บท
ตั้งค่า

บังเอิญ

“อื้อ” แพรวาลืมตาขึ้นอย่างชักช้า ก่อนบิดขี้เกียจ จากนั้นเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นดูเวลา

“ห้าโมงเย็นแล้วเหรอ เร็วจังเลย” เสียงหวานพึมพำเพียงลำพัง

เท้าเล็กแตะลงสู่พื้น มุ่งตรงไปยังห้องน้ำ เธอใช้เวลาในการชำระล้างร่างกายสามสิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อย ก่อนเปิดกระเป๋าเพื่อเลือกชุดสำหรับคืนนี้

หญิงสาวแต่งกายด้วยเดรสสีชมพูเหนือหัวเข่า เกล้าผมมวยแบบหลวม ๆ แล้วเสริมความน่ารักด้วยการติดกิ๊บ แต่งหน้าโทนหวานอ่อน ๆ ปากสีชมพูแลดูธรรมชาติอย่างยิ่ง

ทันทีที่ร่างอ้อนแอ้นปรากฏในงานเลี้ยง ทุกสายตาต่างหันมอง ไม่เว้นแม้แต่อานนท์ก็มองแพรวาแบบไม่กะพริบตา ทว่าหญิงสาวไม่ได้สนใจใครทั้งสิ้น กระทั่งภูชิตเป็นฝ่ายเข้าหาหญิงสาวเป็นคนแรก

“สวัสดีครับ มาคนเดียวเหรอครับ”

ภูชิตปรายตามองแพรวาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ยอมรับเลยว่าเธอสวยมากเหลือเกิน สวยกว่านางแบบคู่ขาของอานนท์หลายเท่า

“ค่ะ” เอ่ยตอบเสียงเรียบ

“ผมชื่อภูชิตนะครับ เรียกภูเฉย ๆ ก็ได้ครับ แต่ท่าทางแล้วคุณน่าจะเด็กกว่าผมหลายปี เรียกพี่ภูจะเหมาะดีกว่านะครับ” เผยยิ้มหวานแก่คนตัวเล็ก หากใครได้เห็นเป็นอันต้องหลงเสน่ห์เขาแน่นอน ทว่าแพรวากลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น

“แพรวาค่ะ เรียกแพรก็ได้”

“งั้นพี่เรียกว่าน้องแพรนะครับ” ยังคงจ้องมองใบหน้างดงามแบบไม่ห่าง

แพรวาไม่ได้ตอบภูชิต เพียงแค่ส่งยิ้มอ่อนเท่านั้น

“น้องแพรหิวไหม เดี๋ยวพี่ไปเอาอะไรมาให้” ไม่พูดเปล่า หมายจะเดินไปโซนอาหาร แต่ต้องชะงักกับเสียงหวาน

“พี่ภูคะ ไม่เป็นไร ตอนนี้แพรยังไม่ค่อยหิว” เสียงหวานเอ่ยทักท้วง

ระหว่างทั้งสองกำลังพูดคุยทำความรู้จักทั่วไป จู่ ๆ อานนท์ก็เข้ามาขัดจังหวะ สายตาคมลอบมองร่างบอบบางข้างกายเพื่อนรัก แววตาที่มองคนตัวเล็กปานจะกลืนกิน

เขารู้สึกหวงเธออย่างบอกไม่ถูก ไม่อยากให้ใครหน้าไหนมองทั้งนั้น แม้กระทั่งภูชิตก็ไม่อยากให้เข้าใกล้ ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรด้วยซ้ำ ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้กับเธอ

แพรวามองบุคคลมาใหม่ คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นอย่างฉงน คาดไม่ถึงว่าคนที่เธอตกหลุมรักยังสนามบินจะมายืนเบื้องหน้าราวกับความฝัน

“คุณนั่นเอง” เสียงหวานอุทานเพียงแผ่วเบาแทบไม่ได้ยิน

“ทำอะไรอยู่เหรอ” อานนท์ถามภูชิต แต่สายตาเหลือบมองคนตัวเล็ก

“คุยกับน้องแพร” ภูชิตแนะนำตัวแพรวาให้อานนท์รู้จัก

“สวัสดีค่ะ แพรวานะคะ” หญิงสาวแนะนำตัวเองด้วยท่าทางร่าเริง แต่ต่างกับอีกคนยืนจ้องมองแบบไม่สะทกสะท้านใด ๆ ทำตัวเยือกเย็นปานน้ำแข็ง

ทว่าความเป็นจริงในใจของอานนท์รู้สึกดีแค่ไหนได้ยินเสียงหวานของคนตรงหน้า แต่ต้องข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้ภูชิตรับรู้ว่าสนใจเธอ

“นนท์ขา… มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เชอรินตามหานนท์ตั้งนาน” เสียงแหลมของเชอรินแทรกขึ้น นางแบบสาวเข้ามาเกาะแขนกำยำของอานนท์พูดด้วยท่าทางออดอ้อน หน้าสวยซบตรงไหล่แกร่งพลางชำเลืองมองแพรวา

“ใครเหรอคะ” เชอรินจ้องหน้าแพรวา มองตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยแววตาไม่เป็นมิตร

“น้องแพร” ภูชิตเป็นฝ่ายแนะนำแพรวาให้แก่เชอรินรู้จัก

ดวงตาคู่หวานเหลือบมองท่าทางของเชอริน แสดงความเป็นเจ้าของอานนท์ เกาะแขนกำยำแทบจะเอาตัวเบียดเข้าไปในร่าง

“แพรขอตัวก่อนนะคะ รู้สึกไม่ค่อยสบาย” เธอกล่าวขึ้น เพราะรู้สึกทนเห็นภาพบาดตาไม่ไหว

“เดี๋ยวพี่ไปส่งนะครับน้องแพร” ภูชิตอาสาทำหน้าที่เป็นเจ้าถิ่นที่ดี

“อย่าดีกว่าค่ะ แพรเดินกลับคนเดียวได้” แพรวาปฏิเสธ ความหวังดีของภูชิต ไม่พูดเปล่ารีบจากไปอย่างสงบ โดยไม่สนใจเหลียวหลังมอง

เธอแค่ไม่อยากเห็นภาพผู้หญิงคนนั้นกำลังกอดกับเขา แม้จะทราบว่าเขากับผู้หญิงคนนั้นรักกัน ทว่าเรื่องของความรู้สึกมันบังคับกันไม่ได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงรู้สึกกับเขาทั้งที่ เพิ่งเจอกันวันนี้เขาช่างมีอิทธิพลกับเธอเหลือเกิน

ระหว่างกำลังกลับห้อง จู่ ๆ น้ำตาคลอเบ้าค่อย ๆ ไหลออกมาข้างแก้มนวล เจ็บปวดเหลือเกินกับการรักคนมีเจ้าของ

ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ปล่อยน้ำตาคอยเป็นเพื่อนปลอบประโลมยามโดดเดี่ยว ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางวันนี้กอปรเรื่องราวที่เพิ่งเจอ ทำให้แพรวาหลับอย่างง่ายดาย

พ้นร่างอรชรของแพรวาหลายนาที อานนท์ยังคงมองอย่างไม่ละสายตา อยากทำความรู้จักเหลือเกิน รู้สึกถูกชะตาอย่างยิ่ง ไม่เคยมีใครทำให้เขาหวั่นไหวขนาดนั้นมาก่อน เธอคนเดียวเท่านั้น

ไม่ว่าอย่างไร เขาต้องหาทางใกล้ชิดเธอให้ได้ อะไรที่เขาอยากได้ก็ต้องได้ ใครหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์

“ไอ้นนท์ มึงจะเข้ามาขัดจังหวะกูกับน้องแพรทำไมวะ” ภูชิตเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ เขาหมายปองหญิงสาวอยากทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น แต่เพื่อนตัวดีดันเข้ามาแทรก

อานนท์ไม่ได้ตอบอะไรภูชิต ตอนนี้ยังคงเหม่อลอยคะนึงหาถึงใบหน้าหวานของแพรวา

“นนท์ขา… เชอรินว่าเราไปทางโน้นดีกว่า” ไม่พูดเปล่า มือที่เกาะแขนชายหนุ่มก็เขย่าเบา ๆ

อานนท์ได้ยินเสียงแหลมของนางแบบสาวข้างกายจึงตื่นจากภวังค์ เขาเพิ่งรับรู้ว่าข้างกายยังคงมีหญิงสาวสวยอีกคนและเพื่อนรักที่จ้องเขม็งปานจะกินเลือดกินเนื้อ

“มึงว่าอะไร ไอ้ภู”

“มึงไม่ได้ฟังที่กูพูดเลยเหรอ ช่างเถอะ” เอ่ยตัดบท

ภูชิตถอนหายใจเสียงดัง เขาเริ่มไม่สบอารมณ์จึงจากไป ทิ้งอานนท์ไว้กับเชอรินอยู่กันตามลำพัง

เดินทางมาถึงช่วงสุดท้ายของงานเลี้ยงริมทะเลบนเกาะฟาร์มไข่มุกค่ำคืนนี้ แสงตะวันกระทบผืนน้ำทะเลเวิ้งว้างเกิดประกายเป็นระยับสวยงาม เกิดจากธรรมชาติโดยแท้จริง

งานเลี้ยงย่อมต้องมีวันเลิกรา ในที่สุดช่วงเวลาสุดท้ายในคืนนี้ แขกต่างเริ่มทยอยกลับเรื่อย ๆ อานนท์เองก็ไม่ต่างกันเดินควงคู่เชอรินไปห้องของเขา ห้องที่มีไว้สำหรับทำเรื่องอย่างว่าเท่านั้น

“เรามาสนุกกันเถอะนนท์” เชอรินคลานขึ้นไปเตียงก่อนคร่อมร่างสูงใหญ่ จากนั้นช่วยปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดพลางมองคนใต้ร่างด้วยสายตายั่วยวน

“เชอรินรักนนท์นะคะ” เสียงแหลมกระซิบข้างใบหูอานนท์ นิ้วเรียวกรีดกรายทั่วแก้มสาก ก่อนหญิงสาวจะร้องเสียงหลงเมื่อชานหนุ่มพลิกร่างเพรียวให้อยู่ข้างล่างแทน จากนั้นกระชากเดรสออกจากเรือนงามกระทั่งไร้อาภรณ์ห่อหุ้ม

อานนท์เริ่มบรรเลงบทรักกับคนใต้ร่างด้วยจังหวะร้อนแรงและป่าเถื่อน ไม่มีความปรานีสักนิด

“อ๊ะ อ๊า นนท์ขา เสียวจัง” เชอรินเอื้อมแขนไปคล้องคอแกร่งพลางบิดกายด้วยความเสียวซ่าน

“อ๊า ซี๊ด สุดยอด” อานนท์มองคนใต้ร่างที่มีประสบการณ์โชกโชนซึ่งรับแรงกระแทกของเขาได้เป็นอย่างดี

“แรงอีกคะนนท์ เชอรินใกล้จะเสร็จแล้ว” ขาเรียวยกขึ้นเกี่ยวเอวสอบ ได้ยินดังนั้นอานนท์ส่งความเป็นชายเข้าในตัวเธอแบบไม่ยั้ง

“กรี๊ด!!” เชอรินกรีดร้องดังสนั่นทั่วห้องเมื่อถึงจุดสุดยอด ก่อนอีกฝ่ายจะถอดถอนแก่นกายออกจากร่องเนื้อพร้อมโยนถุงยางที่เต็มด้วยน้ำขาวขุ่นลงบนพื้น

หลังเสร็จสิ้นอารมณ์พิศวาส เขาโยนเงินปึกหนึ่งลงบนที่นอนแล้วเดินออกมาอย่างไม่สนใจไยดีเชอรินที่นอนหอบอยู่บนเตียง

เขาเบื่อผู้หญิงเหล่านี้หวังจะจับเขาเท่านั้น แต่ทุกครั้งที่เขามีความสัมพันธ์กับพวกเธอต้องป้องกันเสมอ เพราะพวกเธอล้วนไม่มีใครปลอดภัยสักคน พวกเธอมักจะโหยหาความสุขเรื่องบนเตียงมาบำบัดความใคร่ของตัวเองเสมอ ใครจ่ายหนักเธอก็ยอมนอนกับคนนั้น ไม่สนใจความรักหรอก เขาเองเช่นกันไม่คิดจะรักใครทั้งสิ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel