ตอนที่ 6
แต่พ่อแม่เธอไม่สนับสนุน ไรวินท์เองก็ไม่สนใจเธอเท่าที่ควร สาลินีจึงต้องคอยเอาใจน้องเจ้าขา เพื่อใช้แม่หนูน้อยเป็นสะพานให้
สามคนพ่อแม่ลูกนั่งสามล้อมาถึงบ้านของไรวินท์ ยงเป็นคนกดออดเรียก ไรวินท์นั่งดูทีวีกับน้องเจ้าขา หันมองอย่างแปลกใจ
"ใครมาป่านนี้นะ"
เขาตะโกนเรียกลูกน้องชายคนเดียวในบ้าน
"เก่ง...ไอ้เก่งโว๊ย"
"เก่งไปเปิดประตูแล้วค่ะคุณวิน"
จำปามานั่งพับเพียบรายงานเขา ไม่นาน...ยงก็พาลูกเมียเดินเข้ามาในบ้าน
"พ่อ...แม่ สวัสดีครับ"
ไรวินท์ไหว้ทักพ่อตาแม่ยาย ยงกับบุญนำรับไหว้ยิ้ม ๆ น้องเจ้าขากอดขาพ่อแน่น มองตายายและน้าสาวอย่างไม่คุ้นเคย
"สวัสดีค่ะพี่วิน"
สาลินีทักเขาเสียงใส เขาเพียงพยักหน้าให้เธอ
"แม่คุณเอ๊ย...มาให้ยายกอดหน่อยสิลูก"
บุญนำอ้าแขนออก น้องเจ้าขามองหน้าพ่อ
"ไปหาคุณยายสิลูก ไหว้สวย ๆ ด้วยนะ"
น้องเจ้าขายิ้ม ไหว้ยงกับบุญนำอย่างน่ารัก สองผัวเมียกอดหอมแก้มรับขวัญหลาน สาลินีไม่ได้สนใจหลาน เธอส่งสายตามองแต่ไรวินท์ เขาทำเป็นไม่เห็น และไม่สนใจเธอ
ยงอุ้มหลานสาวมานั่งตัก บุญนำเอาถุงมาเปิด หยิบของออกมายื่นให้แม่หนูน้อย
"ยายซื้อขนมกับตุ๊กตามาฝากหนูด้วยจ้ะ ดูซิ...ชอบไหม"
น้องเจ้าขาเอาตุ๊กตามากอด อีกมือก็ถือถุงขนม ยิ้มดีใจตามประสาเด็ก
"พ่อกับแม่สบายดีนะครับ ไม่มาซะตั้งนาน"
"ความจริงเราคิดถึงหลานมาก แต่ไม่อยากมารบกวนคุณบ่อย ๆ"
"ไม่รบกวนหรอกครับ มาบ่อย ๆ เจ้าขาจะได้ไม่เหงา"
ไรวินท์พูดโดยไม่คิด แต่สาลินีถือว่าเขาอนุญาตแล้ว
"ถ้านีจะมาเยี่ยมหลานบ่อย ๆ พี่วินคงไม่ว่าใช่ไหมคะ"
สาลินีเรียกตัวเองว่านี และส่งตาหวานให้เขา ไรวินท์รู้ตัวว่าพลาด ก็นิ่งไป...ไม่ตอบเธอ บุญนำหันไปส่งสายตาดุปรามสาลินี
ยงเกรงใจไรวินท์ เพราะรู้ฐานะตัวเองดี เขาเห็นไรวินท์จริงใจกับลูกสาว...ก็ดีใจ แต่เสียดายที่สาวิตรีบุญน้อย ยงไม่เคยคิดจะเรียกร้องอะไรจากเขา แค่ไรวินท์ไม่คิดรังเกียจครอบครัวของเขา เขาก็พอใจมากแล้ว
"พ่อกับแม่จะขอมาเยี่ยมหลานเดือนละครั้ง คุณวินคงไม่ว่าอะไรนะ"
"ผมไม่ขัดข้องเลยครับ พ่อกับแม่จะมาหาน้องเจ้าขาเมื่อไหร่ก็ได้"
"ไว้ว่าง ๆ นีจะมาช่วยดูแลหลานให้ด้วยนะคะ"
" ไม่ต้องหรอก...น้องเจ้าขาเข้าโรงเรียนแล้ว เสาร์-อาทิตย์ผมก็ดูแลเอง ไม่รบกวนเธอหรอก"
ไรวินท์พูดปัดอย่างไร้เยื่อใย สาลินีกัดปาก ที่เขาไม่เคยรับไมตรีของเธอเลย บุญนำส่ายหัว..,ที่สาลินีพยายามจะทอดสะพานให้พี่เขยตัวเอง
"แกทำงานทุกวันไม่ใช่เหรอนังจุก จะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลหลาน วันเสาร์วันอาทิตย์ขอให้ไปช่วยขายผัก..,แกยังอิดออดเลย ยังจะกล้ามาอาสาเลี้ยงหลานอีกหรือ"
บุญนำว่าลูกสาวอย่างไม่เกรงใจ สาลินีอายไรวินท์มาก และโกรธแม่ที่มาฉีกหน้าเธอแบบนี้ด้วย
'แม่...ทำไมพูดแบบนี้ล่ะ"
สาลินีเห็นไรวิท์ทำหน้าเฉย ๆ ก็คิดว่าเขาไม่ได้สนใจคำพูดของแม่ แต่เขากลับบอกพ่อแม่เธอว่า
"ลูกผม...ผมดูแลเองได้ครับ ไม่ต้องให้ใครมาช่วยดูหรอกครับ แต่ถ้าพ่อกับแม่ว่าง ก็มาเล่นกับหลานได้เสมอนะครับ"
ยงกับบุญนำมองหน้ายิ้มให้กัน
"ขอบใจมากนะคุณวิน"
ยงตื้นตันจนพูดได้แค่นี้ ตั้งแต่สาวิตรีตาย..,เขามาเยี่ยมหลานแค่ 2 ครั้ง เพราะไม่แน่ใจว่าไรวิท์จะเต็มใจให้มาไหม แต่เมื่อเขาพูดเองแบบนี้ ยงชื่นใจจนบอกไม่ถูก
สองผัวเมียเล่นกับหลานอีกครู่หนึ่งก็ลากลับ สาลินีเซ็งพ่อกับแม่จนไม่อยากจะพูดด้วย เธอโกรธที่พ่อกับแม่ไม่สนับสนุนให้เธอมาแทนที่สาวิตรี
ภัทรินเดินตรวจเวรพักเที่ยงตามปกติ เธอกวาดตามองไปที่สนาม...ก็เห็นน้องกั้งกับน้องเจ้าขายืนคุยกัน เธอคิดว่าพวกเขาแค่คุยกัน จึงไม่ได้สนใจ แต่กลับเห็นพวกเขายื้อแย่งอะไรกันอยู่ เธอจึงรีบเดินเข้าไปหา
แต่ยังเดินไม่ทันถึงตัว ก็เห็นน้องกั้งผลักน้องเจ้าขาล้ม ภัทรินใจหายวาบ รีบวิ่งเข้าไปหา น้องเจ้าขาไม่ร้อง เธอลุกขึ้นมาผลักน้องกั้งคืน คราวนี้น้องกั้งร้องไห้ลั่น เธอเลยต้องเดินไปดูน้องกั้งก่อน
"น้องกั้ง...เป็นไงบ้างคะ"
"เจ้าขาผลักผมคับ"
น้องกั้งชิงฟ้องก่อน ขาเขามีแผลถลอกนิดหน่อย ภัทรินมาดูน้องเจ้าขา ก็เห็นมือน้องเจ้าขาถลอก มีเลือดไหลซิบ ๆ
"เจ็บไหมคะ"
น้องเจ้าขาน้ำตาไหล แต่ไม่ร้องงอแงเหมือนน้องกั้ง ตติยาวิ่งมาหาทุกคน ดึงน้องกั้งขึ้นจากพื้น
"เธอพาน้องกั้งไปทำแผลก่อน"
ตติยาพยักหน้า จูงน้องกั้งไปทำแผล ภัทรินจับไหล่น้องเจ้าขา ก็เห็นว่าเธอกำผ้าผืนหนึ่งไว้แน่น
"ครูพิ้งค์ขา..."
"ไม่ต้องร้องนะคะคนเก่ง"
ภัทรินถอนใจมองผ้าเก่า ๆ ในมือน้องเจ้าขา
"เกิดอะไรขึ้นคะ เล่าให้ครูฟังหน่อยได้ไหม"
"น้องกั้งมาแย่งผ้าพันคอของคุณแม่ค่ะ เจ้าขาไม่ให้ เขาเลย..."
น้องเจ้าขาเอาหลังมือเช็ดน้ำตา หญิงสาวดึงผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหน้าให้เธอ และดึงผ้าเก่า ๆ ผืนนั้นมาดู เป็นผ้าพันคอผืนใหญ่ลายสวย แต่มันเก่ามาก และขาดปริเป็นรูตรงมุมผ้า คงเพราะถูกเด็กสองคนดึงกันไปดึงกันมา
"ครูพาไปทำแผลนะคะ"
น้องเจ้าขามองภัทรินตาแป๋ว ยอมให้เธอจูงเดินไปห้องพยาบาล มือน้อย ๆ ยังกำผ้าผืนนั้นไว้แน่น ภัทรินก็ไม่เข้าใจว่า...เธอจะเอาผ้าผืนนี้มาโรงเรียนด้วยทำไม
