บทที่ 17 กลัว
หญิงสาววางโทรศัพท์รอยยิ้มกระจายเต็มดวงหน้า หล่อนจะได้ไปเห็นของจริงแล้วสิแต่แปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมเอมิกาถึงโทร.มาชวนหล่อน แค่หล่อนคิดอยากไปทะเลแค่คิดถึงเพื่อนเท่านั้นเพื่อนก็โทร.มาหาทันที หล่อนส่ายหน้าแล้วยิ้ม เสียงเคาะประตูดังขึ้น รอยยิ้มนั้นจางหายไป
“เชิญค่ะ”
ประตูห้องทำงานเปิดออก ฉวีเดินเข้ามา
“มีอะไรเหรอพี่หวี”
“มีแขกมาขอพบค่ะ รอที่ห้องรับแขกค่ะ”
“ลูกค้าเรารึเปล่า”
“ไม่ใช่ค่ะ ผู้ชาย หล่อมาก” ฉวียานคางคำท้ายเรียกรอยยิ้มให้กับไพรำ
“ขนาดนั้นเชียว สงสัยต้องติดต่อให้พี่หวีซะแล้ว”
“อย่าพูดเล่นนะคะคุณไพ พี่หวีเอาจริงนะ”
เสียงหัวเราะดังขึ้น ไพรำขำกับกิริยาเซ็กซี่ของฉวี พนักงานสาวก็พลอยขำตัวเองไปด้วย
ไพรำออกมาพบแขกตามที่ฉวีบอกแต่พอก้าวเข้ามาในห้องเห็นผู้ที่มาขอพบเท่านั้นหล่อนอยากจะเดินหนี ไม่อยากเจอหน้าเขา
“สวัสดีครับ ผมมารบกวนคุณรึเปล่า” ศัมภุเอ่ยทักหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม หล่อนมองแล้วเมินหนี
“มีธุระอะไรไม่ทราบ”
“นั่งก่อนสิครับ ยืนคุยยังงี้เมื่อยขาแย่” เขาแกล้งว่าให้หล่อน
“ถ้าไม่มีธุระด่วนฉันขอตัว” หล่อนไม่ยอมนั่ง
“ยังโกรธอยู่เหรอครับ ผมขอโทษ” เขาเอ่ยคำขอโทษออกมา สายตาที่จับนิ่งอยู่บนใบหน้าหล่อนนั้นมีรอยยิ้มเจือปนอยู่ด้วย
“ไม่จำเป็น” หล่อนยอมนั่งเพราะคำขอโทษของเขาแต่ก็อดเชิดใส่ไม่ได้
“มีอะไรคะ” หล่อนหันมามองเขาพร้อมกับตั้งคำถาม
“ผมเห็นผู้หญิงชุดแดง” เขาเริ่มเรื่องที่ตั้งใจจะบอกหล่อน
“แล้วไงคะ”
“ผมเชื่อคุณว่าคุณไม่ตาฝาด เพราะถ้าคุณตาฝาดเห็นผู้หญิงชุดแดงผมก็ตาฝาดเหมือนคุณ”
“คุณเห็นที่ไหน” ไพรำสนใจมากขึ้น
“ในรถนายเมธ นั่งคู่ตอนหน้า เธอมองผมด้วย”
“ถ้าไม่เห็นด้วยตาก็คงกล่าวหาฉันว่าสร้างเรื่องสินะ” หล่อนมองหน้าเขาแล้วเมินหนีอีก
“ผมขอโทษแล้วไงครับ” เขายิ้มกับกิริยาแง่งอนนิดๆ ของหล่อน
“ก็ได้ แล้วไง มาบอกฉันแค่นี้ใช่มั้ย”
“คุณไพ ผมสงสัยว่าผู้หญิงที่เราเห็น นายเมธมันอาจไม่เห็น”
“หมายความว่าไงคะ” หญิงสาวหันกลับมาจ้องหน้าเขา ไม่เข้าใจกับคำพูดนั้น
“นายเมธล็อครถไว้นะครับ ตอนออกจากร้านอาหารเราเดินมาแค่สองคน อยู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นเข้าไปนั่งในรถได้ยังไง”
“เธออาจมีกุญแจก็ได้”
“ไม่หรอกครับ นายเมธไม่ยอมให้กุญแจรถกับผู้หญิงคนไหน เขาหวงรถมาก”
“คุณหมายความว่า..ผู้หญิงคนนั้น..เอ่อ ..ไม่ใช่คนเหรอ เป็นไปไม่ได้ คุณอย่าหาเรื่องให้ฉันกลัวหน่อยเลย”
“ผมไม่ได้หาเรื่อง แต่ผมอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร เธออาจไม่ใช่ผีแต่นายเมธแอบเธอไว้แต่ที่ผมแปลกใจ ในร้านอาหารทำไมคุณเห็นคนเดียว ผมไม่เห็นใครเลย ไม่มีใครเดินเข้ามาพร้อมนายเมธแต่คุณบอกว่าเธอคนนั้นเดินตามนายเมธเข้ามา”
“ใช่ ฉันเห็นจริงๆ เธอยิ้มให้ฉันด้วยนะที่ฉันต่อว่าคุณเมธไม่ยอมแนะนำเธอ”
“เธอทำให้เราสองคนเห็น..เพื่ออะไรครับ” เขาตั้งคำถามทันที ไพรำมองหน้าเขาสายตาขุ่นมัวเมื่อครู่ไม่หลงเหลือให้เห็น
“ฉันจะรู้มั้ยล่ะ ทำไมคุณไม่ถามเธอเองล่ะ” หล่อนมองรอบตัวรู้สึกเย็นที่แขน
“ถ้าเธอให้ถามผมก็จะถาม ถามเผื่อคุณด้วยดีมั้ย” เขายิ้มขำๆ กับกิริยาหวาดกลัวของหล่อน
“ไม่ต้อง ฉันไม่อยากรู้ ถ้าเจอเธออีกฝากบอกด้วยว่าไม่ต้องให้ฉันเห็น ฉันกลัว”
“ผมจะบอกให้ละกันแต่ถ้าเธออยู่ใกล้ๆ คุณตอนนี้ล่ะ”
“เฮ้ย! บ้าเหรอ” หล่อนลุกขึ้นยืนราวกับติดสปริง เขาหัวเราะออกมาอย่างเก็บไม่อยู่
“หัวเราะเยาะฉันเหรอ” หล่อนหันมาจ้องหน้าเขาสายตาขุ่น
“เปล่า ผมว่าคุณกลัวเกินไปแล้ว ไม่มีอะไรหรอกครับ เธอไม่มาให้เราเห็นบ่อยหรอกแต่ถ้าเธอต้องการให้เราช่วย เราต้องเจอเธออีกแน่”
“ฉันไม่อยากเจอ ถ้าเป็นคนเหมือนเราก็ไปอย่างแต่นี่เป็นผีฉันไม่อยากเสวนาด้วย”
“เธอให้เราเห็นแบบไม่น่าเกลียด อย่ากลัวเธอเลย”
“คุณไม่กลัวแต่ฉันกลัวนี่”
“ผู้หญิงเก่งอย่างคุณท่าทางเชื่อมั่นในตัวเองสูงยังงี้ไม่น่ากลัวผีเลยนะ” เขายิ้มยั่วหล่อนเป็นครั้งแรก ผู้หญิงคนนี้มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เขารู้สึกดีๆ เวลาอยู่ใกล้
“คนมันกลัวกันได้ คุณล่ะไม่เคยกลัวอะไรเลยรึไง หมดธุระแล้วใช่มั้ยเชิญกลับไปได้แล้วฉันจะทำงานต่อ”
“ไล่แล้วเหรอครับ งั้นผมกลับก็ได้ เอาไว้ถ้าเจอผู้หญิงชุดแดงอีกผมจะบอกให้มาหาคุณทุกคืน”
“จะบ้าเหรอ” หล่อนหันมาจ้องหน้าเขาเขม็ง เขายิ้มแล้วลุกขึ้นยืน
“กลับก่อนนะครับ ไว้จะโทร.มาเล่าให้ฟังถ้าเจอเธอคนนั้น”
