4
ชายหนุ่มมองตามหลังของณิชาจนลับสายตา ถึงเดินกลับไปยังโต๊ะ กระแทกตัวลงนั่ง คว้าแก้วขึ้นดื่มด้วยสีหน้าเซ็งๆ เมื่อนึกได้ก็ถามขึ้นลอยๆกับเพื่อนผู้เป็นเจ้าของบ้าน
“แปลกนะ ยัยลีอาไม่มาด้วย”
“ติดธุระมั้ง”
“อย่างยัยนั่นมีธุระอะไรสำคัญกว่าปาร์ตี้วะ” เก้าบอกขำขำ ก่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ลอบสังเกตสีหน้าของเจ้าของบ้านไปพลาง ถามอย่างเกรงๆ “ว่าแต่ ได้ข่าวลิลลาบ้างไหม”
“ได้ยิน...เห็นว่าท้องลูกแฝด”
“เอ้ย นายรู้แล้วหรือ”
“ลีอาบอก”
“ยัยนี่ไวกว่ากูอีก” เก้าถามหยั่งเชิงอีกที “ตัดใจได้หรือยังวะคุณธีร์”
คนถูกถามยักไหล่ไม่ว่าอะไร ไม่ตอบคำถามให้รู้ สายตาก็ดูเรียบนิ่งจนคาดเดาไม่ออกว่าคิดเห็นเป็นประการใด เมื่อคนรักที่เลิกรากันไปแล้วนั่นท้องกับเศรษฐีชาวดูไบแถมยังได้ลูกฝาแฝดในครรภ์อีกด้วย
ยกเหล้าขึ้นจิบอีกรอบ บ่นเสียงไม่ดังไม่เบานัก
“เสียดายคุณณิชไม่มานั่งคุยด้วย”
ธีร์ชะงักหน่อยเดียว ด้วยความรู้สึกยากจะบรรยายที่มีคนกล่าวถึงณิชาด้วยอาการห่วงหาฉันท์ชู้สาวเช่นนี้ แม้จะเป็นลูกพี่ลูกน้องที่สนิทกันมากอย่างเก้าก็ตาม ถามขรึมๆออกไป “เจอ?”
“เออ เดินชนกันเมื่อกี๊ คุณธีร์ครับ กูบอกตามตรงเลยนะ คุยกันแมนๆ มึงเบื่อคุณณิชเมื่อไรกูขอเถอะ”
รอยยิ้มของธีร์กระตุกขึ้นในเสี้ยววินาที ไม่ใช่ยิ้มด้วยอารมณ์ที่ดีนักตรงข้ามเสียด้วยซ้ำ พร้อมกับหัวใจที่เหมือนถูกช็อตด้วยไฟฟ้าแรงสูงหลังจากได้ยินว่ามีคนสนใจเมียตัวน้อยของเขา สายตาคมปราบนั่นก็ดูผิดไปจากที่พูดจาถึงลิลลาอย่างเห็นได้ชัด แค่นเสียงถาม มีแววเยาะในน้ำเสียงมาด้วย
“ของเหลือเนี่ยนะ”
“ก็กูชอบ มึงแม่งทำไมได้แต่ของดีดีวะ ทำบุญด้วยอะไรบอกกูดิ๊”
ธีร์ยิ้มให้กับคำพูดกระแหนะกระแหนแล้วบอกถึงสิ่งที่เพื่อนเองก็มีดีไม่ต่างกัน “เด็กคุณสวยๆทั้งนั้นนี่ครับคุณเก้า”
“แต่กูชอบแบบเมียมึง” บอกพร้อมกับวางแก้วในมือลง สบตาเพื่อนถามด้วยน้ำเสียงที่ลดความดังลงมาเกินครึ่ง “อีกนานไหมวะ แผนมึงถึงจะบรรลุน่ะ”
ธีร์เมินสายตาไปทางอื่น ยกแก้วในมือขึ้นจิบค่อยตอบ
“ไม่เกินสิ้นปี”
“เยส! ขอบใจมากเว้ยคุณธีร์”
สายตาดำเข้มของธีร์เป็นประกายวาววับ ก่อนยิ้มมุมปากคิดถึงเรื่องที่เขาทำมาบางส่วนและกำลังเดินหน้าทำมันต่อไป โดยมีณิชาเป็นหมากตัวหนึ่งในเกมของตนเองอย่างสาสะใจ
ณิชายังไม่ได้ปลีกตัวไปไหน หญิงสาวยังวนเวียนอยู่ช่วยเด็กรับใช้เก็บของและดูแลอาหารพร้อมเครื่องดื่มที่ในห้องครัวอยู่จนงานเลี้ยงเริ่มซาแขกเหรื่อร่อยหรอลง เหลือบมองดูเวลาก็เห็นว่าล่วงเข้าวันใหม่ไปกว่าสามสิบนาทีแล้ว ความเหนื่อยล้าและง่วงงุนเข้าครอบงำจึงสั่งงานเด็กๆให้เก็บส่วนที่เหลือจากที่ตนเองจัดแจงไว้แล้ว ถึงได้กลับห้องของตนเองเพื่ออาบน้ำเข้านอน เธอไม่คิดจะไปรอธีร์ที่ห้องอย่างที่เขาสั่งการเอาไว้ เพราะเห็นหลังไวไวว่าขึ้นรถขับออกไปกับหญิงสาวแสนสวยคนนั้นที่นั่งคุยกันหลังจากที่เธอลุกจากตักเขามาแล้ว
คืนนี้คงไปจบที่ห้องของหญิงสาวคนที่ขับรถออกไปด้วยกัน
ดีแล้ว เธอจะได้นอนหลับให้สบาย หลังจากที่เตรียมงานเลี้ยงให้เขามาทั้งวัน
ณิชาแทบหลับในทันทีที่ทิ้งศรีษะลงบนหมอน จากที่หลับสนิทก็ฝันไปว่าตนเองกำลังจมลงในทะเลลึก เธอว่ายน้ำหนีพวกปลาตัวใหญ่และดุร้ายในท้องทะเลกว้างแล้วก็ถูกปลาหมึกยักษ์รัดเสียแน่นหายใจแทบไม่ออก เสียงหวานครางประท้วงออกมาเบาๆในลำคอ
“ฮื้อ”
นอกจากอึดอัด ร่างกายของเธอยังร้อนวูบวาบขึ้นอีกด้วย หลังจากถูกปลาหมึกยักษ์ร้ายกาจตัวนั้นรัดเสียแน่น นี่มันอะไรกัน ความฝันแบบนี้ทำให้เธอเหมือนหายใจไม่ออก สิ่งใดกันแน่ที่กำลังรบกวนการนอนของเธออยู่ แว่วเสียงเรียกชื่อของเธอดังมาจากที่ไหนสักที่ไกลๆ
“ณิช หนูณิช”
เสียงเรียกนั่นมาพร้อมกับแรงรัดปลุกเร้าบนเรือนร่างของเธอ ณิชาขานรับอย่างมึนงง สับสนไปหมดว่าความฝันหรือความจริงกันแน่ ได้ยินเสีงตนเองขานตอบออกไปด้วย
“คะ”
“ผมบอกว่าให้ไปรอที่ห้องไง”
เสียงบอกนั่นคุ้นเสียจนเธอเห็นหน้าของคนก่อกวนลอยเข้ามาในโสตประสาทแล้ว ณิชาพลิกตัวหนี แต่อย่างไรก็หนีไม่พ้นเสียที งึมงำบอกด้วยความงัวเงีย
“ณิชง่วง”
“ผัวไม่นอน นอนก่อนผัวได้ยังไงกัน อกตัญญู”
“คุณธีร์ อื้อม์ ไม่นะคะ”
เสียงหวานที่ครางประท้วงด้วยความง่วงงุนแปรปรวนเป็นครวญด้วยกระสันรัญจวนหลังถูกปลุกเร้าอย่างหนักหน่วง กลิ่นเหล้าที่ปะปนมากับลมหายใจอุ่นจัดถูกป้อนมาพร้อมกับจุมพิตและเรียวลิ้นแสนร้อนผ่าว
“ผมจะไม่อยู่สามวันเชียวนะ ต้องให้คุ้มหน่อยสิ”
ได้ยินเรื่องคุ้มไม่คุ้มก็เหมือนกับเป็นแรงปลุกชั้นดี ความโกรธพุ่งพล่านเข้ามาแทนที่ความง่วงงุน หญิงสาวตื่นตัวในที่สุดกระแทกหมัดเล็กๆใส่นักลงทุนตัวเอ้ที่กำลังตักตวงรสสวาทจากเธอเต็มแรง
“อะไร”
ธีร์ถามสวนกลับมา คล้ายจะเห็นครู่หนึ่งว่าเขาขำแทนที่จะโกรธที่เธอกระแทกหมัดไร้พิษสงใดๆใส่แผงอกของเขา
“คิดแต่จะเอาเปรียบกัน คุ้มตั้งแต่เดือนแรกที่คุณธีร์แต่งงานแล้วล่ะค่ะ”
“ดูพูดจา ชักร้ายใหญ่นะเรา แล้วนี่ต่อยผมทำไม หืมม์”
ธีร์ว่าเธอพร้อมหัวเราะในลำคออย่างกับว่าถูกใจอะไรนักหนา เขาถามแต่ไม่ยักรอคำตอบของเธอ เสียงงึมๆงำๆอะไรนั่นเธอไม่ได้ยินมันอีกแล้ว เพราะถูกเขาปั่นป่วนด้วยประสบการณ์อัน
มากล้น หัวสมองของเธอชะงักงัน ความง่วงถูกตีจนกระเจิดกระเจิงด้วยความรู้สึกอื่น
“ก็บอกแล้วไงว่าถึงเช้า”
“ณิชไม่ไหวค่ะ ณิชง่วง”
ณิชายังคงสู้อุตส่าห์ต่อต้านเขา รู้ว่าสู้รบกับอีกฝ่ายไม่ได้ และธีร์ไม่เคยขืนใจเธอแม้เพียงครั้ง
“แต่ผมยังไหว”
ธีร์งึมงำบอกชิดริมฝีปากของเธอ เปลี่ยนอาการง่วงงุนให้เป็นความเร่าร้อนลุกฮือแผดเผากันและกันได้อย่างง่ายดายจนเช้าอย่างที่เขาว่าเอาไว้จริงๆ
