บทที่ 2 จะให้เหมือนเดิมยังไง?
เวลาเดียวกันนั้นที่ร้านลาบยโส บูรณิมาเลิกงานเลขามาก็กลับมาเปลี่ยนชุดที่มีไว้ที่ร้านแล้วมาเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารอีสานของพ่อกับแม่ตัวเอง เธอรับออเดอร์ เสิร์ฟ ซึ่งช่วยพ่อกับแม่ทำตั้งแต่เด็กจนตอนนี้โตเรียนจบมีงานมีการทำแล้ว แต่ก็ยังมาช่วยท่านทั้งสองทำงานอยู่ดี
“กลับบ้านไปพักเถอะลูก ไม่ต้องมาช่วยแม่กับพ่อหรอก” บัวงามบอกลูกสาวที่เดินนำออเดอร์ลูกค้ามาส่งให้
“ได้ไงคะแม่ เนี่ยเพิ่งห้าโมงเย็นเองนะคะ อีกอย่างงานของบีบีไม่ได้เหนื่อยอะไรค่ะ บีบีรอกลับบ้านพร้อมพ่อแม่ดีกว่าค่ะ”
“เดี๋ยวก็นอนดึกอีกหรอก กว่าจะปิดร้านเก็บร้านเสร็จก็สี่ทุ่มแล้วนะลูก” โสบอกลูกสาว
“สี่ทุ่มเองค่ะ บีบีไม่เหนื่อย อีกอย่างบีบีชอบค่ะ ได้ช่วยพ่อกับแม่ทำงาน”
“กลับไปเถอะลูก ที่ร้านก็ใช่ไม่มีคนช่วยพ่อกับแม่ น้าเจียมกับน้าแดงก็มี” บัวงามบอกลูกสาว เพราะที่ร้านมีน้องชายกับน้องสะใภ้มาช่วยงานอยู่แล้ว
“งั้นบีบีกลับก็ได้ค่ะ งั้นกลับก่อนนะคะ แต่ขอกินตำปูปลาร้าแซ่บๆ กับซอยจุ๊ได้ไหมคะแม่งาม พ่อโส”
“จัดไปลูกสาวพ่อ” โสเอ่ย
“บีบีทำเองค่ะ พ่อกับแม่ทำออเดอร์ให้ลูกค้าเถอะค่ะ” บูรณิมาบอกพ่อกับแม่แล้วเดินไปตำส้มตำเอง ก่อนจะไปทำซอยจุ๊
เวลา 20.00 น.
บ้านหลังเล็กอยู่ห่างจากร้านลาบของพ่อกับแม่สามกิโล เธอนั่งวินมอเตอร์ไซค์กลับบ้านทุกวันและไปทำงานก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์
“เอ็มกินข้าวรึยัง” พอมาถึงบ้านก็ถามน้องชายวัยสิบเก้าปี
“เอ็มกินแล้วพี่บีบี แล้วพี่บีบีล่ะครับ”
“พี่กินมาจากร้านเราแล้วน่ะ ว่าแต่เอ็มกินอะไร”
“กินมาจากมหา’ลัยครับ”
“อือ...งั้นพี่ขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะ เหนื่อยมากวันนี้”
“ครับ เอ็มก็ว่าจะออกไปร้านช่วยพ่อกับแม่ พอดีว่าพรุ่งนี้ไม่มีเรียน”
“อ้อ...ขับรถระวังด้วยนะ” เพราะรู้ว่าน้องชายจะขับมอเตอร์ไซค์ไปร้าน
“ครับ พี่บีบีก็ปิดล็อกบ้านดีๆ ล่ะ”
“จ้า เราก็ขับรถระวังล่ะ”
“ครับ” แล้วบุณยภูก็หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ของตนเองออกจากบ้านไป โดยไม่ลืมล็อกประตูให้พี่สาวของตนเอง
พ่อกับแม่ของเธอขายอาหารอีสาน เปิดร้านลาบตั้งแต่เธออายุได้สองขวบ เมื่อก่อนเธออยู่ต่างจังหวัดกับยาย จนตอนอายุได้เก้าขวบก็ได้มาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนหนังสือ และตอนนั้นพ่อกับแม่ก็ซื้อบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ และท่านก็เก่งมาก ขายลาบ ก้อย ส้มตำส่งเธอเรียนจนจบและส่งน้องชายเรียน แถมยังผ่อนบ้านไปด้วยและยังส่งให้ยายกับตาที่ต่างจังหวัดด้วย ท่านเก่งมาก และบูรณิมากับน้องชายก็ไม่เคยอายที่จะบอกใครว่าพ่อแม่ทำมาหากินอะไร
เวลาเดียวกันนั้นเมฆก็นอนกลิ้งตัวไปมาบนเตียงด้วยกางเกงบ็อกเซอร์ตัวบางตัวเดียวแล้วทอดถอนหายใจออกมาคว้าหยิบโทรศัพท์มากดวิดีโอคอลไลน์หาเลขาสาวของตนเองที่ทำให้ตนว้าวุ่นไม่เป็นตัวเองในตอนนี้
“รับสักทีสิบีบี” เมื่อรอจนสายหลุดไปแล้วหล่อนก็ไม่รับสายจึงกดวิดีโอคอลไลน์ไปอีกครั้งและครั้งนี้ปลายสายก็กดรับสาย
‘คะบอส มีงานจะสั่งเหรอคะบอส’ เธอกดรับแต่ไม่เปิดกล้อง
“เปิดกล้องสิบีบี”
‘ตอนนี้บีบียุ่งอยู่ค่ะ มีอะไรจะสั่ง สั่งมาได้เลยค่ะ’ ก็ตอนนี้เธอมีแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันรอบอกไว้ เพราะเพิ่งถอดเสื้อผ้าเสร็จและจะอาบน้ำต่อ
“ผมนอนไม่หลับบีบี ผมอยาก...”
‘หิวข้าวเหรอคะ เนี่ยก็สองทุ่มกว่าแล้วนะคะ บอสยังไม่กินข้าวอีกเหรอคะ’ เธอพูดแทรกไม่รอให้เขาพูดจบประโยค
“ไม่ใช่อยากกินข้าว ผมอยากกินบีบีต่างหากล่ะ”
“ฮะ!”
“คุณได้ยินไม่ผิดหรอกบีบี ผมอยากมี ‘เซ็กซ์’ กับคุณอีก”
‘บอส เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะ เรื่องวันนั้นให้จบที่ห้องนั้นนี่คะ ถ้าบอสเป็นแบบนี้ บีบีว่าบีบีทำงานกับบอสต่อไม่ได้แล้วนะคะ’
“บีบีไม่สนใจ ไม่คิดถึงผมจริงๆ เหรอ นั่นครั้งแรกของคุณเชียวนะ แถมคุณเป็นคนชวนผมขึ้นเตียงอีก เปิดกล้องให้ผมเห็นหน้าหน่อยนะ ผมจะเปิดล่างให้คุณดู” เขาไม่พูดเปล่า แต่ยังปรับกล้องจากกล้องหน้าเป็นกล้องหลังแล้วเลื่อนกล้องมาที่เป้ากางเกงตัวเองแล้วใช้มืออีกข้างล้วงกางเกงบ็อกเซอร์เข้าจับเอ็นเนื้อออกมาข้างนอก
ว้าย!
‘ถ้าบอสไม่มีงานจะสั่ง บีบีขอวางสายนะคะ’
“ตกใจไปได้ ทั้งๆ ที่มันมอบความสุขให้บีบีในคืนนั้นจนครางลั่นห้อง”
‘บอสคะ เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะคะว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก ถ้าไม่หยุดพูด พรุ่งนี้บีบีจะลาออกค่ะ’
“ดีเหมือนกัน ลาออกจากตำแหน่งเลขามาเป็นนางบำเรอของผม”
‘ทุเรศ! บีบีไม่ใช่ของเล่นของบอสนะคะ แค่นี้นะคะ บีบีจะนอนแล้ว’ แล้วเธอก็กดวางสายทิ้งไม่รอฟังเจ้านายหนุ่มตอบสวนกลับ
“พรุ่งนี้ผมจะต้องได้กินคุณบีบี ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะไม่พอใจ ไม่มีอะไรที่คนอย่างเมฆต้องการแล้วไม่ได้” เขาหมายมาดกับตนเองแล้วก็ถอนหายใจยาวออกมาเมื่อคืนนี้ต้องพึ่งพาสองอุ้งมือสากกร้านตนเอง เพราะตอนนี้เอ็นร้อนของเขามันตื่นพร้อมแล้ว
