ตอนที่ 10 ซุปตาร์พ่อลูกอ่อน
"โอเค วันนี้พอแค่นี้ก่อน!" เสียงผู้กำกับดังมา ในเวลาที่การถ่ายทำวิดีโอเปิดตัวทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินเดี่ยวชื่อดัง ได้ตามที่วางแผนเอาไว้
คิรากรถอนหายใจออกมา...เพราะการถ่ายทำครั้งนี้ เป็นการถ่ายทำตัวอย่างก่อนที่เขาจะไปเล่นคอนเสิร์ตต่อที่ญี่ปุ่น หลังจากกลับจากจีนมาไม่กี่วัน
"เย็นนี้อยากไปไหน ออกกำลังกายหรือสปา" ผู้จัดการสาวโสดอย่างดุสิตา เดินเข้ามาดูแลอย่างรู้หน้าที่ พร้อมผู้ช่วยของเธออีกคนที่ยื่นน้ำและซับเหงื่อให้กับคนเหงื่อท่วม เพราะเต้นไปหลายเทค
ชีวิตปกติของคิรากรก็มีอยู่แค่นี้ หลังเลิกงานถ้าไม่ไปยิม...ก็คงไปสปา เพื่อให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย เตรียมพร้อมเต็มที่
"กลับบ้าน" เขาตอบสั้นๆ ง่ายๆ หากแต่ดุสิตาแทบไม่อยากเชื่อหู
"ว่าไงนะ?" ผู้จัดการสาวว่าพลางขยับแว่นกรอบใสของตัวเอง เพราะคิรากรไม่เคยเอ่ยคำนี้ออกจากปากเขามาก่อน
"บ้านไหน บ้านพ่อแม่หรือบ้าน...?" แล้วสมองของดุสิตาก็ค่อยๆ ประมวลผลได้
เธอนึกออกแล้ว ว่าคิรากรหมายถึงบ้านไหน ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นหนุ่มโสดตัวเปล่าแล้วนี่นา!
"ขนมและของเล่นที่สั่งไว้ พร้อมหรือยังนะ" ศิลปินชื่อดังว่าพร้อมลุกขึ้น เปลี่ยนเสื้อผ้าต่อหน้าดุสิตาที่ยังตาค้างอยู่นั่นแหละ
"ตะ...เตรียมแล้ว เดี๋ยวก่อนๆ คุยกับพี่ก่อน" ดุสิตาวิ่งไปขวางหน้า เพราะเวลาของคิรากรมีค่าเหลือเกิน เขากำลังจะออกไปจากสตูดิโอแล้ว
"อะไรยังไง นี่อย่าบอกนะว่าจะกลับบ้านไปหาลูก? ไม่ได้เอามาเป็นลูกกำมะลอหรอกเหรอ?" ประโยคท้ายดุสิตากระซิบกระซาบ เพราะกลัวคนอื่นได้ยิน
"ผมไปนะ" เขาไม่ยอมตอบ สุดแล้วแต่ดุสิตาจะเดาไปทางไหน
กลิ่นตัวหอมๆ ของเด็กสองขวบหกเดือนกับคำพูดเจื้อยแจ้ว แว่วเข้ามาในหัวเขาทั้งวัน
จะลูกจริงหรือกำมะลอก็ไม่รู้แหละ เขารู้แต่เพียงว่า...ตัวเอง คิดถึง เจ้าเด็กนั่น เข้าให้แล้วจริงๆ
"คุณพ่อ!" เสียงตะโกนลั่น ทันทีที่เห็นการปรากฏตัวของเขา
ตามมาด้วยเสียงวิ่งเท้าเปล่าเสียงดังตุบตับ เป็นสิ่งที่เขาโหยหาไปแล้ว
มันไม่เหมือนตอนที่แฟนคลับวิ่งใส่...
มันดีกว่า มันบอกไม่ถูกว่าดียังไง แต่เขาชอบเหลือเกิน
"คุณพ่อกลับมาแล้ว คิระ คิดถึงคุณพ่อที่สุดเลยค้าบบ" คิรากรอุ้มเด็กชายขึ้นไว้แนบอก ซุกปลายจมูกโด่งทรงเดียวกัน ลงบนกลุ่มผมนุ่มดกดำ หยักศกสไตล์ที่เขาอยากได้...
"พ่อก็คิดถึงคิระที่สุดเลยคับ" เขาหันไปเห็นพิมพ์ใจที่เดินออกมาจากในครัวพอดี ในมือของเธอมีแก้วน้ำดื่มเย็นๆ เหมือนเช่นทุกวันที่เขากลับมา
ภาพนี้ก็เป็นอีกความรู้สึกแปลกใหม่ มันอาจจะไม่ได้ดีเท่าการที่มีเด็กวิ่งเข้ามาในอ้อมแขน รอคอยการมาของเขาอย่างจดจ่อ
แต่มันก็แปลกไปอีกแบบ ที่มีผู้หญิงคนหนึ่งดูแลบ้านเป็นอย่างดีและต้อนรับการกลับมาด้วยน้ำเย็นๆ ชื่นใจ...
"น้ำดื่มค่ะ เดี๋ยวพิมพ์เก็บกระเป๋าให้นะคะ" แววตาและใบหน้าของเธอเปื้อนไปด้วยความสดใส ไม่ต่างไปจากผู้เป็นบุตร
ทีท่าของเธอไม่ได้อยากจะทำเกินหน้าที่ มีแต่ความจริงใจที่อยากจะช่วยดูแล เท่าที่เขาอ่านออก
"ขอบคุณนะครับ" เขายอมส่งกระเป๋าให้เธอ และรับเอาแก้วน้ำดื่มมา
"วันนี้คิระ เตรียมของเล่นไว้ให้คุณพ่อเพรียบเลยนะค้าบ..." เด็กน้อยว่าอย่างตื่นเต้น เมื่อเห็นว่าคิรากรเอง ก็มีขนมและของเล่นเต็มถุงมาฝาก
"ดีเลยครับ เดี๋ยวเรามาเล่นกันนะ...พ่อซื้อของใหม่ๆ มาเยอะเลย" แล้วสองพ่อลูกในนาม ก็พากันหัวเราะชอบใจให้กับของเล่นชิ้นใหม่ ดังระงมไปทั่วบ้าน
พิมพ์ใจผู้ลอบฟังเสียงนั้นอย่างมีความสุข ชะเง้อไปมองและยิ้มกว้างขึ้น...ในขณะที่ไปเก็บมะม่วงหาวมะนาวโห่ ต้นที่อยู่รั้วหลังบ้าน มาทำแช่อิ่มไว้รับประทาน เป็นการถนอมอาหารที่มารดาเคยสอนให้เธอตั้งแต่สมัยยังเด็ก
แม้ตอนนี้เธออาจจะยังเป็นลูกสาวที่ดีพอไม่ได้
ไม่มีหน้ากลับไปเจอท่านก็ตาม แต่อย่างน้อยคำสอนของท่าน...เธอก็จะน้อมนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์เสมอ
"นี่ขนมค่ะคุณหนู คุณคีย์..." ป้าแพรเดินมาพร้อมกับขนมถ้วยฟูสีสดใส มีน้ำผลไม้คั้นสดสองแก้ว เพราะสองพ่อลูกชอบน้ำแอปเปิ้ลปั่นเหมือนกัน
"ขอบคุณค้าบป้าแพร" เด็กชายคิระรีบยกมือไหว้อย่างที่ไม่ต้องให้ใครบอก
"ขอบคุณครับป้า" ตามด้วยคิรากร ที่รับเอาน้ำแอปเปิ้ลปั่นสดมาดื่มอย่างรู้สึกสดชื่น
วันนี้เขาทำงานต่อเนื่องตั้งแต่เช้าตรู่ กว่าจะเลิกก็ปาไปเกือบ 5 โมงเย็น การได้มีเด็กสักคนในบ้าน มีเสียงทำอาหารในครัวให้ได้ยินหลังกลับมา แถมยังมีของอร่อยๆ มาเสิร์ฟไม่ขาดสาย...
มันเป็นการพักผ่อนที่ดีกว่าการไปยิม
ดีกว่าการไปสปา...เสียอีก
เขาเพิ่งรู้ ชายหนุ่มส่ายหน้าเชิงยิ้มให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะมองไปยังครัวไทยที่เปิดประตูเอาไว้ เห็นแวบๆ ว่าพิมพ์ใจกำลังง่วนทำอะไรบางอย่างอยู่
"ทำอะไรกันอยู่เหรอครับป้า" และในขณะที่ป้าแพรกำลังจะลุกกลับเข้าไป เขาก็รีบเอ่ยถามขึ้น พร้อมมองไปยังในครัว
"อ้อ หนูพิมพ์ใจเขาไปเก็บมะม่วงหาวมะนาวโห่มาทำแช่อิ่มน่ะค่ะ อร่อยเชียวนะ ถ้ามันได้ที่แล้ว คุณคีย์ลองชิมดูหน่อยไหมคะ" คิรากรขมวดคิ้วเข้าเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ
"คุณแม่เล่าให้ฟังว่า เป็นสูตรของคุณยายคับ อร่อย...คิระก็อยากกินคับคุณพ่อ" ยิ่งมีเสียงเล็กๆ จากคนแก้มยุ้ย ตาเป็นประกายมายืนยันด้วยแล้ว มีหรือที่เขาจะไม่อยากชิม
"เหรอครับ งั้นไว้เรารอทานด้วยกันนะคับ..."
"ได้เลยคับพ่อ!"
ป้าแพรยิ้มตามสองพ่อลูกกำมะลอไปด้วย เพราะตั้งแต่มีเด็กคนนี้เข้ามา เจ้าของบ้านหนุ่มโสดก็สดใสขึ้นเยอะมาก จากยิ้มยากก็ยิ้มแทบตลอดเวลา
"ผ้าม่านนี่ก็เปลี่ยนใหม่เหรอคับ ดูแปลกตาไป" เขาถามป้าแพรอีกรอบ เพราะมีอะไรหลายอย่างในบ้านที่ดูแปลกใหม่แต่เป็นสิ่งที่ดี
"ใช่แล้วค่ะ หนูพิมพ์เขาไม่อยู่เฉย ทำนั่นทำนี่...ล่าสุดจะไปทำผักสวนครัวไว้ข้างหลัง เขาบอกว่าอยู่เฉยๆ ไม่เป็น มันเบื่อ แปรงดอกไม้หน้าบ้านก็ไปเตรียมแล้วนะคะ เห็นว่าจะเอากุหลาบมาลง" ป้าแพรว่าไปตามความจริงแต่แฝงไปด้วยความเอ็นดูชัด
ความขยันและไม่หยุดนิ่ง งอมืองอเท้า ของพิมพ์ใจ ใครหรือไม่เอ็นดู
เขาเองก็เห็นด้วยกับป้าแพร ตั้งแต่รู้จักเธอมา...ไม่เคยเห็นเธออยู่นิ่งๆ เลยสักวัน ทั้งๆ ที่เขามีทั้งแม่บ้านและแม่ครัวให้ครบพร้อมขนาดนี้
ความสนใจลึกๆ ในตัวเธอได้เริ่มก่อเกิด แบบที่ชายหนุ่มแทบไม่รู้ตัวเลย
