บทที่ 14 ผู้หญิงชุดแดง
“คุณเห็นจริงๆ เหรอครับ” ธีรเมธไม่กล้าแม้จะเหลียวกลับไปมองเบื้องหลัง
“จริงสิคะ ฉันถึงเชิญให้เธอนั่งกับเรา แต่ไม่คิดว่าทั้งคุณกับคุณศัมภุจะเล่นตลกไม่เลิก นอกจากจะไม่ให้เกียรติเธอคุณยังทำเป็นมองไม่เห็นเธออีก ตาบอดรึไงคุณผู้จัดการธนาคารใหญ่”
หญิงสาวเก็บอารมณ์โมโหไม่อยู่ หล่อนพูดใส่หน้าศัมภุสบตาเขาไม่หลบ ศัมภุจ้องหล่อนนิ่งเช่นกัน ท่าทางของหล่อนโกรธเขาจริงๆ ไม่ใช่อาการของคนที่มีอารมณ์ขบขันพร้อมจะหัวเราะเมื่ออำสำเร็จ
“ผมไม่รู้ว่าคุณเล่นอะไรนะ แต่ผมไม่เห็นใคร ไม่เห็นผู้หญิงชุดแดงผมยาวอะไรนั่นเลย ข้างหลังนายเมธไม่มีใคร” เขาเน้นเสียงชี้มือไปด้านหลังธีรเมธ ไม่มีใครยืนอยู่สักคน
“ฉันไม่ได้เล่นนะคุณ แฟนคุณธีรเมธจริงๆ ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วจะเป็นใคร เธอเดินตามคุณธีรเมธเข้ามา เป็นเพื่อนงั้นสิ” ไพรำโมโหมากขึ้นที่ศัมภุขึ้นเสียงกับหล่อน
“หยุดได้แล้วคุณไพรำ ไม่มีใคร คุณหันไปมองดีๆ ไม่มีผู้หญิงชุดแดง ไม่มีใครเลย”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งกับฉันยังงี้นะคุณศัมภุ ฉันไม่ใช่ลูกน้องของคุณ” เสียงดังขึ้นกว่าเดิมขณะเดียวกันหล่อนหันกลับไปมองผู้หญิงชุดแดงที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ด้านหลังธีรเมธแต่คราวนี้ไม่มีหญิงสาว ไม่มีใครจริงๆ
“อ้าว. หายไปไหนแล้วล่ะ” ไพรำเบิกตากว้างกับความว่างเปล่าด้านหลังของธีรเมธ หญิงสาวคนนั้นหายไปทางไหนเร็วอย่างนี้ หล่อนเหลียวมองซ้ายขวาไม่มีแม้เงาของคนที่สวมชุดสีแดง เป็นไปได้อย่างไร
“เห็นมั้ย ผมบอกแล้วว่าไม่มีใคร คุณตาฝาดไปแล้วละ” ศัมภุยิ้มฝืดหยิบเมนูอาหารขึ้นมาเปิด
“ผมสั่งอาหารให้ละกัน ท่าทางคุณยังงงๆ อยู่ นายเมธกินอะไรสั่งเลยนะ”
ธีรเมธนั่งนิ่ง อาการเย็นสันหลังยังคงอยู่แต่เพียงครู่เดียวความเย็นราวกับถูกน้ำแข็งก้อนโตวางทับก็คลายออกและเป็นปกติภายในไม่กี่วินาที
“เมธ เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าซีดจังวะ” ศัมภุเห็นความเปลี่ยนแปลงของหนุ่มรุ่นน้อง ใบหน้าของธีรเมธซีดเผือด ไม่มีรอยยิ้มเจืออยู่เช่นเมื่อครู่
“เปล่าครับ” เขาปฏิเสธแล้วหันมาสนใจเมนูอาหาร
ไพรำจ้องหน้าธีรเมธ ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาจึงไม่แนะนำผู้หญิงที่มากับเขาให้หล่อนและศัมภุรู้จักแต่ที่ไม่เข้าใจมากไปกว่านั้นคือศัมภุมองไม่เห็นผู้หญิงชุดแดง ผู้ชายสองคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ หล่อนจะเชื่อธีรเมธได้มากแค่ไหนกับการทำธุรกิจร่วมกับเขา
“คุณไพรำ ไม่สั่งอาหารล่ะครับ” ศัมภุมองหล่อนอยู่นาน หล่อนจ้องมองธีรเมธด้วยสายตาไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้แปลกสำหรับเขา
“คุณว่าฉันตาฝาดเหรอคะคุณศัมภุ”
“เปล่าครับ ทานข้าวกันก่อนคุณจะได้คุยธุระกับนายเมธ”
เขาปฏิเสธทั้งที่ใจคิดเช่นที่หล่อนพูด ไพรำมองหน้าเขานิ่งๆ แล้วหยิบเมนูอาหาร หล่อนสั่งอาหารง่ายๆ แค่จานเดียวเท่านั้น ศัมภุแอบผ่อนลมหายใจ เขารู้ว่าหล่อนกำลังโกรธแต่จะให้เขาทำอย่างไรในเมื่อเขามองไม่เห็นผู้หญิงที่หล่อนเห็น
อาหารทยอยขึ้นโต๊ะตามที่ลูกค้าสั่ง ศัมภุมองหน้าไพรำแล้วตักกับข้าวใส่จานให้หล่อน ธีรเมธมองตามแล้วยิ้ม
“คุณไพรำรู้อะไรมั้ยครับ พี่ภุของผมไม่เคยเอาใจผู้หญิงคนไหนเลยนะครับ คุณเป็นคนแรก”
“ฉันควรดีใจมั้ยคะ” หล่อนหันมามองเขาแล้วหันกลับไปมองศัมภุ
“ขอบคุณนะคะแต่ไม่ต้องตักให้ฉันหรอกฉันตักเองได้”
“คุณไพรำ โมโหอะไรล่ะครับ”
“เรียกไพคำเดียวก็ได้ค่ะ คุณธีรเมธด้วย”
“ครับคุณไพ” ธีรเมธรีบรับคำ ใบหน้าซีดขาวเมื่อครู่หายไป รอยยิ้มระรื่นกลับมาเช่นเดิม
การรับประทานอาหารมื้อเที่ยงของไพรำวันนี้ไม่มีความรู้สึกว่าอาหารอร่อย หล่อนคิดถึงผู้หญิงชุดแดง ดวงตาที่มองมายังหล่อนนั้นเป็นมิตรแต่แข็งทื่อเหมือนคนไม่มีชีวิต ประกายในดวงตาไม่มีให้เห็นและหายตัวไปรวดเร็ว ที่สำคัญศัมภุมองไม่เห็นผู้หญิงคนนั้น
“ฉันอิ่มแล้วค่ะ เราคุยธุระกันได้รึยัง” คำพูดของหญิงสาวทำให้สองหนุ่มมองหน้ากันแล้วหันมามองหล่อน
“คุณไพมีธุระเหรอครับ” ธีรเมธถามเกรงใจ
“ค่ะ ออกแบบงานค้างอยู่”
“งั้นก็คุยมาเลยครับ” เขาวางช้อนลงทั้งที่ยังทานไม่อิ่ม ศัมภุทำตาม เขายกแก้วน้ำขึ้นดื่มแล้วลุกจากเก้าอี้
“ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ แกคุยกับคุณไพได้เลย”
ชายหนุ่มก้มลงมองหน้าเนียนของหญิงสาวแล้วเดินออกไป ไพรำมองตามรู้สึกไม่ชอบผู้จัดการหนุ่มคนนี้ขึ้นมาทันที
