บทที่ 15 ผี
“คุณไพมีอะไรว่ามาเลยครับ”
“คุณพ่อจะขอดูอำพันค่ะ คุณได้มาจากต่างประเทศใช่มั้ยคะ ถ้าคุณจะให้คุณพ่อพรุ่งนี้เอาไปให้ท่านที่ร้านได้เลยแล้วก็ถ้ามีชิ้นอื่นอีกก็เอาไปด้วย คุณพ่อให้ราคาเท่าที่คุณเรียกค่ะ”
“ครับ งั้นพรุ่งนี้ผมจะเอาไปให้คุณอาทิตย์ดู คุณไพอยู่มั้ยครับ ผมมีของจะให้คุณด้วย”
“อะไรคะ”
“มุกครับจากทะเลลึก ของแท้ ยังไม่ได้เจียรไน”
“จริงเหรอคะงั้นคุณว่าราคามาได้เลย” หญิงสาวตาโต หล่อนสนใจไข่มุกอันดามันมานานแล้วและชอบมุกธรรมชาติมากกว่ามุกเลี้ยง
“ผมให้เป็นของขวัญไม่ขาย”
“กว่าจะได้มายากไม่ใช่เหรอคะ จะมาให้ฉันฟรีๆ ได้ยังไง อีกอย่างฉันไม่รับค่ะถ้าคุณจะให้ฟรี ฉันว่าคุณเอาไปให้แฟนคุณดีกว่า ให้ฉันดีไซด์ให้ก็ได้นะ ถ้ามีหลายเม็ดฉันจะออกแบบให้ทั้งสร้อยคอ สร้อยข้อมือแล้วก็แหวนด้วย”
“ผมไม่มีแฟน” เขายิ้มดวงตาเป็นประกายวาววามขณะสบตาหล่อน
“ฉันคงเชื่อคุณหรอกนะคุณธีรเมธ”
“เรียกเมธก็ได้ครับ เป็นกันเองดี ผมพูดจริงๆนะครับตอนนี้ผมยังไม่มีใคร”
“แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้ล่ะคะคุณจัดเธอไว้ในตำแหน่งอะไร เธอเสียใจมากนะคะที่คุณไม่แนะนำเธอกับฉัน” ไพรำเสียงกระด้างขึ้นมาทันที
“ผมมาคนเดียว คุณตาฝาดแล้วละ” เขาหงุดหงิดแต่ส่วนลึกเขากลัว
“ค่ะฉันคงตาฝาด ฉันขอตัวนะคะ พรุ่งนี้เอาของไปให้คุณพ่อฉันที่ร้านสิบโมงครึ่งนะคะ”
หล่อนลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าถือเตรียมจะเดินออกจากโต๊ะ ศัมภุเดินเข้ามาเสียก่อน
“จะกลับแล้วเหรอครับ”
“ค่ะ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้ค่ะ” หล่อนมองหน้าเขาแล้วเบี่ยงตัวเดินเฉียดไหล่เขาออกไป
“ทำไมคุยเร็วจังวะเมธ” ศัมภุเบนสายตาจากร่างบางที่เดินห่างออกไปมาที่ธีรเมธ
“คุณอาทิตย์ขอซื้ออำพัน เธอให้เอาไปให้คุณพ่อเธอพรุ่งนี้ที่ร้านตอนสิบโมงครึ่ง”
“ง่ายดีนะ พูดแค่นี้โทร.มาบอกฉันก็ได้ ฉันส่งข่าวให้แกรู้ทุกอย่างก็จบไม่เห็นต้องมาแทนพ่อเลย แถมมาก็เห็นผู้หญิงชุดแดงอะไรก็ไม่รู้ คุณไพรำมีปัญหาด้านสมองรึเปล่าวะเมธ”
“พี่ภุ ไปว่าเธอ เธออาจเห็นจริงๆ ก็ได้” ธีรเมธเหลียวไปด้านหลังอย่างหวาดๆ
“แกอย่าเพ้อเจ้อ ฉันไม่เห็นมีใครถ้ามีจริงอย่างที่แกพูด คุณไพก็เห็นผีแล้วละ”
“พี่ภุ พูดอะไร” ธีรเมธลุกขึ้นยืนทันที
“ทำไม กลัวรึไงวะ ผีไม่มีหรอกน่ะ กลับกันรึยัง พี่มีประชุมบ่ายนี้”
“ครับ ขอบคุณครับพี่ ถ้าคุณอาทิตย์ซื้อของผม พรุ่งนี้ผมเลี้ยงข้าวเย็น พี่ยกเลิกนัดกับหวานใจได้เลยนะ”
“มีก็ดีน่ะสิ ตอนนี้เหงาๆ ว่ะ”
“ก็ไม่รับรักใครซะทีนี่มีเข้ามาหลายคนไม่ใช่เหรอ หรือว่ายังไม่เจอคนที่ใช่”
“งั้นมั้ง” เขาตอบเพื่อนรุ่นน้องแล้วเดินนำออกไปหลังจากที่ธีรเมธจ่ายค่าอาหารแล้ว
“คุณไพน่ารักมั้ยพี่” ธีรเมธเอ่ยขึ้น
“ก็น่ารัก แกจะจีบรึไง” ศัมภุหันมามองแล้วยิ้มบาง ไพรำน่ารักจริงๆ แต่หล่อนเป็นผู้หญิงประหลาดมากแค่รู้จักไม่ถึงชั่วโมงหล่อนก็ทำให้เขาเครียดกับการมองเห็นในสิ่งที่เขามองไม่เห็นถ้ารู้จักต่อไปจะเห็นอะไรอีกจะโวยวายอะไรอีก
“ครับ ผมจะจีบเธอ พี่ช่วยเชียร์หน่อยนะ”
“ไม่ยุ่งด้วยโว้ย” รุ่นพี่ตอบเสียงดังแล้วเปิดประตูรถก้าวเข้าไปด้านใน
“ช่วยหน่อยเถอะน่า เดี๋ยวแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้” ธีรเมธเกาะประตูไม่ยอมให้ศัมภุปิด
“ไอ้บ้า อย่าพูดยังงี้อีก ผู้หญิงไม่ใช่สินค้า กลับได้แล้ว”
“ครับผม บายครับ” หนุ่มผู้อ่อนวัยยิ้มยั่วแล้วปิดประตูรถให้รุ่นพี่ก่อนจะเดินไปที่รถของตัวเอง
ศัมภุมองตามธีรเมธรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ธีรเมธชอบไพรำคิดจะจริงจังแค่ไหนกัน เขารู้ว่าธีรเมธควงหญิงสาวไม่ซ้ำหน้าหลังจากไอริณหายไป เขาเคยถามหาไอริณ ธีรเมธตอบสั้นๆ ว่า
“เลิกกันแล้ว ต่างคนต่างไป”
ธีรเมธคบกับไอริณนานกว่าคนอื่นๆ และดูเหมือนว่าจะไปกันด้วยดีแต่ทำไปทำมาก็เลิกกัน สำหรับไพรำถ้าธีรเมธจีบหล่อนสำเร็จคงคบกันยาวเพราะหล่อนมีพร้อมทุกอย่าง ธีรเมธต้องการความมั่นคงของชีวิต ถ้าเขาได้เป็นลูกเขยอาทิตย์มีหรือจะไม่ชอบ
“เอาจริงเหรอแก ถ้าคุณไพโอ.เค. ด้วยฉันก็จะยินดีกับแกว่ะ” ชายหนุ่มติดเครื่องยนต์แล้วถอยรถออกจากซองและเลี้ยวออก ขณะเดียวกันธีรเมธก็แซงมาตีคู่ เขาลดกระจกลง
“ไปก่อนนะครับคุณพี่ ยังไงอย่าลืมเชียร์น้องนะครับ”
“เออ” ศัมภุหันมาตอบ ธีรเมธยิ้มรื่นแล้วเคลื่อนรถแซงขึ้นหน้าขณะรถแซงล้อผ่านล้อ กระจกด้านข้างธีรเมธกำลังเลื่อนขึ้นปิด ศัมภุถึงกับจ้องนิ่งกับภาพที่เห็น หญิงสาวนั่งตอนหน้าคู่กับธีรเมธหันมามองเขา ไม่มีรอยยิ้มจากหล่อนแต่ที่เขาต้องตกใจและอึ้งไปกับสิ่งที่เห็นนั้นคือ เสื้อของผู้หญิงคนนั้นเป็นสีแดง
“เป็นไปได้ยังไง เมื่อกี้ไม่มีใครนั่งนี่หว่า” เขายกมือขยี้ตาทั้งสองข้างแล้วลืมขึ้นอีกครั้งรถธีรเมธก็แล่นออกไปแล้ว
ผู้จัดการหนุ่มสูดลมเข้าปอดแล้วพ่นออกมา เขาเคลื่อนรถตามรถธีรเมธเขาอยากเห็นผู้หญิงคนนั้นชัดๆ แต่ก็ไม่ทันท้ายรถของเพื่อนรุ่นน้องเลี้ยวขึ้นถนนสายเมนแล่นฉิวไปไกลแล้ว
