บทที่ 13 พบหน้าครั้งแรก
“อีกห้านาทีเที่ยง เราจะรู้ได้ยังไงว่าคนไหนเป็นคุณผู้จัดการธนาคาร ใส่แว่นตากรอบสีทองรึเปล่าก็ไม่รู้ คุณพ่อบอกแค่สูงโปร่ง ท่าทางดีแค่นั้นเอง จะเจอกันมั้ยเนี่ย” หล่อนทิ้งสะโพกลงบนเก้าอี้ไม้ตัวยาววางกระเป๋าถือสีดำลงบนโต๊ะ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น หล่อนเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ออกมา
“สวัสดีค่ะ”
“คุณไพรำนะครับ”
“ค่ะ ฉันมาถึงแล้ว คุณอยู่ตรงไหน”
“กำลังเดินเข้ามา คุณนั่งอยู่ติดกับต้นกกใช่มั้ยครับ ข้างบ่อปลา”
“ค่ะ” หล่อนเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ผิวสีแทนในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าสะอาด กางเกง
สแล็คสีดำ เขาลดโทรศัพท์ลงเมื่อเห็นหล่อน รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเข้มจางๆ
“สวัสดีครับ ผมศัมภุ” เขายื่นมือมาตรงหน้าหล่อนเมื่อเดินถึงโต๊ะ
“สวัสดีค่ะ ฉันไพรำ มาแทนคุณพ่อ เชิญค่ะ”
หล่อนไม่ยื่นมือออกไปสัมผัสกับมือเรียวของเขาแต่ยกมือไหว้แทน เขายิ้มเจื่อนหดมือกลับช้าๆ นึกทึ่งกับกิริยาของหล่อน การแต่งตัวทันสมัยไม่คิดว่าจะยึดมารยาทไทยแท้ไว้ได้อย่างน่าชม ถ้าเป็นคนอื่นคงยื่นมือมาสัมผัสกับเขาไปแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักคุณไพรำนะครับ คุณอาทิตย์ติดธุระเหรอครับ” ผู้จัดการหนุ่มนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามกับหญิงสาวแล้วเอ่ยเสียงนุ่มน่าฟัง
“ค่ะ ท่านจะยกเลิกนัดก็เกรงใจคุณผู้จัดการ ก็เลยให้ดิฉันมาแทน”
“อย่าเรียกผมยังงั้นเลยครับ เรียกชื่อเล่นผมดีกว่า ภุ ครับ” เขาแย้งการเรียกแทนตัวเขากับหล่อน รู้สึกเปร่งๆ กับการเรียกเช่นนั้น หล่อนยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“คุณภุมีอะไรจะคุยก็เชิญเลยค่ะ”
“รอธีรเมธก่อนครับ เพราะธุระของคุณพ่อคุณอยู่ที่นายเมธ เพื่อนรุ่นน้องผมเอง นายเมธมีของเก่ามาเสนอคุณพ่อคุณท่านถึงนัดวันนี้”
“อ้าวเหรอ คุณพ่อไม่เห็นบอก แล้วเมื่อไหร่คุณธีรเมธจะมาคะนี่เที่ยงแล้วนะ”
“พี่ภุ” เสียงชายหนุ่มแทรกขึ้น ไพรำกับศัมภุหันไปมองพร้อมกัน ธีรเมธเดินยิ้มเข้ามาหา
“มาทันเวลานัดเป๊ะเลยครับ”
เขายิ้มรื่นเมื่อก้าวถึงโต๊ะและพอหันไปเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาของหญิงสาวรอยยิ้มนั้นเปลี่ยนทันที
ผู้หญิงที่นั่งอยู่เบื้องหน้าเขาเป็นหญิงสาวที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้พบเจอ ใบหน้ามน คิ้วโค้ง ดวงตากลมสุกใส จมูกโด่งเชิดเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มรับกันอย่างเหมาะเจาะ เขายิ้มให้หล่อนจ้องมองจนลืมเพื่อนรุ่นพี่เสียสนิท
“สวัสดีครับ ผมธีรเมธครับ” ชายหนุ่มผู้ทำให้หญิงสาวรอแนะนำตัวเองก่อนที่ศัมภุจะทำหน้าที่นั้น ไพรำยิ้มแล้วพยักหน้ารับ
“สวัสดีค่ะ ดิฉันไพรำค่ะ”
“นั่งได้แล้วเมธ รีบแนะนำตัวก่อนเลยนะ ฉันเลยอดทำหน้าที่เลย” ศัมภุประชดเล็กน้อย
“ก็มันใจร้อนอยากรู้จักสุภาพสตรีแสนสวยนี่ครับพี่ภุ” ธีรเมธหันมายิ้มกับหนุ่มรุ่นพี่แล้วหันกลับมายิ้มให้ไพรำ
“ขอบคุณที่ชมค่ะแต่ฉันไม่ใช่คนสวยหรอกค่ะสู้แฟนคุณไม่ได้ ไม่คิดจะแนะนำบ้างเหรอคะ”
ไพรำยิ้มเยื้อนสายตาไม่ได้จับที่ใบหน้าธีรเมธแต่เลยไปทางด้านหลังของเขา ชายหนุ่มเลิกคิ้วสูงรอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้า เขาคิดว่าไพรำล้อเล่นจึงว่า
“คุณไพรำล้อผมแบบนี้ไม่ดีเลยนะครับ ผมยังไม่มีแฟนไม่เชื่อถามพี่ภุก็ได้นะครับ”
“ไม่กลัวเธอน้อยใจเหรอคะเธอยืนอยู่ข้างหลังคุณนะคะ คุณคะเชิญนั่งค่ะ คุณธีรเมธล้อคุณเล่นอย่าโกรธเลยนะคะ” ไพรำยิ้มกับคนที่อยู่ด้านหลังธีรเมธ หญิงสาวผมยาวสลวย สวมชุดกระโปรงผ้าเนื้อบางสีแดง ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มแต่ไพรำเข้าใจว่าหล่อนโกรธธีรเมธที่ไม่แนะนำหล่อน
“คุณไพรำครับ” ศัมภุหันมาจ้องหน้าหญิงสาวที่เขาเพิ่งรู้จัก เขาไม่รู้ว่าหล่อนกำลังเล่นอะไรแต่หล่อนทำให้เขาหงุดหงิด
“คะ คุณจะแนะนำเธอแทนคุณธีรเมธเหรอคะ ให้เธอนั่งก่อนดีกว่าค่ะ”
“ผมว่าคุณสั่งอาหารดีมั้ยครับ อย่าล้อนายเมธยังงั้นเลยครับ นายเมธยังไม่มีแฟนหรอกครับ”
เขาเน้นเสียงแล้วถอนใจ ไพรำหันมาจ้องหน้าเขาคิ้วโค้งย่นเข้าหากัน ดวงตาที่มองมาไม่พอใจ เขาจะยั่วโมโหหล่อนหรืออย่างไร
“คุณศัมภุ คุณธีรเมธ” หล่อนเรียกชื่อสองหนุ่มหางเสียงบอกถึงความไม่พอใจอย่างมาก
“คุณคิดจะเล่นอะไรไม่ทราบ ยังไงก็ให้เกียรติผู้หญิงบ้าง เธอมากับคุณนะคุณธีรเมธแล้วก็ยืนอยู่ข้างหลังคุณ ชุดสีแดง ผมยาว เธอสวยมากด้วย”
“คุณไพรำ” ธีรเมธหุบยิ้มเกือบจะทันทีที่ได้ยินไพรำบรรยายถึงรูปร่างและเสื้อผ้าของผู้หญิงอยู่ด้านหลังของเขา ศัมภุหันมาจ้องหน้าไพรำอีกครั้ง
