บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

พอเดินออกมาจากห้องพัก เสียงมือถือในกระเป๋าก็ดังขึ้น เธอหยิบออกมาดู และกดรับสาย

"โหล...พี่บลู ว่าไง"

บลูหรือบูรณะเป็นพี่ชายเธอเอง

"ไอ้พิ้งค์...แม่ให้มาถามว่า ทำบุญย่าปีนี้...แกจะกลับมาไหม"

"อืม...วันไหนอ่ะพี่ "

"ปลายเดือนหน้า"

"โห...อีกตั้งเป็นเดือน จะรีบถามทำไมเนี่ย ยังไม่รู้หรอก...ใกล้ ๆ ค่อยบอกนะพี่ ช่วงนี้เด็กเพิ่งเปิดเทอม งานยุ่งมากเลยอ่ะ"

"เออ...จะบอกแม่ให้ แม่คงอยากให้แกมาน่ะ รู้ล่วงหน้าแบบนี้แล้ว ก็รีบหาทางกลับมาให้ได้ล่ะ...แม่เขาคอยแกนะ"

"จ้ะพี่...บอกแม่ด้วยละกัน ฉันจะหาโอกาสไปให้ได้นะ"

"อื้ม...ดูแลตัวเองดี ๆ ล่ะ"

"พี่ก็เหมือนกัน ฝากหอมแก้มพ่อกับแม่ด้วย"

"หอมแม่น่ะได้ แต่พ่อน่ะ...ไม่เอาเว้ย แกมาหอมเองเถอะ"

บูรณะหัวเราะเสียงดังแล้ววางสายไป ภัทรินถอนใจ...

"ใกล้วันครบรอบวันตายของย่าอีกแล้วเหรอ เวลาผ่านไปเร็วจริง ๆ นะ ฉันคงต้องขอลากิจสัก 2-3 วัน ไม่รู้จะได้ลาหรือเปล่า ช่วงนี้ยิ่งยุ่ง ๆ อยู่ด้วย เฮ้อ!...พูดแล้วคิดถึงบ้านจัง"

ภัทรินคิดอย่างห่อเหี่ยวใจ ออกมาทำงานไกลบ้านก็ต้องทำใจหน่อยล่ะ จะกลับบ้านปุบปับก็คงไม่ได้ หญิงสาวคิดอย่างกังวล กลัวจะลากลับบ้านไม่ได้

รถสีดำคันใหญ่เลี้ยวเข้ามาในบ้านสองชั้นขนาดเนื้อที่ 200 ตารางวา เขาบีบแตร 2-3 ครั้ง ก็มีชายหนุ่มคนหนึ่งมาเปิดประตูรั้วให้ รถคันใหญ่เข้ามาจอดเทียนถึงหน้าประตูบ้าน

น้องเจ้าขาเปิดประตูลงมาจากรถอย่างร่าเริง พ่อของเธอเดินตามลงมา เขาถอดแว่นขมวดคิ้ว มองรถคันใหญ่ที่จอดอยู่ไม่ไกล

"คุณหญิงมาครับ"

ชายหนุ่มที่มาเปิดประตูให้ เดินมากระซิบบอกกับเชา

"มานานหรือยัง"

"เกือบชั่วโมงแล้วครับ ผมเรียนท่านแล้ว ว่าคุณวินไปรับคุณหนูเจ้าขา ท่านก็บอกว่าจะรอครับ

วินหรือไรวินท์พยักหน้า โบกมือให้เขาไป ตัวเองถือกระเป๋าลูกเดินเข้าบ้าน แต่เพิ่งจะเดินถึงหน้าห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างใน

"แกจะมาจ้องหน้าฉันทำไม ห๊ะ!... นังมารหัวขน"

ไรวิท์รีบเดินเข้าไปดู ก็เห็นหญิงวัยกลางคน...กำลังบีบแขนเล็ก ๆ ของน้องเจ้าขา เธอคือคุณหญิงชไมพรแม่ของเขาเอง

น้องเจ้าขานิ่วหน้าร้องไห้ เขารีบวิ่งเข้าไปดึงตัวแม่หนูมากอด น้องเจ้าขาสะอึกสะอื้นกอดคอพ่อไว้แน่น

"ถามดี ๆ ก็ได้ ทำไมต้องรุนแรงกับเด็กด้วยล่ะครับ"

"ทำไม...แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลยเหรอ"

"น้องเจ้าขาแค่ 3 ขวบเองนะครับ คุณแม่ไม่ควรรุนแรงกับเธอเลย"

"ช่างมันเถอะ...แม่จะมาถามแกเรื่องหนูโมน่า ตกลงแกจะเอายังไง"

ไรวินท์ไม่ตอบ แต่หันไปตะโกนเรียกสาวใช้ลั่นบ้าน

"จำปา...นังจำปา"

"ขา ๆๆๆๆ"

สาวใช้หน้าซื่อวัย 20 ปลาย ๆ วิ่งหน้าตั้งเข้ามาหา เขาส่งน้องเจ้าขาให้เธอ

"พาคุณหนูไปอาบน้ำ เดี๋ยวฉันจะไปพามากินข้าวเอง"

สาวใช้พยักหน้า อุ้มน้องเจ้าขาเดินขึ้นข้างบน คุณหญิงชไมพรดึงแขนเขาให้หันมาหาเธอ

"ตาวิน...แกก็เป็นหม้ายมาตั้งนานแล้วนะ ควรจะมีเมียใหม่ได้แล้ว แกตกลงแต่งงานกับหนูโมน่าเถอะนะ"

ไรวินท์ไม่ตอบ เขาเดินไปนั่งลงบนโซฟาอย่างเบื่อหน่าย คุณหญิงชไมพรก็ตามเซ๊าซี๊ไม่เลิก

"อย่าผัดผ่อนอีกเลยนะลูก แม่ผัดเขามาหลายรอบแล้ว.."

"อยู่แบบนี้ก็สบายดีแล้วนี่ ยังไงผมก็ไม่ตกลงครับ"

"ตาวิน...นี่แกจะทำให้แม่อกแตกตายหรือไง หนูโมน่าเพียบพร้อมทุกอย่าง ทั้งรูปสมบัติ ทั้งชาติตระกูล นังผู้หญิงคนนั้นมันตายไปตั้งหลายปีแล้วนะ เมื่อไหร่แกถึงจะลืมมันไปซะที"

"ยังไงสาวิตรีก็เป็นเมียผม และเป็นแม่ของลูกผม นี่เธอก็ตายไปแล้ว ถึงคุณแม่จะไม่ชอบเธอยังไง ก็ควรจะให้เกียรติคนตายบ้างนะครับ"

"คนไร้เกียรติ ไร้สกุลรุนชาติอย่างมัน ทำไมแม่ต้องให้เกียรติมันด้วย แม่ไม่มีวันยอมรับผู้หญิงที่ทำให้แกตกต่ำมาเป็นสะใภ้หรอก รวมทั้งนังเด็กมารหัวขนนั่นด้วย"

"คุณแม่ครับ..."

ไรวินท์หน้าแดง หันมามองแม่ด้วยสายตาผิดหวัง

"ทำไม...แม่พูดผิดตรงไหน ถ้าตอนนั้นมันไม่ปล่อยให้ตัวเองท้องเพื่อจับแก ตอนนี้แกก็ยังคงเรียนอยู่ที่เวียนนา แกจะได้เรียนศิลปะที่แกรักไง แต่นี่... อนาคตแกต้องพังไม่เป็นท่า เพราะนังผู้หญิงสารเลวคนนี้"

"พอทีเถอะครับคุณแม่ ผมบอกคุณแม่ตั้งหลายครั้งแล้ว คนที่ผิดคือผม ผมตัดสินใจที่จะไม่ไปเวียนนาเอง สาวิตรีปิดเรื่องที่ตัวเองท้อง เพราะไม่อยากให้ผมทิ้งอนาคต แต่เป็นผมเองที่เลือกทางนี้ คุณแม่เลิกโทษสาวิตรีสักทีเถอะครับ"

"ทำไม...ทำไมฉันจะโทษมันไม่ได้ แกลองไปส่องกระจกดูตัวเองซิ ไว้ผมยาว ไว้หนวดไว้เครารุงรัง หน้าตาใกล้จะเป็นโจรเข้าไปทุกทีแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะมัน...แกจะเป็นแบบนี้เหรอ"

"เราพูดเรื่องนี้กันมากี่ครั้งแล้ว ทำไมคุณแม่ถึงไม่ยอมเข้าใจเสียที"

ทั้งไรวินท์ ทั้งคุณหญิงชไมพร ต่างก็มีโทสะทั้งคู่ ไรวินท์ไม่ได้อยากทะเลาะกับแม่แบบนี้ แต่เพราะคุณหญิงชไมพรเอาแต่โทษว่า...ที่เขาไม่ไปเรียนต่อที่เวียนนาเป็นความผิดของสาวิตรี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel