บทที่7 พ่ออยากอุ้มหลาน
“เห้อ...คืองี้..”
เลย์ที่นั่งรอลุ้นคำพูดให้หลุดจากปากฉันนานนับนาทีไม่ไหวก็เอ่ยปากเฉลยกันออกมาในที่สุด
ปรี้น ปรี้น ปรี้น!!!
แต่อยู่ ๆ เสียงแตรจากรถของพ่อเลี้ยงและแม่ฉันก็ดังขัดจังหวะขึ้น ฉันรีบเด้งตัวลุกไปที่หน้าต่างก็เห็นว่าแม่กำลังยืนกระสับกระส่ายอยู่หน้ารั้วประตูบ้าน
“แม่มา!!! นายออกจากห้องฉันไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะรีบไปเปิดประตูให้แม่”
ฉันพูดจบก็ไม่รีรอรีบก้าวฉับ ๆ ออกมาอย่างไวโดยไม่สนใจคำพูดที่เลย์กำลังจะเอ่ยออกมา
เมื่อเดินมาถึงประตูรั้วฉันก็รีบไขกุญแจอย่างไว
“ทำอะไรอยู่แม่โทรหาตั้งหลายสาย”
“อะ..อาบน้ำอยู่ไงแม่”
ฉันเฉไฉตอบส่ง ๆไป
“แล้วไหนว่าไปสัมมนาทำไมกลับไวจัง”
“แม่ปวดฉี่เดี๋ยวค่อยว่ากันนะ”
แม่รีบโบกไม้โบกมือแบบขอไปทีแล้วรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปในบ้านอย่างไว
“อ้าวหนูมีน เจ้าเลย์มันกลับมาหรือยัง”
ลุงพลพ่อของเลย์และเป็นพ่อเลี้ยงของฉันเอ่ยถามขึ้น
“มาแล้วค่ะ”
“อ๋องั้นเหรอ ”
ลุงพูดพลางเปิดประตูรถลงมา
สรุปวันนี้ฉันก็จำใจจะต้องอยู่ที่บ้านต่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้รู้ว่าต่อให้หนียังไงสักวันฉันต้องเจอกับเลย์อยู่ดีแต่ฉันก็อยากจะยืดเวลาออกไปให้ได้นานที่สุดแค่นั้นเอง
มื้อค่ำวันนี้เป็นมื้อแรกในรอบ 4 ปีที่เราทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน เจ้าเด็กบ้านั่นนั่งอยู่ตรงข้ามฉันเขากินไปยิ้มไปอย่างอารมณ์ดี จนกระทั่ง....
“นานมากแล้วที่เราไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้.....พ่อมีเรื่องสำคัญจะคุยกับเราทั้งสองคนพอดีเลย”
ลุงพลวางช้อนกินข้าวลงพร้อมยกน้ำดื่ม แต่ฉันเห็นเลย์หุบยิ้มลงทันทีที่พ่อกำลังจะเริ่มพูดเหมือนเขารู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
“ปีนี้พ่อก็แก่มากแล้ว พ่อบอกตรง ๆ พ่ออยากอุ้มหลาน”
ลุงพลพูดพร้อมหันหน้ามามองลูกชายที่นั่งข้าง ๆ
“พ่อเราเค้าไปเจอหลานของลูกน้องที่ทำงานแก้มนี่ยุ้ยน่ารักน่าชัง สงสัยจะอยากมีกับเขามั่ง”
แม่ฉันพูดไปก็ยิ้มไป
“ผมก็บอกพ่อไปแล้วไง ผมยังไม่พร้อม”
เลย์ตอบกลับพ่อด้วยสีหน้านิ่ง ๆตามสไตล์ของเขา
“แกไม่มีไปพลาดท่าทำสาวที่ไหนท้องบ้างรึไงนะ”
ลุงพลพูดประชดลูกชายอย่างอารมณ์เสีย แต่เอิ่มลุงคะ...หนูว่าตรรกกะลุงมันแปลก ๆ นะคะ
“พี่พล อะไรจะขนาดนั้นคะพี่เนี่ยล่ะก็....”
แม่ฉันพูดปรามลุงพลพร้อมยิ้มร่า
“งั้นหนูมีนล่ะ...”
เมื่อเค้นถามเจ้าลูกชายไม่เป็นผล ลุงพลเลยหันมาถามฉันแทน
“อ่ะเอ่อ....หนู...”
“รายนี้ยิ่งมองไม่เห็นเค้าลางเลยค่ะ ล่าสุดก็เพิ่งเลิกกับแฟนเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น...ถ้านับ ๆดูนี่ก็กี่คนแล้วนะ”
แม่ทำท่าชูนิ้วขึ้นมานับด้วยท่าทางโอเวอร์สมกับเป็นแม่ฉันจริง ๆ
“แม่!!!”
ฉันถลึงตาใส่แม่ที่นั่งข้าง ๆ แต่แม่กลับไม่สะทกสะท้านยังขำร่วนออกมาอย่างอารมณ์ดี แม่ฉันเป็นผู้ที่อารมณ์ดีตลอดในทุกสถานการณ์ลุงพลถึงได้รักแม่ยังไงล่ะ
ผิดกลับอีกคนที่นั่งตรงข้ามฉัน สายตาเย็นชาจ้องมองกันอย่างไม่ลดละเขาเป็นไบโพล่ารึไงนะ
