ตอนที่ 4
ว่าแล้วเพื่อนสาวๆ ของอังศุมาลินก็ดึงมือเขมรัฐให้เดินเข้าไปในงาน ทุกคนแสดงความเป็นกันเองและทำให้นักศึกษาแพทย์หนุ่มรู้สึกสนุกสนานและผ่อนคลายขณะที่อังศุมาลินยืนมองตามและแอบยิ้มเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าคร้ามเข้มของเขมรัฐ และขณะที่เธอกำลังยืนอมยิ้มอยู่คนเดียวก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาและหยุดข้าง ๆ
“นี่ถามจริงเหอะ...นั่นเพื่อนของอ้อนจริงเหรอ?”
อังศุมาลินหันกลับไปและพบว่ามิรินดา สาวสวยระดับดาวมหา’ลัยและเป็นคนเก่งพ่วงความสวยประจำคณะยืนจ้องมองไปยังเขมรัฐที่อยู่ท่ามกลางสาว ๆ
“ก็ใช่...หมอเป็นเพื่อนของอ้อนเอง”
บทที่ 3
เราต้องเก็บไว้ในส่วนลึก
“หล่อจังเลยนะ หล่อขนาดนี้แล้วก็เป็นนักเรียนแพทย์ด้วยอ้อนไม่คิดจะเก็บไว้เหรอ”
“เก็บเหรอ...หมอกับอ้อนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนประถม...เราสนิทกันมากก็เท่านั้น”
“อืม...น่าเสียดายจังเลยนะ แล้วเขามีแฟนหรือยังเนี่ย”
มิรินดาพูดกับอังศุมาลินก็จริงแต่สายตาของหล่อนกลับจ้องมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงสง่าและหน้าตาระดับนายแพทย์ซึ่งยืนอยู่ท่ามกลางเพื่อนนักศึกษาทั้งสาวทั้งหนุ่มต่างคณะที่กำลังกินดื่มและพูดคุยกันด้วยรอยยิ้ม อังศุมาลินเงียบไปชั่วอึดใจ ขณะนั้นเธอเหลือบมองเสี้ยวหน้าของมิรินดา สาวสวยที่ทั้งสวยและเก่งแต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องควงหนุ่มไม่ซ้ำหน้าเช่นกัน เขมรัฐอาจจะเคยเห็นหน้าเธอบ้างแล้วเพราะอยู่มหา’ลัยเดียวกัน อังศุมาลินตัดสินใจตอบกลับไปว่า
“น่าจะยังไม่มี...อ้อนก็ไม่แน่ใจนะเพราะว่าถึงจะสนิทกันแต่เรื่องส่วนตัวของหมอน่ะอ้อนไม่กล้าถาม”
“พูดตามตรงนะ...ตั้งแต่อยู่มหา’ลัยปีหนึ่งจนมาถึงตอนนี้มิ้นท์ยังไม่เคยเห็นใครหล่อ สมาร์ทตรงใจขนาดนี้มาก่อน นี่ถ้าเขาไม่บอกว่าเป็นนักเรียนแพทย์มิ้นท์ก็นึกว่าเขาเรียนวิศวะเพราะท่าทางเขาให้จริงๆ...เอิ่ม...ยังไงก็ยังไงแล้วเนี่ย เขาเป็นเพื่อนอ้อนใช่มั้ยจ๊ะ นี่ถ้ามิ้นท์อยากทำความรู้จักกับเขาแบบ...สนิทกันมากกว่าแค่ทักทายเนี่ย ไม่รู้อ้อนจะว่าอะไรมั๊ย”
“อ้อนจะว่าอะไร...มิ๊นท์อยากคุยกับหมอก็ได้ตามสบายเลยจ้ะ ก็อ้อนกับหมอเป็นเพื่อนกันอยู่แล้ว”
มิรินดาดึงมืออังศุมาลินไปกุมไว้และยิ้มกว้าง
“ขอบใจมากนะอ้อน น่ารักที่สุดเลย...ถ้ายังไงอ้อนไม่ว่ากันนะ”
พูดจบเพื่อนสาวคนสวยก็เดินตรงดิ่งไปยังกลุ่มสาว ๆ ที่กำลังรุมล้อมเขมรัฐขณะที่อังศุมาลินจ้องมองด้วยความรู้สึกทั้งสับสนและร้อนรุ่ม ก็เธอบอกมิรินดาเองว่าไม่เป็นไร และบอกเพื่อนคนอื่น ๆ ว่าเธอกับเขมรัฐเป็นแค่เพื่อนกันแล้วทำไมต้องคิดมาก หญิงสาวเบือนหน้าไปทางอื่นเพราะไม่อยากมองท่าทีมีความสุขของเพื่อนชายที่สนิทกันมานาน ทว่าวันนี้ความนึกคิดของเธอเปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้เห็นเขาอยู่ท่ามกลางสาว ๆ เพราะแต่ไหนแต่ไรเธอไม่เคยเห็นเขาพูดคุยกับใครมากไปกว่าเธอโดยเฉพาะผู้หญิงพวกนั้น และภาพที่ทำให้เธอเริ่มเกิดความกระอักกระอ่วนคือภาพที่เขมรัฐพูดคุยกับมิรินดา อังศุมาลินพยายามปัดความคิดที่วาบเข้ามาว่านี่มันความรู้สึกหึงหวงชัด ๆ หญิงสาวทำเหมือนไม่สนใจ เธอไปนั่งที่มุมหนึ่งของงานเลี้ยงแต่ก็เห็นตลอดเวลาว่าเขมรัฐนั่งคุยกับมิรินดา ทั้งสองหัวร่อต่อกระซิกกันเหมือนสนิทสนมกันมานานทั้งที่เพิ่งรู้จักกันที่นี่ มันทำให้อังศุมาลินเกิดความน้อยใจขึ้นมา เธอเองที่เป็นคนชวนนักศึกษาแพทย์หนุ่มมาเป็นเพื่อน กลับกลายเป็นว่าเขาดันเป็นจุดสนใจของเพื่อนสาว ๆ ในคณะ โดยเฉพาะมิรินดา สาวสวยระดับดาวเด่นและมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้นั่นคือเจ้าหล่อนเป็นคู่แข่งการเรียนของอังศุมาลิน เพราะเวลาสอบได้คะแนนสูง มิรินดามักมาพูดจาเปรียบเทียบตัวเองกับเธอบ่อยครั้ง นั่นอาจเป็นเพราะความสวยในระดับเดียวกันทำให้มิรินดาพยายามเอาชนะอังศุมาลินไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงเมื่อเห็นว่าเขมรัฐยังนั่งคุยกันกับมิรินดาหญิงสาวจึงตัดใจหันหลังให้และเดินเลี่ยงออกไปเมื่อเห็นว่านักศึกษาแพทย์หนุ่มเขมรัฐไม่ได้สนใจเธอแล้ว อังศุมาลินเดินไปตามหาดทรายห่างจากวิลล่าซึ่งเป็นสถานที่จัดงานไม่ไกลและแสงไฟก็ยังส่องสว่างมองเห็นทางชัดเจน ร่างเล็กบอบบางเดินไปถึงใต้ต้นไม้ใหญ่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากด้านหลัง
