บท
ตั้งค่า

4/4

ก้อยใจหันกลับไปมองใบหน้านวลที่เต็มไปด้วยน้ำตานั่น

“งั้นเธอก็ขึ้นปกให้ฉันสิ ง่ายๆ แค่นี้เองนะพาฝัน”

“ตะ...แต่ว่า”

“ถ้าเธอกลัวว่าใครจะเห็น ฉันก็อนุญาตให้ปิดบังใบหน้าไว้ เอาแค่เห็นเสี้ยวหน้าด้านข้างก็พอ บอกตามตรงนะว่า รูปร่างของเธอน่ะมันสวยงาม จนฉันไม่รู้ว่าจะหาใครมาแทนเธอได้จริงๆ แค่เธอขึ้นปกให้ฉัน เธอก็ไม่ต้องหาเงิน 5 ล้านมาให้ แถมยังจะได้เงินกลับไปอีก”

พาฝันมองสบตาก้อยใจแล้วกะพริบตาปริบๆ สมองน้อยๆ กำลังคิดทบทวนสิ่งที่ก้อยใจเสนอ และเริ่มจะคล้อยตามบ.ก.สาว แต่ติดที่อิมราน ถ้าเขารู้เขาก็คงไม่ยอมแน่ๆ

“ถ้าจะไม่ให้คุณอิมรานเขียนภาพให้ จะได้ไหมคะ”

ก้อยใจลอบอมยิ้มกับตัวเอง เมื่อมั่นใจว่าจะได้พาฝันขึ้นปก

“ได้สิ เดี๋ยวฉันจะหาจิตรกรเอกคนใหม่ให้เธอเลย ถ้าเธอยอมตกลง”

“ขอเวลาคิดสักนิดได้ไหมคะ” พาฝันพยายามต่อรอง

“ไม่ได้หรอก เวลามันไม่รอใคร เธอต้องตอบฉันเดี๋ยวนี้”

พาฝันถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ มือบางยกขึ้นป้ายน้ำตาออกจากใบหน้านวลลวกๆ

“ตกลงค่ะ แต่พี่ก้อยต้องไม่บอกเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด”

“ได้สิ”

“แล้วกรุณาอย่าใช้ชื่อพาฝันนะคะ”

ก้อยใจยิ้มออกมาอย่างดีใจ

“ได้ ไม่มีปัญหา เป็นอันว่าฉันจะรีบหาคนวาดภาพเธอคนใหม่ แล้วฉันจะโทรไปบอกอีกที”

“ในวันที่ฟ้ามีเพียงแค่สีเทา ความเหงามันกินในใจ...” เสียงโทรศัพท์มือถือของพาฝันที่ดังขึ้นในกระเป๋าสะพาย ทำให้หญิงสาวต้องรีบขอตัวจากก้อยใจ

“ฝันขอตัวก่อนนะคะ”

“จ้ะ”

หญิงสาวเดินเร็วๆ จนออกมาพ้นจากห้องทำงานของก้อยใจ มือบางหยิบโทรศัพท์ออกมาและกดรับทันที

“พาฝันค่ะ”

“ฉันเอง เธออยู่ที่ไหน”

“เอ่อ...ฝันกำลังจะไปโรงพยาบาลค่ะ”

“ฉันถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน” เสียงเย็นที่ได้ยินนั้น ทำให้พาฝันขนลุกซู่

“ยะ...อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าค่ะ” พาฝันตอบออกไปแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอ

“ฉันกำลังจะไปโรงพยาบาล ทำไมเธอตื่นขึ้นมาไม่ยอมเรียกฉันล่ะ”

คำว่ากำลังจะไปโรงพยาบาล ทำให้หญิงสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่ง เธอต้องเร่งฝีเท้าตัวเองขึ้น เพื่อจะต้องไปถึงโรงพยาบาลก่อนที่ชายหนุ่มจะไปถึง

“กะ...ก็ฝันเห็นคุณกำลังหลับสบายอยู่ เลยไม่อยากปลุก” ใบหน้างามระเรื่อขึ้น

“อืม...ถ้างั้นเจอกันที่โรงพยาบาลนะเบบี๋”

“ค่ะ”

“อ๊ะ อ๊ะ อย่าเพิ่งวางหูนะ เธอยังไม่ได้กู๊ดมอร์นิ่งฉันเลย”

“กู๊ดมอร์นิ่งค่ะ”

“ไม่เอา ต้องแบบนี้”

แล้วหญิงสาวก็ได้ยินเสียงคล้ายเสียงจูบส่งผ่านมา พร้อมกับคำว่า “กู๊ดมอร์นิ่งจ้ะ”

พาฝันชะงักเท้า ก่อนจะแอบเข้าไปหลบในมุมมืดที่ไม่มีผู้คนเดินผ่าน

“เร็วๆ สิเบบี๋ ฉันรออยู่นะ” เสียงทุ้มๆ เร่งขึ้นมา

พาฝันค่อยๆ แนบโทรศัพท์กับริมฝีปากอิ่ม และจูบลงไปให้มีเสียงเล็กน้อย ก่อนจะบอก

“กู๊ดมอร์นิ่งค่ะ” ใบหน้างดงามแดงก่ำด้วยความเขินอาย

“จ้ะที่รัก เธอต้องทำแบบนี้กับฉันทุกเช้า ตอนที่ตื่นขึ้นมาเจอกัน ไม่ใช่ส่งผ่านโทรศัพท์แบบนี้นะ ต้องปากต่อปากกันจริงๆ ห้ามลืมเด็ดขาด” อิมรานออกคำสั่ง ก่อนจะตัดสายทิ้งไป

พาฝันส่ายหน้าเบาๆ ให้กับความเอาแต่ใจของอิมราน และก็ยิ้มออกมาเมื่อคิดว่า “น่ารัก”

แม้ว่าจะเป็นช่วงสายแล้วก็ตาม แต่กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรที่เลื่องชื่อลือลั่นในเรื่องรถติด ก็ยังคงสโลแกนเดิมอยู่วันยังค่ำ พาฝันยกมือบางขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดบนหน้าผากนูนออกไปอย่างลวกๆ

“พี่คะ เร่งอีกนิดได้ไหมคะ” พาฝันรู้ตัวว่าถามออกไปอย่างสิ้นคิด ด้วยความกระวนกระวายใจ แม้จะเห็นอยู่แล้วว่ารถติดมากแค่ไหน

“คุณ ถ้าผมยกรถข้ามไฟแดงไปให้คุณได้ ผมทำไปนานแล้ว ผมเองก็เบื่อรถติดไม่น้อยไปกว่าคุณหรอกนะ” คนขับแท็กซี่หันมาบอกหญิงสาวเสียงดังอย่างรำคาญ

พาฝันเลยจำต้องหุบปากเงียบลง เธอทำได้แค่รอเวลาให้ไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียวเท่านั้น ตัวเลขดิจิตอลที่อยู่ด้านบนสัญญาณไฟจราจรลดน้อยลงเรื่อย และพาฝันก็นับถอยหลังพร้อมๆ กับมันด้วยเช่นกัน

“ใจเย็นๆ นะครับน้อง พอเราพ้นจากไฟแดงนี้ไป ก็ถึงโรงพยาบาลแล้ว” คนขับแท็กซี่บอก

“ค่ะ” พาฝันรับคำเสียงอ่อย แต่ในใจกำลังร้อนรน

ไม่นานจากไฟแดงก็เปลี่ยนเป็นไฟเขียว และคนขับรถแท็กซี่ก็กระชากรถออกไปโดยเร็ว ให้สมกับความใจร้อนของผู้โดยสาร ไม่กี่นาทีต่อมารถแท็กซี่ก็ตีวงเข้ามาจอดหน้าโรงพยาบาล

พาฝันมองตัวเลขที่มิเตอร์ ก่อนจะยัดเงินที่เกินจากตัวเลขไปนิดหน่อยลงไปในมือหนาของคนขับรถแท็กซี่

“ไม่ต้องทอน” หล่อนบอก และเปิดประตูรถวิ่งเข้าโรงพยาบาลไปทันที

พาฝันพาร่างบางวิ่งผ่านผู้คนมากมายตรงมายังลิฟต์ แต่แล้วก็ต้องชะงักกึก เมื่อเห็นร่างสูงที่ยืนโดนเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าลิฟต์ หญิงสาวกัดริมฝีปากอิ่มแน่น พลางคิดว่าถ้าจะเปลี่ยนจากขึ้นลิฟต์เป็นขึ้นบันไดออกกำลังกายบ้างจะดีกว่าไหม แต่หญิงสาวก็ต้องส่ายหน้ากับตัวเอง เมื่อคิดว่าคงไม่ไหวแน่ เพราะมารดาอยู่บนชั้นที่ 7 ของโรงพยาบาล ต่อให้หญิงสาววิ่งจนหืดขึ้นคอ พอไปถึงหล่อนก็ต้องโดนอิมรานจับได้อย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel