ตอนที่6
“เดี๋ยว...เธอ” เคซากุรีบดึงแขนของเธอเอาไว้แล้วจู่ๆร่างของเธอก็อ่อนระทวยใช่เอเป็นลมไปดีที่เขารับเอเอาไว้ได้หลังจากนั้นเขาจึงพาเธอขึ้นรถกลับไป
ชายหนุ่มนั่งมองหญิงสาวตั้งแต่อยู่ในสวนสาธารณะแล้วเขาเห็นเธอร้องให้อยู่นานสองนานและที่ตามเธอมาเพราะว่าเห็นว่ามีคนเดินตามเธอจึงกลัวว่าจะเกิดเรื่องแล้วมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
“......” เคซากุพาหญิงสาวมาที่ห้องพักของเขาตอนนี้เขานั่งมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มอย่างไม่ละสายตาเขายอมรับว่ารู้สึกชอบเธอตั้งแต่แรกเห็นไม่รู้ว่าที่เธอนั่งร้องให้ที่สวนเธอจะมีปัญหาอะไรแต่เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาเห็นเธอร้องให้แล้วเธอดูสวยมากๆยิ่งได้จ้องพวงแก้มชมพูระเรื่อใกล้ๆแบบนี้เขายิ่งละสายตาไม่ลงเลยจริงๆดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วเธอน่าจะยังไม่ถึงยี่สิบแน่นอน
“....” เคซากุแอบอมยิ้มเบาๆเขาเคยคิดจะยุ่งกับเด็กๆเพราะดูจะงี่เง่าแต่กับเธอเขากลับมีความปรารถนาในตัวเธอเอามากๆเสียอย่างนั้น
“อืม..ค..คุณ.” ซินจางสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาเห็นว่าเธออยู่ในห้องนี้กับชายหนุ่มสองคนจึงรีบถอยกรูไปติดหัวเตียงด้วยท่าทีหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัวเธอเป็นลมฉันแค่ช่วยเธอเอาไว้เท่านั้น”
“ฉันอยากกลับบ้าน”
“เดี๋ยว” ซินจางเริ่มรู้สึกว่าเธอไม่ปลอดภัยทั้งยังไม่ค่อยชอบสายตาที่เขามองเธอเท่าไรเธอจึงรีบลุกออกจากเตียงหมายจะออกไปทันทีแต่ก็ถูกชายหนุ่มดึงเธอเอาไว้ก่อน
วันต่อมา
โรงพยาบาลXX
“ตกลงตอนนี้แม่ได้ผ่าตัดแล้วใช่ไหม” ลลิลกับขวัญข้าวเก็บร้านเสร็จโทรหาซินจางก็รู้ว่าเพื่อนเธออยู่ที่โรงพยาบาลจึงตามมาอย่างรวดเร็วทั้งดีใจที่ตอนนี้ซินจางนั้นได้เซ็นยินยอมให้แม่ตนนั้นผ่าตัดแล้ว
“อืม..” ซินจางพยักหน้ารับตอนนี้ใบหน้าของเธอดูซีดเซียวและอิดโรยเป็นพิเศษเป็นเพราะเมื่อคืนคิดมากเสียจนอดหลับอดนอน
“ดีใจที่สุดเลยแล้วนี่จัดการค่าใช้จ่ายเรียบร้อยแล้วใช่มไหม” ลลิลถอนหายใจอย่างโล่งอก
“อืม..จ่ายค่ารักษาทุกอย่างเรียบร้อย”
“นับว่าพ่อแกยังเห็นใจแม่แกอยู่บ้างนะเนี่ยแบบนี้ก็หายเครียดแล้วสิ” ขวัญข้าวยิ้มออกเพราะรู้ว่าเพื่อนเธอจะได้หมดเรื่องหนักใจไปอีกเรื่องคราวนี้ก็เหลือแค่รอดูผลการผ่าตัดเท่านั้น
“แกจะกลับเลยไหมซิน”
“ฉันขออยู่ที่นี่สักพักแล้วกันนะ” ซินจางหันไปมองหน้าลลิลและส่ายหัวเบาๆเธออยากอยู่ที่นี่สักพัก
“โอเคงั้นพวกเราไปก่อนนะ” ขวัญข้าวเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจึงขอตัวกลับกันก่อน
ช่วงบ่ายของวัน
“ไปไหนของเค้ากันนะ” ริกิร้อนใจอย่างมากเมื่อแทนไทขับรถออกไปอย่างไม่บอกไม่กล่าวช่วงนี้เขายิ่งได้ข่าวว่าเคซากุไม่อยู่ที่ญี่ปุ่นอยู่ด้วย
ทางด้านแทนไท
บรู๊นนนๆๆๆๆ
แทนไทขับรถสปอร์ตคันหรูออกมาเหยียบเล่นให้สบายอารมณ์เพราะยิ่งอยู่ที่นี่ก็ยิ่งมีแต่ความน่าเบื่อใช้ชีวิตวนอยู่ที่เดิมๆเขาเลยหนีออกมาแบบไม่บอกไม่กล่าวใครทั้งมือถือที่ดังอยู่ก็ไม่อยากจะรับด้วย
“โอ้ย..ทำไมมาพังตอนนี้กันล่ะนี่เสียตังซ่อมไปหลายบาทแล้วนะ” ขวัญข้าวถึงกับยืนเท้าเอวอารมณ์เสียอยู่ข้างรถจักรยานยนต์คันเก่าของเธอข้างถนนเธอพึ่งจะไปส่งผักสดที่ตลาดแต่ขากลับรถที่พึ่งซ่อมเสร็จของเธอก็ดันมาดับกลางทางเสียอย่างนั้น
บรู๊นๆ.. ขวัญข้าวขมวดคิ้วมองรถหรูเสียงน่ารำคาญที่ขับมาเทียบกับเธอ
“นี่เธอ...เป็นอะไร” แทนไทเห็นหญิงสาวเขาก็จำได้ทันทีว่าเป็นเธอเห็นว่ายืนข้างถนนคนเดียวจึงจอดเทียบและลดกระจกถามว่าเธอมีปัญหาอะไร
“นาย” ขวัญข้าวเห็นว่าใครอยู่ในรถเธอก็จำหน้าเขาได้ทันทีนักศึกษาแพทย์ที่นั่งหลังห้องวันนั้นตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เธอก็พึ่งจะเห็นหน้าเขาอีกครั้งนี่แหละไม่คิดว่าจะล่ำซำมีรถหรูขับแบบนี้
“ให้ช่วยไหม”
“ไม่ต้องหรอก” ขวัญข้าวส่ายหัวทันทีเธอแค่โทรหาลลิลให้มารับแค่นั้นก็เรียบร้อยแล้ว
ปั้งๆๆๆ
“อ๊ายยย...” ขวัญข้าวนั่งฟุบกับพื้นเอามือสองข้างอุดหูร้องโวยวายอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น
“ขึ้นรถมาเร็ว” แทนไทรีบตะโกนให้หญิงสาวขึ้นรถมาอย่างเร่งด่วนเมื่อเห็นรถเก๋งสีดำวิ่งมาด้วยความเร็วและกระหน่ำยิงมาที่รถของเขาดีที่รถคันนี้เป็นรถกันกระสุน
“ฉันจะตายไหม..ฉันจะตายไหมนาย” ขวัญข้าวขึ้นรถมาได้แทนไทก็เหยียบคันเร่งหนีคนร้ายทันทีตอนนี้หญิงสาวเอาแต่ตัวสั่นเทาทั้งยังกลัวว่าตัวเองจะตายในเหตุการณ์นี้อีกด้วย
“ไม่ตายหรอกรถคันนี้กันกระสุน” แทนไทส่ายหัวเบาๆเขาเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้จนชินแล้วรู้สึกตลกไม่น้อยเมื่อเห็นท่าทีตื่นกลัวของหญิงสาวจากตาเธอที่กลมโตอยู่แล้วกลับโตขึ้นเป็นอีกเท่าด้วยความตกใจ
“หา...ขับไปตรงนั้นมีสถานีตำรวจนายขับเข้าไปเลย” เมื่อได้ยินที่ชายหนุ่มขวัญข้าวก็ค่อยโล่งใจเปราะหนึ่งว่าเธออยู่ในนี้จะปลอดภัยในขณะที่เก๋งสีดำคันข้างหลังยังรัวกระสุนปืนไม่หยุดเธอนึกขึ้นได้ว่าไม่ไกลจากนี้จะมีสถานีตำรวจจึงให้ชายหนุ่มขับเข้าไปเพราะคิดว่าคนพวกนั้นคงไม่ตามเข้าไปในสถานีตำรวจเป็นแน่
ชั่วโมงต่อมา
หลังจากที่แจ้งความเรียบร้อยแล้วแทนไทก็พาหญิงสาวมาส่งที่บ้านทั้งขอโทษเธอที่พามาเสี่ยงอันตรายด้วยกันดีที่คนพวกนั้นมันก็ไม่ตามมาเมื่อเธอให้แทนไทเข้าไปในสถานีตำรวจตอนนี้ขวัญข้าวเอาแต่นั่งเสียขวัญอยู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านของตัวเอง
“ผมต้องขอโทษคุณน้านะครับที่พาหลานคุณน้ามาเสี่ยงอันตราย” แทนไทเจอดารากานต์ครั้งแรกเขาก็ถูกชะตากับเธอทันทีเพราะว่าดารากานต์นั้นมีส่วนคล้ายกับแม่ของเขาอยู่มากจากคนที่พูดน้อยกลับพูดกับดารากานต์อย่างสนิทสนมเสียอย่างนั้น
“มันเป็นเหตุที่ไม่ได้ตั้งใจนี่รอดกันมาก็บุญแล้ว” ดารากานจับบ่าของชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
“นายน้อยครับ” ริกิวิ่งเข้าบ้านของดารากานต์มาอย่างหน้าตาตื่นเมื่อได้รู้เรื่องว่านายน้อยของเขาเกิดเรื่องและตอนนี้ก็อยู่ที่นี่
“.....” ทั้งดารากานต์และขวัญข้าวที่นั่งตกใจอยู่ก็ต้องตกใจไปตามๆกันเมื่อผู้ชายที่เข้ามาใหม่เรียกแทนไทว่านายน้อยคำๆนี้มันทำให้พวกเธอมองแทนไทอย่างสงสัย
