บท
ตั้งค่า

บทที่ 14 พนักงานเจ้าอารมณ์

หญิงสาวพ่นลมออกปากอย่างขัดใจ หมุนตัวเดินไปทางห้องที่เป็นครัว เปิดประตูก้าวหายเข้าไปข้างใน เมื่อเปลี่ยนแปลงร้านใหม่เครื่องดื่มสำหรับรับรองลูกค้าก็ต้องเปลี่ยนไปตามความคิดของหล่อนด้วย น้ำตะไคร้ต้ม น้ำใบเตยและน้ำมะตูมแช่อยู่ในตู้เย็นเตรียมเสิร์ฟ มือเรียวคว้าที่ประตูตู้เย็นเปิดออกยังไม่ทันหยิบขวดน้ำสีเขียวจางออกมาจากตู้ เสียงโวยวายก็ดังเข้ามา

“ไอ้ดา แกรีบออกมาคุยกับฉันให้รู้เรื่อง คิดพิเรนยังงี้ทำไมวะ แกล้งบอกขายร้านให้ฉัน แกล้งให้ฉันท้องปั่นป่วนเพราะไอ้ดอกไม้พวกนี้ของแกมันสนุกนักรึไงวะ เอาหน้าของแกมาให้ฉันด่าเดี๋ยวนี้เลย”

คำพูดแต่ละคำของชายหนุ่มนอกจากจะฟังไม่สบายหูแล้วยังทำให้มือที่กำลังจับขวดน้ำตะไคร้ชะงัก ใบหน้ารูปไข่เหลียวไปทางประตูห้องครัว หัวคิ้วย่นเข้าหากันครู่เดียวประตูตู้เย็นปิดลง หญิงสาวเดินเร็ว ๆ ไปที่ประตูห้องจับลูกบิดหมุนแล้วผลักออกไปด้านนอก เท้าก้าวยาว ๆ ตรงไปยังผู้ที่กำลังส่งเสียงลั่นร้าน

“ไอ้ดา ลงมาสิวะ ลงมาคุยให้รู้เรื่องแกตอแหลกับฉันมากเกินไปแล้วไอ้เพื่อนทุเรศ”

“โวยวายอะไรคะ พี่ดาไม่อยู่ ร้านนี้ไม่ใช่ของพี่ดาแล้วค่ะ ถ้าคุณอยากจะด่าเพื่อนก็บินตามไปที่อเมริกาที่นี่ต้องการความสงบ”

หญิงสาวพยายามปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติแต่หางเสียงก็ห้วนจนคนถูกว่าหันมาจ้องใบหน้าเกลี้ยงเกลา ดวงตาเป็นประกายภายในขอบตายาวรีราวดวงตาเหยี่ยว คิ้วโก่งเล็กน้อย จมูกโด่งเชิดรั้นนิด ๆ ริมฝีปากบางสีชมพูเหมือนกับเติมลิปสติกมันอมชมพูเคลือบรูปกระจับไว้

ดวงตาคู่สวยจ้องหน้าเข้มของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไรแต่ครู่เดียวคิ้วโค้งก็ขมวดเข้าหากัน ใบหน้าบึ้งเปลี่ยนไปทันที ดวงตาเบิกกว้างและรอยยิ้มแหยก็ปรากฏขึ้นมาแทน

“คุณ..เอ่อ..ภากร ใช่มั้ยคะ” หล่อนเอ่ยอึกอักรู้สึกเย็นไปถึงสันหลัง ผู้ชายที่จ้องหล่อนตาไม่กะพริบคือเจ้านายคนใหม่ของหล่อน

“ใช่ ถ้าฉันเดาไม่ผิดเธอเป็นพนักงานใหม่ใช่มั้ย ไอ้ดามันจ้างมาสอนฉันจัดดอกไม้ด้วย”

“ค่ะ ฉันบุษราคัม” หล่อนยกมือไหว้นายคนใหม่อย่างรู้สึกผิด

“อยากจะบ้าตาย มาทำงานวันแรกก็ถูกพนักงานด่า แล้วเมื่อเช้าใครโทร.ไปตามฉันอย่าบอกนะว่าเป็นเธอ” เขาชี้มือมาที่หน้าหล่อน

“ค่ะ ฉันโทร.ตามเอง ก็ใครใช้ให้คุณเข้าร้านสายล่ะ เป็นเจ้านายต้องรีบมาแต่เช้า ไม่ใช่มาเอาเกือบเที่ยงยังงี้ ปล่อยให้พนักงานทำงานตามลำพังใช้ได้ที่ไหน หัดตื่นเช้า ทำตัวเป็นเจ้านายที่ดีให้พนักงานเอาไปเป็นแบบอย่างบ้างสิคะ”

“ฉันไล่เธอออกเดี๋ยวนี้” เจ้านายหนุ่มเสียงดังอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มวาววับจับนิ่งที่ใบหน้าหญิงสาวตรงหน้า เขาโกรธจนทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะหนึ่ง

“ออกก็ได้ เจ้านายไร้เหตุผล มาสาย ทำงานไม่เป็นยังงี้ฉันก็ไม่อยากอยู่ด้วยเหมือนกัน”

หล่อนตอบโต้น้ำเสียงไม่ต่างจากเขา ใบหน้าบึ้งเช่นครั้งแรกที่ภากรเห็น ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมคน ไม่ยอมอ่อนให้กับผู้ที่เหนือกว่าหากคน ๆ นั้นไม่มีเหตุผลกับหล่อน ดวงตาสีสนิมเข้มจับตามร่างบางที่เคลื่อนไหวไม่หยุด หล่อนเดินไปที่โต๊ะมุมห้องคว้าย่ามสีน้ำเงินมีลายปักด้วยด้ายสีขาวเป็นรูปนกแค่มองผ่าน ๆ ก็รู้ว่าเป็นอินทรี พญาแห่งนก หล่อนก้าวเร็ว ๆ ผ่านหน้าเขาไปที่ประตูร้าน

“บุษ เดี๋ยวก่อนสิ งานลูกค้าจะมารับตอนเที่ยงนี่ล่ะทำไง ฉันทำคนเดียวไม่ได้นะ ช่วยกันก่อนสิ” เบญจวรรณเรียกบุษราคัมไว้ก่อนที่จะเปิดประตูก้าวออกจากร้าน

“ก็ให้เจ้านายแกทำไปสิ เก่งไม่ใช่เหรอ” หญิงสาวหันมาตอบแล้วเอื้อมมือผลักประตูกระจก

“อวดดี” เสียงเข้มดังขัดจังหวะการก้าวของบุษราคัม หล่อนหันมาจ้องหน้าคนพูด

“ลูกค้ามาแล้วบุษ เข้ามาก่อน พี่ดาสั่งอะไรไว้จำไม่ได้รึไง เข้ามาช่วยกันก่อน”

เบญจวรรณวิ่งไปดึงแขนเพื่อนร่วมงานกลับเข้ามา ธิติขยับเท้าเดินไปช่วยดึงแขนอีกข้างของบุษราคัมเพราะหล่อนขืนตัวบิดแขนออกจากมือเบญจวรรณ ลูกค้าที่ธิติเห็นผลักประตูก้าวเข้ามา บุษราคัมจึงหยุดยืนนิ่ง ๆ แต่ใบหน้าสวยยังบึ้งเช่นเดิม

“สวัสดีค่ะ สั่งดอกไม้สามช่อ รอรับเดี๋ยวนี้ได้มั้ยคะ”

“ได้ค่ะ เชิญเลือกดอกไม้ก่อนค่ะ เชิญค่ะ”

เบญจวรรณยิ้มรับลูกค้า ผายมือไปทางตู้แช่เย็นดอกไม้ทั้งของไทยและต่างประเทศที่ชอบอากาศเย็น หล่อนหันมาขยิบตาให้ธิติก่อนจะหันไปมองหน้าบึ้ง ๆ ของบุษราคัม เพื่อนหนุ่มรู้ว่าควรจะทำอย่างไรกับบุษราคัม

“ยายบุษ ไปจัดดอกไม้ให้ลูกค้า คิดถึงพี่ดาไว้สิ พี่ดาสั่งไว้ว่ายังไง จะให้ฉันเตือนความทรงจำแกตอนนี้มั้ยฉันจะได้โทร.สายด่วนไปหาพี่ดา”

ธิติจำเป็นต้องอ้างชื่อภูสุดาขู่เพื่อน หากไม่ทำอย่างนี้บุษราคัมไม่ยอมอยู่และร้ายไปกว่านั้นหล่อนลาออกจากร้านดอกไม้ที่หล่อนบอกกับเพื่อนอย่างเขาว่ารักและฝันอยากมีร้านแบบนี้อย่างแน่นอน

“แกไม่ต้องเอาพี่ดามาขู่ฉัน ฉันทำก็ได้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel