บท
ตั้งค่า

คงเป็นได้แค่อดีต

“สวัสดี อลิซ”

กึก!! เสียงนุ่มทุ้มที่ไม่ได้ยินมานานหลายปี เสียงที่จำไม่เคยลืมแค่ได้ยินเสียงของเขาคนนั้นก็ไม่จำเป็นต้องเปิดหน้าให้เห็นก็ได้ อุณหภูมิในห้องที่อากาศเย็นสบายจากในห้องประชุมไม่สามารถทำให้อลิซหายร้อนได้ ฝ่ามือบางเริ่มมีเหงื่อซึมออกมาและเสียงหัวใจที่เต้นดังอีกครั้ง

“คุณผู้จัดการเริ่มงานได้วันไหนครับ” ไบร์ทหันไปถามผู้จัดการคังทันที หลังจากทักทายฉันเสร็จไม่มีท่าทีคุกคามแต่อย่างใด สงสัยคงลืมแล้วมั้ง!! แต่ทำไมใจฉันรู้สึกเจ็บจัง คงจะดีแล้วถ้าเป็นแบบนี้ฉันจะได้เลิกกลัวสักที คิดไปเองว่าเขาจะถามหาสุดท้ายเป็นไง หมอแทบจะไม่รับเย็บหน้า!!

“เริ่มวันนี้ได้เลย”

“เธอจะไหวเหรอครับพี่ ไม่ใช่ไม่ไหวแล้วก็หนีนะครับ” หือ!! ไอ้บ้าไบร์ทสรุปจิกกัดฉันอยู่ใช่มั้ย!! แต่ขอโทษนะถึงฉันแต่ตัวเล็กฉันถึกนะจะบอกให้ ไม่ได้เป็นรู้คุณหนูบอบบางขนาดนั้น ถึงจะชอบแพ้อาหารหรืออากาศก็เหอะ!!

“แหม่!! ฉันสองคนทำได้ทุกอย่างแหละค่ะ ขอให้สั่งมาได้เลย” ฆ่าได้หยามไม่ได้บอกได้คำเดียวว่า ถ้าจะมาพูดดูถูกกันแบบนี้ อลิซคนนี้ไม่ยอมแน่นอน!! เสียเงินไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ เคยได้ยินมั้ยไอ้โอปป้า) : ตอนนี้ก็ได้แต่คิดคำด่าและเถียงในใจ ยังไม่กล้าด่าออกไปหรอก!!

“แต่พรุ่งนี้พวกเราต้องไปถ่ายรายการ ที่นั้นอากาศร้อนมากเลยนะครับ คุณผู้จัดการจะไหวเหรอ”

“โอ้ย!! คุณไบร์ทไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ประเทศไทยร้อนยิ่งกว่านรกฉันสองคนยังอยู่ได้เลย” เรื่องอากาศร้อนฉันสูงแต่อากาศหนาวฉันของยอมแพ้ ก็ส่วนมากประเทศไทยมีแต่ร้อน ร้อนมาก ร้อนมากมาก ถึงจะจบจากประเทศอังกฤษมา แต่บอกไว้เลยว่าฤดูหนาวเมื่อไหร่ฉันมักจะเรียนออนไลน์อยู่ที่ห้องพักมากกว่าแต่ถ้าต้องออกไปจริง ๆ บอกเลยว่าครบเครื่องเรื่องความอบอุ่น

“แล้วผมจะรอดู” อลิซกับไบร์ทสบตากันอย่างไม่มีใครยอมใคร สายตาและท่าทางที่พร้อมบวก คนภายนอกอาจจะดูว่ามีปัญหากันแน่นอน แต่ใครจะไปรู้ว่าข้างในใจของทั้งสองคิดยังไงและความสัมผัสของทั้งสองยังไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำ คนในวงรู้แค่ว่าไบร์ทเคยโดนแฟนเก่าบอกเลิกแต่เขาไม่ยอมปริปากบอกว่าเธอคนนั้นเป็นใคร จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่เคยมีใครรู้ว่าเธอคนนั้นคนที่ทำให้ไบร์ทแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน ผู้หญิงคนนั้นคือใคร) :

“เป็นไงบ้างวะคริสต์ สบายดีปะ” หลังจากที่แจกแจงงานกันเสร็จเรียบร้อยชูครีมก็รีบแจ้นออกจากห้องไปเตรียมงานต่อทันที ส่วนอลิซกับคริสต์ที่ไม่ได้เจอกันนานสนทนากันเป็นภาษาไทย ซึ่งทั้งสองไม่คิดว่าบุคคลในห้องคงไม่มีใครฟังภาษาไทยออกสักคนแต่หารู้ไม่ว่า มีหนึ่งคนที่เขาแอบไปเรียนภาษาไทยมานานมากแล้วรวมตัวอยู่ในห้องด้วย

“สบายดี แล้วแกเป็นไงบ้างวะ”

“ก็สบายดี เรื่อย ๆ นี่แกมาเป็นไอดอลเกาหลีตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่เคยรู้มาก่อนเลย” อลิซแอบแปลกใจที่คริสต์มาเป็นไอดอลเกาหลี ที่เธอไม่ทราบมาก่อนก็ไม่แปลกเพราะเวลามีคนพูดหรือจะเริ่มพูดเรื่องไอดอลหรือศิลปินเกาหลี ประเทศเกาหลี อลิซมักจะไม่ฟังหรือเดินหนีเลยก็ว่าได้ เห็นสาเหตุที่เธอไม่รู้ว่าเพื่อนของตัวเองโด่งดังแค่ไหน

“โห่ ไอ้ลิซนี่แกไม่อยู่หลังเขามารึไงวะ”

“เอ่อ!! ก็ไม่ค่อยได้สนใจเรื่องพวกนี้ไง”

“ตอนนี้จบโทแล้วใช่ปะแล้วทำไมถึงมาบริหารงานที่นี่ แถมยังไม่บอกใครว่าเป็นหลานเจ้าของบริษัทนี้วะ” ความแปลกใจของคริสต์ทำให้เขาถามเพื่อนออกไปตรง ๆ จะมีใครไม่รู้จัก       อลิซบ้างหรือครอบครัวของเธอบ้าง รวยออกขนาดนั้น ยิ่งประเทศไทยนะ อลิซจัดว่าเป็นไฮโซเลยก็ว่าได้ แต่อลิซมักจะทำตัวติดดินอยู่เสมอ

“อากง ขอให้มาช่วยที่นี่สักพัก ก็เพราะพวกแกสร้างแต่ปัญหาไม่ใช่เหรอ!! ฉันถึงได้มายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้” ได้ทีก็ขอบ่นให้เพื่อนได้ฟังถึงปัญหาที่เธอมาอยู่ที่นี่ และน้ำเสียงตอนนี้ดังขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นว่าคริสต์กับอลิซเถียงกันหน้าดำหน้าแดง แถมจะวางมวยกันอยู่แล้วจนโอซองต้องมาจับแยกออกจากกันเรื่องถึงได้เงียบ

“พวกเธอเป็นเพื่อนกันจริงรึป่าววะ”

“ใครเพื่อนมัน”

“อ้าวไอ้ลิซ พูดงี้ก็สวยดิวะ”

“ฉันสวยอยู่แล้วย่ะ” ท่าบึนปากมองบนของคริสต์ทำให้เธออยากข่วนหน้าหล่อ ๆ นี่จังวะ อยากจะถามว่ามันยังเห็นฉันเป็นผู้หญิงอยู่ปะเนี้ย!!

“จะเถียงกันอีกนานมั้ย” กึก!! ลืมไปเลยว่ามีบุคคลอื่นอยู่ในห้องนี่ด้วย น้ำเสียงที่ติดดุหน่อย ๆ พร้อมกับเสียงเซงของไบร์ท ทำให้อลิซและคริสต์พร้อมใจกันเงียบปากลงทันที

“คุณผู้จัดการช่วยไปซื้อที่คาเฟ่เอสให้หน่อยสิครับ”

“ห๊ะ!! คาเฟ่เอสอยู่ตรงไหนค่ะ” เอาแล้วไง ฉิบหายแล้ว!! ชูครีมอยู่ไหนวะเนี้ย นี่เขาแกล้งฉันอยู่ใช่มั้ยหรือยังไง แล้วไงคาเฟ่เอสมันอยู่ตรงไหนวะ!! แล้วฉันจะไปถูกมั้ย

“นี่เธอไม่รู้จักคาเฟ่ ใต้ตึกบริษัทนี่เหรอ”

“ถ้ารู้ฉันจะถามมั้ยค่ะ คุณไบร์ท” น้ำเสียงติดหงุดหงิดของฉันที่พร้อมจะวีนได้ทุกเมื่อ แต่ต้องสงบสติอารมณ์ของตัวเองก่อน ไม่งั้นที่ดินผื่นงามที่หมายปองไม่ได้แน่นอน

“ได้ค่ะ ข้างล่างนี่ใช่มั้ยค่ะ” เขาพยักหน้าหนึ่งที พร้อมกับสายตาที่อยู่เอือมระอากับฉันเป็นอย่างมาก ก็ฉันพึ่งมาถึงเกาหลีได้ยังไม่ถึงสี่สิบแปดชั่วโมงมั้ยละ!! ไอ้บ้านี่

“เอาอะไรค่ะและคนอื่น ๆ เอาอะไรกันรึป่าว”

“เอส” ตอบสั้นดีพ่อคุณ เดี๋ยวนี้ประหยัดทำพูดจัง ตอนนั้นที่คบกันพูดมากขี้อ้อนจะตาย!! ไม่ ๆ ฉันจะคิดถึงเรื่องในอดีตไม่ได้ตอนนี้คือปัจจุบัน ตั้งสติไว้อลิซ) : หลังจากที่รับออเดอร์จากทุกคนเรียบร้อย ฉันก็เดินลงลิฟต์เพื่อมุ่งหน้าไปที่ คาเฟ่ใต้ตึกพร้อมสั่งเมนูให้บุคคลที่อยู่ในห้องซ้อมเต้นทั้งหลายได้แดก เอ้อ!! รับประทาน

“ไปเปลี่ยนมาใหม่ ไม่ใช่รสชาตินี้ได้บอกมั้ยว่าเป็นของผม” ห๊ะ!! ฉันต้องบอกด้วยเหรอว่าเป็นกาแฟของเขา แต่ก็เถียงไม่ได้ ได้แต่ยอมรับและเดินลงไปซื้อให้ใหม่!! ให้มันจบ ....แต่ แต่ มันไม่จบเท่านี้ นายไบร์ทเปลี่ยนใจอยากกินนมสดไง ฉันก็ต้องเดินลงไปซื้อให้ใหม่อีกรอบ วันไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนอกจากจะเดินลงไปซื้อกาแฟ จนตอนนี้สนิทกับคนขายเรียบร้อยแล้ว และอีกหน่อยคงเป็นคนชงกาแฟเองนั้นแหละจ๊ะ!!

##มาน้อยแต่มานะ กดติดตามไว้เลยนะค่ะ ช่วงนี้งานยุ่งแต่จะอัพให้อย่างต่อเนื่อง*** กดไลท์ กดแชร์ กดหัวใจ กดคอมเม้นท์ให้หน่อยคนสวย คอมเม้นมาคุยกันน้า!!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel