บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4

คุณหญิงชไมพรเกลียดสาวิตรี ที่เธอเป็นเพียงลูกแม่ค้าขายผักในตลาด แต่บังอาจมาคว้าหัวใจลูกชายคนเล็กที่แสนหวงของเธอ ทำให้เขาพลาดโอกาสได้ไปเรียนศิลปะที่เขาใฝ่ฝัน

แล้วเธอก็มาด่วนตายจากไป ทิ้งให้ไรวินท์ต้องเป็นพ่อหม้ายลูกติด ทั้งที่เพิ่งจะอายุ 28 เท่านั้น ด้วยเหตุนี้... คุณหญิงชไมพรจึงเกลียดสาวิตรีมาก และพลอยเกลียดน้องเจ้าขาไปด้วย

"ไม่ว่าแกจะยอมหรือไม่ยอม แกก็ต้องแต่งงานกับหนูโมน่า"

"คงไม่ได้หรอกครับคุณแม่ โมน่าไม่ชอบเด็ก เธอเข้ากับน้องเจ้าขาไม่ได้ แล้วเธอจะมาแต่งงานกับผมได้ยังไง"

"จะยากอะไร...แกก็เอานังเด็กนั่นคืนไปให้ตายายมันเลี้ยงสิ"

"คุณแม่ครับ"

ไรวินท์กัดฟันแน่น ไม่คิดว่าแม่ของเขาจะไม่มีเหตุผลแบบนี้

"ลูกของผม...ผมต้องเลี้ยงเองสิครับ ถ้าโมน่าไม่ชอบลูกผม ก็อย่ามาแต่งกับผมก็สิ้นเรื่อง ผมขอตัวไปดูลูกก่อนนะครับ"

ไรวินท์ไม่อยากเถียงกับแม่ จึงเดินปึงปังขึ้นข้างบนไป

"ตาวิน...ตาวิน"

คุณหญิงชไมพรเรียกตั้งหลายคำ เขาก็ไม่หันมามอง เธอได้แต่โมโหขัดใจ ที่ลูกชายคนโปรดไม่ยอมทำตามที่เธอบอก

"อย่าคิดว่าแม่จะยอมแพ้นะ"

คุณหญิงชไมพรสะบัดหน้าเดินออกไป ไม่นานก็ได้ยินเสียงรถออกจากบ้านไป ไรวินท์ยืนดูอยู่ที่หน้าต่าง เขาส่ายหัวให้กับความดื้อนั้นของแม่ิที่พยายามจะบังคับให้เขาแต่งงาน

ไรวินท์มาทรุดตัวนั่งลงบนเตียง หยิบรูปของสาวิตรีที่วางอยู่ตรงหัวเตียงมาดู

"สา...เธอไม่น่าด่วนจากฉันไปเร็วขนาดนี้เลย"

ไรวินท์กอดรูปภรรยา หวนคิดไปถึงเหตุการณ์เมื่อ 3 ปีก่อน ตอนนั้นน้องเจ้าขาเพิ่งจะอายุเพียง 2 เดือนกว่า สาวิตรีตรวจพบว่าเธอเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว (ลูคีเมีย) เธออยู่ต่อมาได้เพียง 6 เดือน ก็จากเขากับลูกไป ไรวินท์โศกเศร้าเสียใจมาก เขาต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง น้องเจ้าขาต้องขาดแม่ แม้เขาจะพยายามมากแค่ไหน...ก็ไม่อาจทำหน้าที่ของแม่ได้

ไรวินท์เดินออกมาจากห้อง เขาเดินมาที่ห้องของลูกสาวตัวน้อย จำปากำลังหวีผมให้น้องเจ้าขา เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว

เขาเดินมาจับแขนเล็ก ๆ ของเธอมาดู ก็เห็นรอยช้ำสีแดงที่แขนของลูกสาว เขาเสียใจจนพูดไม่ออก ยกแขนของลูกขึ้นมาจูบ

"เจ็บมากไหมลูก"

น้องเจ้าขายิ้ม

"เจ้าขาไม่เจ็บแล้วค่ะ"

เขาเม้มปาก ลูบรอยช้ำบนแขนเบา ๆ อยากคลึงให้มันหายไป ใจเขาเจ็บเหมือนถูกมีดกรีด หากคนที่ทำเป็นคนอื่น...ไม่ใช่แม่ของเขา เขาคงไม่เสียใจขนาดนี้

"หิวหรือยังลูก"

แม่หนูพยักหน้า

"เราไปกินข้าวกันนะ"

ไรวิท์อุ้มน้องเจ้าขาลงไปกินข้าวข้างล่าง เขาวางลูกสาวลงบนเก้าอี้เด็กทรงสูง จำปาเอาจานข้าวมาวาง และป้อนข้าวให้เธอ หญิงวัย 40 เศษซึ่งเป็นแม่บ้าน...เดินคาดผ้ากันเปื้อนออกมาจากในครัว

"คุณวินคะ"

ไรวินท์พยักหน้าเบา ๆ ลุกเดินไปยืนคุยกับเธอห่างออกไป

"มีอะไรครับน้าเอียด"

น้าเอียดหรือนางละเอียด เป็นคนรับใช้เก่าแก่ที่ตามเขามาจากบ้านของคุณหญิงชไมพร เธอเคยเป็นพี่เลี้ยงของไรวินท์มาก่อน จึงตามมาเป็นแม่บ้านให้เขา พร้อมกับเก่ง...ลูกชายของเธอ

"คุณจะทำยังไงต่อไปคะ คุณหญิงคงต้องบังคับให้คุณแต่งกับคุณโมน่าให้ได้แน่ ๆ น้าสงสารคุณหนูค่ะ"

ละเอียดหันไปมองน้องเจ้าขา

"ไม่ว่าคุณแม่จะพูดยังไง ผมก็ไม่มีวันยอมหรอก ผู้หญิงคนนั้นไม่มีอะไรเข้ากับผมและลูกได้เลย"

"ต่อให้คุณไม่ยอม คุณหญิงก็ต้องหาทางจนได้ล่ะค่ะ นิสัยท่านเป็นยังไงคุณก็รู้ดี"

"ไม่ต้องห่วงหรอกน้าเอียด ถ้าคุณแม่บังคับผมมาก ๆ ผมจะพาลูกหนีไปให้ไกล ๆ เลย"

ละเอียดส่ายหัว จับไหล่ชายหนุ่ม

"คุณจะทำอะไร ก็คิดถึงคุณหนูให้มาก ๆ นะคะ...เธอยังเล็กมาก"

ละเอียดพูดเสร็จก็เดินกลับเข้าหลังบ้านไป ไรวินท์ถอนใจ เขาเดินไปลูบหัวลูก แล้วกลับมานั่งกินข้าว และคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียว

คุณหญิงชไมพรอารมณ์เสีย เดินกระฟัดกระเฟียดเข้ามาในบ้าน หญิงสาวหน้าตาดี อายุ 32 ปี เดินออกมาดู และไหว้ทักเธอ

"คุณแม่ไปไหนมาคะ หน้าตาบอกบุญไม่รับมาเชียว"

คุณหญิงชไมพรส่ายหัว

"แม่ไปบ้านตาวินมา..."

"อ๋อ...งั้นอุ้มรู้สาเหตุแล้วค่ะ"

อุ้มหรือวิริยา ลูกสาวคนโตของคุณหญิงชไมพร ยิ้มให้แม่อย่างรู้ทัน

"แกอย่ามาทำหน้าแบบนี้นะยายอุ้ม วันนี้ว่างเหรอยะ...ถึงมาหาแม่ได้"

คุณหญิงชไมพรเดินไปนั่งที่โซฟา วิริยาเดินตามมานั่งกับแม่

"ไปส่งน้องชีตาห์เข้าโรงเรียนมาค่ะ อุ้มแวะซื้อลูกตาลกับขนมบ้าบิ่นมาฝากคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ"

สาวใช้เอาน้ำเย็นมาเสิร์ฟ คุณหญิงชไมพรดื่มรวดเดียวหมดแก้ว เธอเหลียวมองไปทั่วบ้าน

"แล้วนี่พ่อแกไปไหนเนี่ย บ้านช่องเงียบเชียว"

"ไม่ทราบค่ะ...อุ้มมาก็ไม่อยู่แล้ว"

"ฮึ่ม!...สงสัยจะไปสโมสรอีกล่ะสิ"

คุณหญิงชไมรพรส่ายหัว สามีของเธอเป็นนายทหารยศนายพล ชื่อพลเอกรุ่งโรจน์ เธอจึงได้ตำแหน่งคุณหญิงตามยศสามี

ทั้งคู่แต่งงานกันมา 30 กว่าปีแล้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน คือวิริยา เป็นลูกสาวคนโต คนรองเป็นชายและเป็นนายตำรวจ ชื่อร้อยตำรวจเอกชิตพล ส่วนไรวินท์เป็นลูกชายคนสุดท้อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel