บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 ลูกชายพ่อ

คิรากรเปิดประตูลงจากรถ มาถึงบ้านที่ตัวเองซื้อไว้เมื่อปลายปีก่อน เพียงเพราะ...

ชอบที่มันดูอบอุ่นและเรียบง่าย และหาโอกาสมานอนพักบ่อยหน แม้จะไม่ได้อยู่ประจำแต่บ้านหลังนี้คือโซนสบายใจของเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ

เขาเพิ่งกลับจากทัวร์คอนเสิร์ตที่ประเทศจีนเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว ก็ตรงดิ่งกลับมาที่นี่ทันที

วินาทีที่ก้าวขาเขามาในตัวบ้าน กลิ่นอาหารหอมๆ ก็ลอยโชยมา เสียงหัวเราะคิกคักดังมาจากในครัว ทิศเดียวกับกลิ่นอาหาร

"โห น่าทานจังเลยค้าบ" เสียงใสๆ ของเด็กที่เขารู้สึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า ทำเอาความรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมาทั้งสัปดาห์ ผ่อนคลายลงได้ อย่างไม่น่าเชื่อ

"อ้าว คุณคีย์ กลับมาแล้วเหรอคะ" น้ำเสียงดีใจของป้าแพร แม่บ้านที่ดูแลบ้านให้เขามาตั้งแต่วันแรกที่ซื้อบ้านหลังนี้ เอ่ยพร้อมวิ่งเข้ามาช่วยหิ้วข้าวของ

"ครับป้า..." เขาว่าพร้อมชะเง้อสายตาไปยังครัวไทย ที่ยื่นออกไปด้านหลัง

คิรากรชอบรับประทานอาหารจากเตาถ่าน ก็เลยทำครัวไทยเอาไว้แบบมินิมอล โมเดิร์นสไตล์...เขาแทบไม่ได้นึกภาพออกด้วยซ้ำ ว่าครัวที่เขาทำเอาไว้ เผื่อ จะมีคนมาลงมือทำอาหารเข้าจริงๆ

ต่อให้เขาจะมาพักอาศัยอยู่ที่นี่บ้าง แต่ไม่มีสักครั้งที่จะได้รับประทานอาหาร

ก็คนมันตัวคนเดียวนี่นะ จะสั่งให้คนทำอาหารไปเพื่ออะไร

เขาบอกความรู้สึกของตัวเองไม่ถูกเหมือนกัน...แค่ได้กลิ่นอาหาร ภาพในหัวที่เคยคิดเอาไว้กลับคลุ้งขึ้นมาท่ามกลางกลิ่นเหล่านี้ ซะได้

"คุณพ่อ! คุณพ่อกลับมาแล้วเหรอค้าบ!" เสียงของเด็กชายคิระดังขึ้น พร้อมวิ่งเข้ามาหา

ภาพเด็กชายที่หน้าตาละม้ายกับตัวเอง วิ่งแบบไม่คิดชีวิต ทำเอาหัวใจของซุปตาร์ชื่อดังอย่างเขา หัวใจหยุดเต้นไปชั่วขณะ

มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนตอนมีแฟนคลับวิ่งเข้าหา...หรือสื่อวิ่งตาม เพื่อสัมภาษณ์

แต่มันรู้สึกเหมือน กำลังถูกบอกรักอย่างใสบริสุทธิ์ จากเด็กอายุไม่ถึง 3 ขวบด้วยซ้ำ

"ไงครับ บ้านใหม่ สวยไหม" เขาเอ่ยถาม ในขณะที่อ้าแขนรับเด็กแก้มยุ้ย แต่โครงหน้าก็ยังหล่อ

น้ำหนักตัวของคิระ ทำเอาเขาปวดแขนได้เลย แต่ชายหนุ่มก็อยากจะอุ้มขึ้นมาไว้ในวงแขนอยู่ดี

"สวยมากค้าบบบบ คุณพ่อเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ หิวน้ำไหมค้าบ" แววตาใสซื่อ เอ่ยถามด้วยใจบริสุทธิ์จริง แต่ทำเอาคนถูกถามอิ่มไปทั้งอก

ไอ้ความรู้สึกเหมือนมีใครมายกภูเขาออกจากอก มันไม่ได้เปรียบเปรยเกินไปสักหน่อยเลย

"พ่อไม่เหนื่อยคับ" แม้จะรู้สึกกระดากที่ต้องแทนตัวเองว่าพ่อ แต่คิรากรก็รู้สึกมีความสุขอย่างไรไม่รู้ที่ได้พูดมันออกไป

เด็กชาย เรียกเขาว่า "พ่อ" ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน...

'แม่บอกว่า พ่อคือพ่อของผม' เด็กชายคิระบอกกับเขาแบบนั้น

'เอ่อ...คือพิมพ์ปลื้มพี่คีย์มาก เป็นแฟนคลับมาหลายปี เวลาลูกถามว่าพ่ออยู่ไหน ไม่รู้จะบอกว่ายังไง ก็เลยให้เรียกพี่คีย์ว่าพ่อแทนน่ะค่ะ' และมารดาของเด็กน้อย ก็รีบมาอธิบายให้เขาฟังในภายหลัง ว่าทำไมเด็กน้อยถึงเรียกเขาแบบนั้น

"คิระล่ะ เหนื่อยไหม วันนี้ทำอะไรช่วยแม่เขาบ้าง" คิรากรเอ่ยถาม พร้อมสำรวจใบหน้าที่เหมือนตัวเองในวัยเด็กและมีเคล้าในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะดวงตากลมโตเป็นประกายและจมูกโด่งเป็นสัน ที่เหมือนเป็นแท่งเดียวกันแต่ย่อขนาด

ริมฝีปากกระจับสีชมพูอ่อนระเรื่อ เหมือน จนเขาต้องเม้มริมฝีปากเข้าหลายที

เด็กน้อยน่าเอ็นดูเหลือเกิน...

วันพรุ่งนี้เขาจะใช้เด็กคนนี้ไปเป็นหลักฐาน เพื่อสู้กับบิดา เขามั่นใจว่า...ผู้เป็นบิดา ไม่มีทางที่จะไม่เชื่อแน่ เพราะเหมือนเขาราวกับแกะจริงๆ

"ไม่เหนื่อยเลยค้าบ คุณแม่พาทำอาหารค้าบ..."

"เหรอคับ คิระทำเป็นด้วยเหรอคับ อาหารน่ะ" เขาทำเป็นแซว จ้องแววตาเป็นประกายด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก

จะว่าแค่ถูกชะตาก็อาจจะใช่ จะว่ารู้สึก รักเหมือนเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข...ก็ไม่อยากจะเชื่อในความรู้สึกของตัวเอง

"ทำไม่เป็นหรอกค้าบ แต่พอทำได้ แม่บอกว่า...ให้ฝึกทำไว้ ดูไว้ ช่วยภรรยาค้าบ" คิรากรหัวเราะเชิงชอบใจ ในความช่างพูดของเด็กน้อย

ปกติเขาชอบเด็กที่ไหน...

แต่พอมาเจอกับคิระ บอกเลยว่าไม่มีทางใจแข็งเอาไว้ได้ไว้ เด็กคนนี้ช่างเจรจาเหลือเกิน

"ทำไมต้องช่วยภรรยาด้วยล่ะ" เขาอยากฟังเด็กคนนี้พูดต่อ พูดอะไรก็ได้...

"ก็เพราะเขาเป็นภรรยาของเรา ทำอาหารให้เรา เราช่วยก็จะได้ทานข้าวไวขึ้นค้าบ" คราวนี้คิรากรหัวเราะลั่น ชอบใจในความเล่นมุกหน้าตายของบุตรชายกำมะลอ

"ใครสอนให้พูดแบบนี้คับ"

"ไม่มีค้าบ คิระพูดของคิระเอง ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยคุณพ่อด้วยค้าบ" นั่นแหละ ยิ่งทำให้เขาหัวเราะหนัก เพราะคิระน้อย ช่างจำนรรจาเหลือเกิน

"ไม่ผิดเลยค้าบ น้องคิระพูดเก่ง พูดดี ทุกอย่าง พ่อขอชื่นชมคับ"

"ขอบคุณมากๆ เลยนะค้าบ ถ้าแม่ถามคุณพ่อ คุณพ่อต้องบอกแบบนี้เหมือนกันนะค้าบ แม่จะได้ให้รางวัลคิระ..." เท่านั้นแหละ คิรากรก็แทบไม่เหลือคราบ ศิลปินมีชื่อที่ต้องรักษาภาพพจน์ เขาหัวเราะเสียงดัง ทั้งตบขา เชิงชอบอกชอบใจ

ไอ้เด็กคนนี้ มันไม่ได้คล้ายเขาแค่หน้าตาแล้วล่ะ

นิสัยชอบกวน ชอบแหย่ พูดเล่นเป็นชีวิต ก็มีเหมือนเขาด้วย...

"ดูเอาเถอะ เพิ่งเคยได้ยินคุณคีย์แกหัวเราะนะคะ ดังลั่นบ้านเลย" หน่อย แม่ครัวคนเก่าของบ้านศรุตคินินทร์ เปรยออกมาในขณะที่กำลังหั่นเนื้อหมู สำหรับทำแกงกะทิฟักทองใส่หมู โรยใบโหระพาใหญ่ๆ ประดับที่หน้าชามอาหาร

"ก็แหงอยู่แล้ว เจ้าหนูคิระน่าเอ็นดูขนาดนั้น ช่างพูดช่างจา ใครมันจะอดใจไหว" ป้าแพรวาเชิงยอมใจในความเก่งและฉลาด อารมณ์ดีของเด็กชายคิระจริงๆ

ส่วนพิมพ์ใจก็แอบน้ำตาคลอ มองไปยังคิรากรที่กำลังนั่งเล่นอยู่กับคิระ พูดคุยอะไรกันลื่นไหลเป็นเรื่องเป็นราว

หัวอกคนเป็นแม่ เห็นคนเอ็นดูบุตรชาย...มีหรือที่จะไม่ปลื้มใจ

"เลี้ยงลูกยังไง ให้ลูกน่ารักขนาดนี้เหรอพิมพ์ แล้วที่หน้าตาเหมือนคุณคีย์ขนาดนี้ ตอนท้องมองแต่รูปคุณคีย์ใช่ไหม พี่รู้ทันหรอกน่า"

"พี่หน่อยรู้ได้ยังไงคะ?" พิมพ์ใจว่าอย่างตื่นเต้น หน่อยแม่ครัวคนนี้อายุห่างจากเธอน่าจะสิบกว่าปีได้ เธอจึงเรียกว่าพี่ไม่ใช่ป้าเหมือนคุณแม่บ้าน

แต่ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ...เธอไม่รู้เลยว่าคนบ้านนี้ เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเธอและลูกแค่ไหน

"ก็พวกพี่อยู่กับคุณคีย์มานาน รู้ว่าแกนิสัยยังไง แกคงจะจ้างพิมพ์กับลูก เอาไว้มาต่อสู้กับคุณพ่อที่จะบังคับให้แกแต่งงานมากกว่า แกไม่มีทางที่จะไปทำผู้หญิงท้องแล้วเพิ่งทราบหรอก เนอะๆ ป้าแพร"

"เออน่า เรื่องของเจ้านายเถอะ อย่าพูดเยอะนักเลย" ป้าแพรปรามอย่างไม่จริงจังนัก แต่ในหัวใจของผู้หญิงที่ปลาบปลื้มศิลปินคนโปรดมาตั้งนาน รู้สึกใจฟูอย่างบอกไม่ถูก

เขาเป็นอย่างที่เธอเคยเชื่อ...

ใจดี ทำแต่เรื่องดีงาม เหมือนที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้ เขาไม่จำเป็นจะต้องมาเอ็นดูลูกชายเธอขนาดนี้ก็ได้

แต่เขาก็ยังทำ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel