช่คนหัวแข็งที่จะค้านหัวชนฝาได้ จึงต้องยินยอมแต่งงานในที่สุด

แม่พูดเสมอว่าการแต่งงานคือการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ ผู้หญิงทุกคนเกิดมาต้องแต่งงาน

พิธีแต่งงานแบบคนบ้านนอกต่างจังหวัดไม่ได้หรูหราอะไรนักหรอก บ้านเธอจน เลยทำแค่พิธีเล็กๆ บอกเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่สนิท ขันหมากมาสู่ขอก็จัดมาพอประมาณ แต่เงินค่าสินสอดห้าแสนบาทที่บิดามารดาของเธอรับมานั้นทำให้เธอตกใจมิน้อย

ต่างจังหวัดแบบนี้สินสอดไม่เยอะหรอก ไม่ถึงแสนเสียส่วนใหญ่ ถ้าแสนหนึ่งก็พวกเรียนจบปริญญาตรี สองแสนก็ทำงานดีหน่อยรับราชการ

เธอไม่คิดว่าตัวเองจะมีค่าสินสอดแพงขนาดนี้ ดูเหมือนบิดามารดาจะได้หน้าได้ตาไปด้วย

เธอไม่โทษพวกท่านหรอกที่พวกท่านจะดีใจ เพราะคนในหมู่บ้านชอบพูดจาดูถูกบ้านของเธอว่าจน พอมีผู้ชายร่ำรวยมาตบแต่งได้สินสอดครึ่งล้าน คนในหมู่บ้านตาโต ปิดปากเงียบ อึ้งไปตามๆ กัน

ยิ่งรู้ว่าเป็นสันต์ด้วยแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าเขาเป็นลูกชายคนเดียว มีที่ดินมากมาย ร่ำรวยไปด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ จึงไม่มีใครกล้านินทาอะไรอีก

แต่เธอดันกลัวเขานี่สิ!!!

ได้สบตากับเขาก็รีบหลบ เธอว่าดวงตาเขาน่ากลัวไม่เป็นมิตร หน้าตาเฉยชาไร้อารมณ์ ดวงตาของเขาไร้แววเมตตาเอื้อเอ็นดูเธอ ไม่เหมือนบิดามารดาของเขา

พิธีเสร็จสิ้นแบบรวบรัด เขาพาเธอกลับบ้านทันที นัยว่าจะจัดงานแต่งงานใหญ่โตที่บ้านของเขาอีกรอบ

เธอกอดกระเป๋าเสื้อผ้าแน่น รู้สึกใจหายที่ต้องจากบิดามารดาไป แม้จะไม่ได้เติบโตมาในอ้อมอกพวกท่าน แต่สองคนตรงหน้าก็คือบุพการีที่รักเธอ ไม่ใช่คนอื่นที่เธอไม่รู้จัก

ดอกแก้วรู้สึกว่าบิดามารดาของเธอแก่มากแล้ว ท่านตรากตรำทำงานหนัก ทำไร่ไถนา บ้านเก่าซอมซ่อ มีที่ดินน้อยนิดเอาไว้ทำการเกษตร วูบหนึ่งรู้สึกว่าเงินห้าแสนนั้นจะทำให้ท่านสบาย

ใครจะว่าพวกท่านขายลูกสาวกิน เธอเถียงขาดใจ ฝ่ายชายเขาให้สินสอดมาเอง ตอนแรกเธอเข้าใจว่าบิดามารดาเรียกสินสอดห้าแสน แต่มารู้ว่ามารดาของสันต์เขาจัดให้เอง รวมถึงทองคำอีกห้าบาท

“พ่อจ๋าแม่จ๋า ดูแลตัวเองด้วยนะ”

“พ่อกับแม่รักแก้วนะลูก ไปอยู่กับเขาก็ทำตัวดีๆ โอนอ่อนผ่อนตามเขานะ เขาจะได้รักใคร่เมตตาเอ็นดู”

น้ำคำของมารดาทำให้เธอน้ำตาซึม

ดอกแก้วขึ้นไปนั่งบนรถกระบะคันโตของสันต์ เขามีคนขับรถคอยขับรถให้ เป็นลูกน้องที่น่าจะสนิทกับเขาที่สุด

ใบหน้าของเขาเย็นชายิ่งกว่าน้ำแข็งอันเย็นยะเยือก เธอลอบสังเกตเขาตั้งแต่เห็นกันครั้งแรก แต่ไม่กล้ามองตรงๆ

สันต์เป็นผู้ชายอายุสามสิบเก้าที่หล่อเหลาคมเข้ม อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ เขาดูไม่แก่อย่างที่เธอคิดสักนิด

ใบหน้าของเขาคมคาย ตอหนวดเคราที่มีรอยเพิ่งโกนเขียวครึ้มทำให้เขาดูดุดันไม่น้อย คางของเขามีรอยผ่า จมูกโด่งเป็นสัน เขาเป็นคนมีริมฝีปากกว้างหยักหนา ดวงตาเข้มรับกับคิ้วหนาพาดเฉียง

“มองพอหรือยัง หรือจะกินฉันตรงนี้” ดอกแก้วสะดุ้งหลบวูบ เธอไม่รู้ตัวว่าเผลอมองเขาไปนาน แบบจ้องเขาตาเป็นมันเสียแบบนั้น

เขาไม่ได้สนใจจะมองเธอเลย สันต์ดูหงุดหงิดไม่สบอารมณ์อยู่ตลอดเวลา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel