ตอนที่6 กอดกันนะ
พอเดินเข้าไปถึงโต๊ะสิ่งที่คิดไว้ก็ไม่ผิดคาดเท่าไหร่นัก ผมรีบเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่ตอนนี้ฟุบหมอบลงกับโต๊ะไปแล้วเรียบร้อย โดยที่พี่ๆ คนอื่นก็ยังพูดคุยกันเฮฮาเหมือนกับไม่ได้สนใจพี่พีชเลย หรือว่าเคยเห็นจนชินไปแล้ว
“ทำไมพี่พีชคอพับแบบนั้นล่ะพี่”
“เรื่องปกติของมัน” พี่แมนตอบผมอย่างไม่ได้ใส่ใจเพื่อนที่ตอนนี้แทบจะตกเก้าอี้อยู่แล้ว
“ปล่อยมันไว้นั่นแหละมาๆ ชนแก้วๆ” พี่อาร์ยกแก้วมาชนกับคนอื่นๆ รอบวง
“มาดิไอ้หมอก หรือพอแล้ววะ”
“เอาเลยพี่ผมพอแล้วต้องขับรถกลับอีก” ผมตอบก่อนจะเดินเข้าไปพยุงพี่พีชให้นั่งดีๆ
“เออๆ”
“นี่พวกกูว่าจะไปต่อที่ผับว่ะมีใครจะไปต่อบ้าง” อยู่ๆ พี่อาร์ก็เอ่ยขึ้นมาทำให้ผมที่กำลังดูพี่พีชอยู่รีบเงยหน้ามองคนอื่นทันที ทุกคนเห็นดีเห็นงามด้วยไม่เว้นแม้แต่พี่รหัสผม
“ว่าไงพวกมึง” พี่ดิวหันกลับไปถามน้องรหัสตัวเองและน้องรหัสพี่อาร์ เผื่อแผ่มาหาผมด้วย ไอ้สองคนนั้นรีบตอบรับทันที แต่ผมคงไม่ไปต่อแล้วล่ะ
“ผมคงต้องขอตัวนะพี่ไม่อยากขับรถดึกไปมากกว่านี้”
“ตามใจละกันพวกกูไปกันแค่นี้ก็ได้” พี่แมนบอกกับผม
“ไอ้แมนมึงต้องไปส่งไอ้พีชก่อนใช่เปล่าวะ” พี่ดิวหันมาถามพี่แมนที่กำลังมองสภาพเพื่อนตัวเล็กที่ไม่น่าจะแบกไปต่อด้วยกันได้
“คงจะอย่างนั้น” พี่แมนพยักหน้าอย่างจำนน
“เอ่อ งั้นให้ผมไปส่งไหมครับ” ผมไม่อยากให้พวกพี่ๆ เขาขับรถไปกลับหลายรอบจึงอาสาไปส่งคนตัวเล็กให้ถึงแม้จะยังไม่รู้ที่อยู่ ก็อาสาไว้ก่อนแล้วกันยังไงค่อยว่ากันอีกที
“มึงกลับทางไหนล่ะ”
“คอนโดผมอยู่บนถนนเส้นหน้ามหา’ลัยครับ” แน่นอนว่าที่นั่นสะดวกสบายเดินทางไปมาง่าย ขับรถไปใช้เวลาไม่นาน และมีคอนโดเดียวนั่นแหละที่ตั้งอยู่ที่นั่น เชื่อว่าเด็กมหา’ลัยเรียนที่เดียวกับผมจะคุ้นเคยกันดี
“เฮ้ย! จริงดิ” แล้วทำไมพวกพี่มันตกใจอะไรขนาดนั้นวะ ก็แค่ผมอยู่คอนโดแถวหน้ามหา’ลัยหรือว่ามันจะมีเรื่องอะไรที่ผมยังไม่รู้เกี่ยวกับที่พักอย่างนั้นเหรอ
“จริงสิครับผมจะโกหกพวกพี่ทำไม”
“งั้นดีเลย พวกกูฝากไอ้พีชไปส่งที่ห้องหน่อยสิ”
“แล้วพี่พีชเขาพักที่ไหนครับ”
“ก็ที่เดียวกับมึงนั่นแหละไอ้หมอก” ห๊ะ! นี่ผมฟังไม่ผิดใช่ไหม? แล้วทำไมผมไม่เคยเจอพี่แกเลยวะ
“จริงเหรอพี่? ทำไมผมไม่เคยเจอล่ะ” ผมถามออกไปด้วยความตื่นเต้น
“มึงคิดว่าคอนโดมึงมีชั้นเดียวหรอวะ” นั่นสิสงสัยผมคงจะตื่นเต้นเกินไปหน่อย ดีจริงๆ ที่ได้อยู่คอนโดเดียวกันกับพี่พีชแบบนี้ ต่อไปจะได้หาเรื่องไปให้ช่วยบ่อยๆ แล้วสิ...
“แฮ่ๆ ผมลืมน่ะ”
“ถามแปลกๆ นะมึง”
“งั้นรบกวนมึงไปส่งมัหน่อยละกัน นี่คีการ์ดมันชั้นสิบสี่ห้องเก้า” อ่อ ถึงว่าไม่เคยเจอกัน ก็พวกเขาอยู่คนละชั้นกันน่ะ โอกาสที่จะเจอก็เลยไม่มี ผมยื่นมือไปรับคีการ์ดจากมือพี่แมนก่อนจะยัดใส่ในกระเป๋ากางเกง
“ได้ครับ ไม่มีปัญหาเดี๋ยวผมไปส่งให้”
“ส่งมันแล้วก็รีบออกมาละกัน” ผมคิดไปเองหรือเปล่าว่าพี่แมนดูเป็นกังวลแปลกๆ
“เออๆ ใช่! ทิ้งมันไว้ก็ออกมาเลยนะ” ขนาดว่าพี่อาร์ที่กำลังนั่งคุยกับน้องๆ แกอยู่ยังรีบหันขวับมาบอกผมเลย ที่ตกลงกันได้แล้วว่าผมจะเป็นคนไปส่งพี่พีช
“ถ้ามันอ้อนหรือขอให้อยู่ก็อย่าไปฟัง” พี่ดิวมองเพื่อนตัวเล็กที่ฟุบอยู่ก่อนจะเบนสายตามาหาผมที่มองหน้าพี่ๆ แต่ละคนสลับไปมา
“ดะ...ได้ครับ” นี่พวกพี่เขาเป็นอะไรกันผมควรถามดีไหมวะหรือว่ามันจะดูเรื่องมากไป
“ฝากหน่อยละกัน” พี่แมนตบไหล่ผมเบาๆ
“ให้พวกกูพยุงมันไปส่งไหม” พี่ดิวที่เห็นว่าผมกำลังจะพาพี่พีชออกมาถามขึ้น
“ไม่เป็นไรพี่ แค่นี้สบายมากครับ” ตัวเล็กๆ แค่นี้คงจะไม่หนักอะไรมากหรอกมั้ง หุ่นแค่นี้น่าจะอุ้มง่าย
“ขับรถดีๆ” เป็นไอ้พวกน้องรหัสพวกพี่เขาบอกมาผมจึงทำได้แค่พยักหน้ารับ
“ผมกลับแล้วนะครับ สวัสดีครับ”
ผมยกมือไหว้ลาพี่ๆ เขาก่อนที่จับร่างบางของพี่พีชพาดบ่าเดินออกมาจากโต๊ะ คนตัวเล็กที่รู้สึกตัวว่ามีใครมารบกวนการนอนก็ครางอื้ออึงในลำคออย่างขัดใจ นี่เมาจนไม่รู้เรื่องอะไรขนาดนี้เลยหรอวะคออ่อนจริงๆ
ขับรถออกมาจากร้านไม่นานผมก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่ประจำบนคอนโดที่อาศัยอยู่ โดยที่วันนี้มีตุ๊กตาหน้ารถนอนหลับคอพับคออ่อนหลับไม่ได้สติอยู่เบาะข้างๆ ผมยื่นมือไปเกลี่ยแก้มใสเบาๆ ผิวพี่พีชเนียนมาก ผิวขาวละเอียดเหมือนเด็กทารกเลย แก้มนุ่มๆ ที่มีสีแดงระเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ปากสวยได้รูปสีชมพูอ่อนๆ อย่างคนดูแลรักษาอย่างดี นั่นยิ่งทำให้คนตัวเล็กน่ารักขึ้นไปอีก เขาอยากบีบมันเล่นทุกวันเลยไอ้ต้าวแก้มนุ่มนิ่ม
“อื้ออออ”
เสียงครางนั่นทำให้ผมได้สติกลับมา เกือบไปแล้ว เกือบที่ผมจะลวนลามคนตัวเล็กแล้วไหมล่ะ ก็หน้าเขากับพี่พีชอยู่ใกล้กันแค่ไม่กี่เซนน่ะสิ ถ้าไม่มีเสียงมาจากพี่พีชผมก็คงจะได้ชื่อว่าฉวยโอกาสกับคนเมาสินะ หึหึ ก็ใครใช้ให้พี่เขาน่ารัก น่าฟัดขนาดนี้วะ
“พี่พีชครับ”
ผมลองเรียกคนตัวเล็กเบาๆ สะกิดปลุกแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับเลยแฮะ หลับลึกจริงๆ สงสัยคงต้องอุ้มเหมือนเดิมแล้วล่ะ ผมลงจากรถก่อนจะรีบเดินอ้อมมาประตูทางพี่พีชนั่งเปิดไปอุ้มคนตัวเล็กอกมาก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ทันที คนอะไรจะตัวเล็กได้ขนาดนี้วะมองผ่านเหมือนกับผู้หญิงตัดผมสั้นเลย ตัวเบาอย่างกับนุ่นวันๆ กินอะไรไปบ้างหรือเปล่า
ติ๊ง!!!
ยืนอยู่ในลิฟต์ไม่กี่นาทีประตูลิฟต์ก็เปิดออกบ่งบอกว่าถึงชั้นที่ต้องการแล้ว ตอนนี้ก็เที่ยงคืนกว่าๆ แล้ว ทั้งชั้นจึงเงียบสนิทไม่มีผู้คนออกมาพลุกพล่านให้เสียงดังรบกวน ผมใช้มือควานหาคีการ์ดเข้าห้องของพี่พีชมาเปิดประตู พอเปิดเข้าไปในห้องก็เจอกับห้องที่ค่อนข้างรกนิดหน่อย? อืมมม รกเลยล่ะ! เอาไงดีวะถ้าจะให้นอนที่โซฟาก็ไม่น่าจะได้ ก็มีอะไรวางเต็มโซฟาไปหมดน่ะสิ ห้องนอนละกันคงจะว่างมีที่ให้นอนนะ
แอ๊ดดดดดด
ผมเปิดประตูเข้าไปอย่างลุ้นระทึก จากที่เห็นสภาพห้องนั่งเล่นแล้วก็ทำเอาผมกลัวอยู่เหมือนกัน หวังว่าจะไม่มีสภาพเหมือนกับข้างนอกนะ แต่พอเปิดเข้ามาในห้องนอนก็ถือว่าดีกว่าข้างนอกนิดหนึ่ง พอให้มีที่ว่างให้นอนอยู่ ก่อนจะวางร่างบางของพี่พีชลงไปนอนเบาๆ จัดท่านอนห่มผ้าอะไรให้เรียบร้อยกำลังจะก้าวขาออกไป แต่ทว่า...
“อื้ออออ” พี่พีชพลิกตัวไปมาด้วยใบหน้ายุ่งๆ สงสัยจะไม่สบายตัว เอาวะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้สักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
‘ส่งมันแล้วก็รีบออกมาละกัน’
ก่อนที่จะได้ก้าวเท้าออกไปจากข้างเตียงเพื่อตรงไปห้องน้ำคำพูดของพี่แมนก็ดังแว่วมาในโสตประสาท หรือว่าผมควรกลับห้องตัวเองไปได้แล้ววะ
“อืออ ร้อน..จัง”
แต่พี่พีชก็เพ้อออกมาอีกรอบ พร้อมกำลังจะทึ่งเสื้อผ้าออกจากตัวให้ได้คงจะร้อนจากฤทธิ์แอลกอฮอล์นั่นแหละ เช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ก่อนละกันจะได้นอนหลับแบบสบายตัว ผมรีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำทันที
“ถอดเสื้อหน่อยนะครับ”
ผมออกมาจากห้องน้ำพร้อมของที่จะใช้เช็ดตัวให้คนตัวเล็ก ที่ตอนนี้นอนอยู่บนเตียงด้วยเสื้อที่หลุดลุ่ย สงสัยจะพยายามถอดสินะ ผมปลดกระดุมเสื้อออกจนหมด ลมหายใจผมถึงกับสะดุดก็จะอะไรอีกล่ะ นอกจากผิวขาวๆ ที่ปะทะสายตาผมเข้าเต็มๆ ยอดอกเล็กๆ ที่อมชมพูนั่นอีกผมค่อยๆ กลืนน้ำลายลงคอดังเฮือกได้แต่เตือนสติตัวเองเอาไว้ สะบัดหน้าเบนสายตาหนีจากภาพที่ยั่วยวนตรงหน้า ค่อยๆ จับพลิกตัวร่างบางเพื่อถอดเสื้อออก ทว่า...
“ขอกอดหน่อย”
เสียงที่ดังอู้อี้มาจากลำคอขาวของพี่พีช ทำให้ผมเบนสายตากลับมามองทันที ก็สบสายตาเข้ากับพี่พีชที่พยายามลืมตาจ้องมองมาที่ผม พร้อมรอยยิ้มอ่อนๆ ที่ระบายอยู่บนใบหน้า น่ารัก!
"มากอดกันนะ กอดพีชหน่อย นะ..."
