บทที่3.ปู่ทรงเจ้า [ขุดมหาอวย]
หลังจากแม่บ้านกลับไป ของขวัญก็ได้สติฟื้นตื่นมา เธอเห็นร่องรอยบาดแผลตามมือแขนขา แถมร่างกายยังเป็นจ้ำสีเหลืองคล้ายโดนบางอย่างปะทะ ก่อนจะหันหน้ามาหาเพื่อน
"กูไปทำอะไรมา ทำไมเนื้อตัวมีแต่แผล" ของขวัญเอ่ยถาม "เสื้อผ้ากูยับเยิน ไปบวกกับใครมาหรือเปล่าเนี่ย?"
"มึงทำตัวเองค่ะ ถามจริงๆ นะ มึงจำเรื่องราวเมื่อคืนไม่ได้เลยเหรอ?"
"กูจำได้ว่าเซ็งแล้วกระดกดื่มเหล้าไม่รู้กี่แก้ว จากนั้นกูก็เดินไปเข้าห้องน้ำ แล้ว..ภาพก็ตัด"
"รู้ไหมกูไปเจอมึงที่ไหน"
"มึงเจอกูที่ไหน"
"ข้างศาลพระภูมิตึกร้าง มึงกำลังกินของเซ่นไหว้ เหมือนชาวบ้านจะเอาทิ้งไว้ให้พวกสัมภเวสี ไส้สด เลือดสด ตับสด พูดแล้วกูจะอ้วก"
ดวงตาของของขวัญเบิกโพลง เธอแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน คงเป็นเพราะครอบครัวสมัยใหม่เลี้ยงลูกไม่ได้ปลูกฝังถึงเรื่องราวผีสางจึงทำให้ไม่ค่อยเชื่อ
"แล้วแม่บ้านมาบอกกูว่ามึงโดนของด้วย" มิ้นซัดนั่งลงโซฟาด้านข้าง หายใจเฮือกใหญ่
"แม่บ้านมาเกี่ยวอะไร"
"เพราะเขาเห็นวิญญาณตามติดมึงน่ะสิ!"
"ไม่ยักรู้ว่ามึงเชื่อเรื่องราวไร้สาระด้วย"
"เคยได้ยินไหมว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ กูเป็นห่วงมึงนะของขวัญ อย่าลืมว่ากูเป็นเพื่อนคนเดียวของมึง"
เป็นดั่งที่ว่าของขวัญผู้สวยสดงดงามแถมฐานะก็ดีมาก ตัวเธอหยิ่งทะนงจนใครไม่อยากคบหา มีแค่มิ้นเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็กมัธยมที่คอยประคับประคองกันมา
"แต่กูเป็นห่วงมึงจริงๆ นะ" มิ้นจับมือเพื่อน "ช่วงนี้มึงก็ซูบผอมกว่าปกติมาก ไม่ส่องกระจกเลยหรือไง"
"กูไดเอทหรือเปล่ากูถึงน้ำหนักลด"
"โอ๊ยยย สรุปว่ามึงจะหาทฤษฎีมาหักล้างเรื่องนี้จนได้ กูมีเพื่อนที่รู้จักหมอดูเก่งๆ ลองไปหากันไหม"
"ไม่เอาหรอกมันโคตรไร้สาระเลย"
"แต่อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเกิดมึงแล้ว กูรู้สึกใจคอไม่ค่อยดี เห็นภาพที่มึงกินของเซ่นไหว้แล้วกูเป็นห่วงมาก"
"เอาอย่างนี้..เพื่อความสบายใจ กูจะไปหาหมอดูอะไรของมึง จากนั้นมึงก็ต้องเลิกคะยั้ยคะยอกูนะ"
มิ้นพยักหน้าเป็นการตอบตกลง ทั้งคู่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินทางไปยังรอบนอก ซึ่งเป็นหมอดูชื่อดังที่กล่าวขานกันมา
บ้านหมอดู
"กูไปซื้อคิวดูดวงจากรุ่นน้องเลยนะ ได้ยินว่าที่นี่ต้องจองคิวกับเป็นเดือนเป็นปี เขาบอกว่าแม่น" มิ้นพูด
"หมอดูก็ต้องคู่กับหมอเดา อาศัยเดาไปหลายๆ อย่าง แน่นอนสิว่ามันต้องถูกสักเรื่องสักอย่างหนึ่ง"
"เอาเถอะ ไหนๆ ก็มาแล้ว สำคัญมึงห้ามเถียงเขานะ แล้วเขาทำนายดูดวงอะไร มึงก็เออออไปก่อนเถอะ"
"ก็ได้ เห็นแก่มึงนะ"
ขณะที่กำลังรอคิวผู้ช่วยของหมอดูก็ยกหมายเลขขึ้นมา มิ้นรีบจูงมือของขวัญขึ้นไปบนบ้านไม้สักหลังงาม
ทั้งคู่ตกตะลึงเมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้รกรุงรัง แถมมีสายสิญจน์พันรายรอบ
"อีหนูคนนี้ดวงตก" มายังไม่ทันได้นั่งถึงพื้น แม่หมอชี้มาทางของขวัญ "โดนทำของมาสิท่า ไม่ต้องบอกก็รู้"
"แล้วแบบนี้ของขวัญจะต้องทำยังไงคะแม่หมอ"
"ท่าทางเพื่อนเอ็งมันดื้อรั้นนัก ฮ่าๆ แต่มาถึงที่นี่ข้าก็จะยอมทำพิธีถอนของให้"
"แต่เพื่อนของหนูมันไม่เชื่อเรื่องพวกนี้"
"นั่นแหละประเด็น ถ้าไม่ศรัทธาก็จะไม่หายกับโรคที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน ของที่อยู่ในตัวเพื่อนของเอ็งมันแรงนัก แรงจนไม่รู้ว่าจะสำเร็จไหม"
ทันทีที่มิ้นพูดคุยกับแม่หมอ ของขวัญรีบโต้แย้งด้วยท่าทางไม่ชอบใจ
"แม่หมอคงจะแค่เดาล่ะสินะคะ หรือไม่ก็มีคนบอกก่อนหน้าว่าหนูโดนของแล้วจะมาดูดวงที่นี่" ของขวัญไม่ยอมแพ้ ตอนนี้ดวงตาของแม่หมอดุกร้าว
"เอ็งอย่ามาดูถูกข้านะนังหนู! จะตายอยู่แล้วยังไม่เจียม รู้ไหมว่าของเขมรที่เองโดนมันแรงแค่ไหน"
"หนูไม่รู้หรอกค่ะแล้วไม่อยากรู้ด้วย ที่มาก็แค่อยากทราบว่ามีวิธีรักษาหรืออะไรไหม? แล้วถอนของต้องใช้เงินเท่าไหร่ หนูไม่ชอบทำอะไรซ้ำๆ ซากๆ"
"บร๊ะ!! อีเด็กอวดดี วันเกิดมึงเมื่อใด นั่นแหละวันตายของมึง ฮ่าๆ"
เคว้ยง!
ผู้ช่วยตกใจเมื่อครั้งนี้หมอดูสลบเหมือดพร้อมกับบัตรข้าวของหล่นร่วงกระจัดกระจาย ทั้งที่ต้องทำเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสรรพสมบูรณ์ก่อน เหมือนครั้งนี้ของที่ติดตัวของขวัญนั้นจะแรงกล้า
เช้าวันต่อมา
มหาวิทยาลัยเอกชน
"มึงพูดจริงเหรอมิ้น?" ของขวัญตกใจ "บ้านแม่หมอที่เราไปดูดวงเมื่อวานไฟไหม้"
"จริงสิ กูโทรไปถามว่าจะทำยังไง เพื่อที่จะถอนของให้มึง ด่ากระจายบอกว่าเป็นเพราะมึงทำให้บ้านถูกไฟไหม้ ดีที่เอาชีวิตรอดมาได้"
"มะ มันอาจเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้มั้ง"
"ถ้ามึงไม่กลัวตาย อย่างน้อยก็เป็นห่วงความรู้สึกกูบ้าง กูรักมึงนะ เราเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน"
"แล้วจะให้กูทำยังไงล่ะ อาทิตย์หน้าก็จะวันเกิดกูแล้วด้วย แถมแม่หมอก็ไม่ยอมช่วย เฮ้อออ"
ทั้งคู่นั่งเอามือเท้าคาง จ้องหน้ากันคิดถึงเรื่องราวต่างๆ วนเวียน สักพักกลุ่มนักศึกษาก็เดินมาแล้วนั่งโต๊ะด้านหลัง พูดคุยกันเสียงดัง
"ไปลงนะหน้าทองกับฤาษีปู่มา เชื่อไหมแฟนที่ทิ้งกูไป คลานกลับมาหา" เด็กนักศึกษาคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
"มึงพูดจริงปะเนี่ยอีแอน"
"กูพูดจริงค่ะไม่จกตา!"
"มึงไปลงนะหน้าทองที่ไหนมา"
"ตำหนักปู่ลือ ไม่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยเรามากหรอกนะ เข้าซอยไปทางหน้าหมู่บ้านแล้วเลี้ยวซ้ายแป๊บเดียวก็ถึง อย่าว่าแต่ลงนะหน้าทองเลย เขาว่าปู่ลือคนนี้มีวิชาอาคมเด็ดมาก ฟันแทงไม่เข้าด้วยนะ"
เหมือนจะมีหนทางใหม่ มิ้นรีบลุกจากเก้าอี้เพื่อไปถามไถ่ถึงตำหนักที่นักศึกษาพูดคุยกันเป็นวงกว้าง ไม่รอช้าหลังเลิกเรียนก็ขับรถไปตามที่บอกทาง
เมื่อมาถึงหน้าร้าน
ของขวัญมองดูป้ายที่แขวนไว้ ก่อนที่จะพูดย้ำทีละคำ "ตำหนักทรงเจ้า ขุดมหาอวย...? นี่ชื่อร้านเหรอวะ"
________________
ไหนลองผวนสิทุกคน 555555555555555
ขอคอมเมนต์แบบจัดเต็มมาเลย รออ่านเสมอค่ะ
