ทำความรู้จักกัน
วันรุ่งขึ้นแพรวายังคงนอนบนเตียง ด้วยจิตใจที่ห่อเหี่ยว เมื่อนึกถึงภาพเหตุการณ์ค่ำคืนที่ผ่านมา ทำให้ไม่อยากลุกขึ้นจากเตียง รู้สึกรอบกายเบื่อหน่ายไปหมด
โครก คราก เสียงท้องแพรวาดังขึ้นไม่มีปี่มีขลุ่ย หญิงสาวจำใจต้องลุกขึ้นจากเตียงไปอาบน้ำเพื่อรับประทานอาหารเช้า
วันนี้เธอแต่งตัวด้วยเดรสสีฟ้ายาวสายเดี่ยว เผยให้เห็นแขนเรียวงามและปล่อยผมยาวถึงกลางหลัง เสริมความน่ารักด้วยที่คาดผมลายดอกไม้ รับกับใบหน้าหวาน ใครเห็นมีอันต้องหลงเสน่ห์
แพรวารับประทานอาหารเช้าเพียงขนมปังปิ้งกับนมหนึ่งแก้วเท่านั้น เธอไม่ชอบดื่มจำพวกกาแฟ จึงเลือกดื่มนมแทน
หลังรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เลยออกไปเดินเล่นแถวริมชายหาด วันนี้อากาศค่อนข้างดีมากไม่ค่อยร้อนเหมือนทุกวัน ระหว่างกำลังยืนชมความงามข้างหน้า ทันใดนั้นสายตาเหลือบมองเห็นร่างล่ำสันของใครคนหนึ่ง
จังหวะเดียวกันอานนท์บังเอิญเห็นแพรวาอยู่คนเดียวกำลังมองมาที่เขา ไม่รอช้าเท้าหนาเยื้องย่างไปหาร่างบอบบาง แต่จู่ ๆ เธอทำท่าเหมือนจะก้าวหนีด้วยความเร็วกว่า จึงคว้าแขนเล็กไว้ได้
“จะไปไหนครับ คุยกันก่อน” ปรายตามองคนตัวเล็ก เมื่อคืนว่าสวยแล้ว แต่วันนี้สวยยิ่งกว่า
“ปล่อยค่ะ ฉันจะกลับห้อง” เสียงหวานบอกอย่างไม่พอใจที่ถูกมือใหญ่รั้งไว้ พยายามสะบัดให้หลุด
“มาเที่ยวทั้งทีควรออกมาเดินเล่นนะครับ อยู่แต่ในห้องคงอุดอู้แย่”
“ปล่อยมือฉันก่อนค่ะ เดี๋ยวแฟนคุณมาเห็น” เธอไม่อยากยุ่งกับคนมีแฟนแล้ว กลัวจะมีปัญหาตามมา
“ผมไม่มีแฟนครับ โสดสนิท” เขาตอบโต้หญิงสาวโดยที่มือยังคงไม่ยอมปล่อยแขนเรียว
แพรวาพยายามสะบัดหลายครั้ง แต่ไม่หลุดเพราะสู้แรงมหาศาลไม่ได้
“โสดแต่ไม่สดนะสิ” เสียงหวานเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา ไม่ต้องการให้เขาได้ยิน
“เอาอย่างนี้ไหม ผมอาสาพาคุณไปเที่ยว” อานนท์ยังคงรบเร้าหญิงสาวไม่เลิก หวังให้เธอใจอ่อน
แพรวาครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนตอบตกลง เธอเองก็มาเที่ยวคนเดียว จึงรู้สึกเบื่อเช่นกัน ดีเหมือนกันมีคนนำเที่ยว
“ตกลง แต่ช่วยปล่อยแขนฉันก่อน”
อานนท์ยอมปล่อยแขนขาวเนียนแต่โดยดี ทั้งที่อยากจับนาน ๆ แต่ต้องอดใจไว้ก่อน ไม่อยากให้แม่กวางน้อยเตลิด
สถานที่แรกอานนท์พาแพรวาไปคือฟาร์มไข่มุก ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท เรือกำลังเคลื่อนตัวออกไปสถานที่มุ่งหมาย โดยคนตัวเล็กยืนชมความสวยงามบนท้องทะเล เธอค่อนข้างชอบบรรยากาศแบบนี้ ก่อนสูดอากาศบริสุทธิ์เต็มปอดอย่างสดชื่น
“ระวังด้วยนะ...” ด้วยความเร็วของเรือ ชายหนุ่มจึงเตือนสติหญิงสาว ทว่าไม่ทันจบประโยคเสียงหวานเผลอร้องด้วยความตกใจ
“ว้าย!!” เธอหลับตาลงสนิท ทว่าความไวของอานนท์ สามารถคว้าร่างของหญิงสาวเข้าสู่อ้อมกอดได้ทัน ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ตกน้ำทะเลแน่นอน
ขณะนี้แพรวานั่งบนตักแกร่งของอานนท์ นัยน์ตาดำขลับลอบมองใบหน้าหวาน ก่อนจกจูบริมฝีปากอมชมพูอย่างแผ่วเบา สร้างความตะลึงแก่แพรวาเป็นอย่างมาก มือเล็กรีบผลักอกออกห่างและรีบลุกไปนั่งฝั่งตรงข้ามกับเขา
หญิงสาวพยายามข่มอารมณ์ไว้ บัดนี้หัวใจของเธอเต้นระรัวแทบจะระเบิด ใบหน้าหวานร้อนผ่าว เกิดมาไม่เคยถูกชายใดจูบมาก่อน ตอนนี้หน้าของเธอแดงราวลูกตำลึงสุก
อานนท์มองคนตัวเล็กพลางอมยิ้มเล็กน้อย แลดูน่ารักอย่างยิ่ง เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันทำไมถึงกระทำเช่นนั้นกับเธอ แค่รู้สึกว่าอยู่ใกล้เธอเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง
ริมฝีปากของหญิงสาวช่างนุ่มละมุนตรึงใจ จนอยากสัมผัสอีกครั้ง แต่ต้องหักห้ามใจไว้ก่อนไม่อย่างนั้น อาจทำให้เธอกลัว
เมื่อถึงที่หมายเครื่องยนต์ดับลง แพรวารีบลงจากเรือทันที โดยไม่รอให้เขาเอ่ยชักชวน
“วันนี้เข้าไปดูในฟาร์มไข่มุกกัน” อานนท์เดินนำหน้าหญิงมุ่งตรงไปยังท้ายเกาะซึ่งมีหมู่บ้านเล็ก ๆ คนที่พักที่นี่ส่วนใหญ่เป็นลูกเมียของคนงานในเกาะ
“สวัสดีค่ะนายหัว พานายหญิงมาดูงานเหรอคะ” หญิงวัยกลางคนทักทายชายหนุ่มที่เดินเคียงคู่กับหญิงสาวใบหน้าหวาน
“ไม่ใช่ค่ะ แพรไม่ใช่นายหญิง” รีบปฏิเสธทันที กลัวผู้คนจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้
“ทำอะไรอยู่เหรอคะ” แพรวารีบเปลี่ยนเรื่องอย่างไว
“คัดเลือกเปลือกหอยทำโมบายจ๊ะแม่หนู อยากทำไหม”
“อยากทำค่ะ” แพรวาตอบหญิงวัยกลางคน พลางหันไปขออนุญาตจากอานนท์ เขาไม่ตอบหญิงสาวเพียงพยักหน้าเท่านั้น
อานนท์มองดูแพรวาทำอย่างมีความสุข รอยยิ้มของเธอมีผลต่อหัวใจเขาจริง ๆ เขามีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เธอ จนอยากได้เธอมาครอบครอง ท่าทางของเธอเหมือนจะเข้ากับคนที่นี่ได้เป็นอย่างดี
หลังจากเสร็จจากการทำโมบาย อานนท์พาหญิงสาวไปรับประทานอาหาร ภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงาม ลมพัดเย็นสบาย มองเห็นวิวท้องทะเลอย่างชัดเจน
ฝ่ามือใหญ่เลื่อนเก้าอี้ให้แก่หญิงสาวนั่ง ก่อนย่างกรายนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ จากนั้นสั่งอาหารแก่พนักงานที่ยืนคอย
อาหารที่แพรวารับประทานเป็นสูตรโดยเฉพาะของที่นี่รสชาติค่อนข้างแปลกใหม่และอร่อย อานนท์บริการแพรวาอย่างดี คอยตักอาหารให้ ดูแลราวกับคนรัก
“ทานเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมพาคุณไปชมรอบเกาะ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพลางเงยหน้ามองคนตัวเล็ก
“ค่ะ” พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ
ตลอดช่วงเวลาบ่ายของเขาและเธอ ทั้งคู่เดินเที่ยวชมความสวยงามบนเกาะ ทั้งถ่ายรูปกันเหมือนคู่สามีภรรยา จนนักท่องเที่ยว หลายคนผ่านมาต่างพากันอิจฉาพวกเขาทั้งคู่
กระทั่งตกเย็น อานนท์พาแพรวากลับไปขึ้นเรือสปีดโบ๊ทมุ่งหน้าสู่สถานที่พัก
เชอรินเดินเล่นริมชายหาดอย่างเบื่อหน่าย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำอานนท์ไปไหน คอยมองหาตลอดทั้งวัน กระทั่งพลันสายตาของเธอเหลือบมองเห็นอานนท์กำลังรับร่างแพรวาลงจากเรือสปีดโบ๊ท ในใจก็เกิดความรู้สึกอิจฉาริษยา
เธอไม่ชอบขี้หน้าแพรวาตั้งแต่แรกเจอ นางแบบสาวจงใจเดินไปขัดจังหวะ เพื่อไม่ให้เขาสองคนได้อยู่ด้วยกัน
“นนท์ขา เชอรินตามหาคุณทั้งวันเลย” เสียงแหลมตะโกนดังแต่ไกล ก่อนวิ่งเข้าใกล้ชายหนุ่ม
เชอรินเกาะแขนกำยำอย่างกระหนุงกระหนิงใช้อกอวบอิ่มเบียดอานนท์
แพรวาเห็นดังนั้นจึงไม่อยากอยู่ขัดความสุขของพวกเขาสองคน จึงเอ่ยคำลาแล้วเดินออกจาก โดยไม่สนใจเสียงเรียกจากเขาสักนิด
“เดี๋ยวสิคุณ!!”
อานนท์พยายามจะรั้งแพรวา แต่ช้าไปเสียแล้วเมื่อเธอไม่สนใจเหลียวหลังมอง อีกทั้งเชอรินยังคงเกาะแขนของเขาไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยเชอริน คุณไม่มีสิทธิ์รุกล้ำความเป็นส่วนตัวของผม” อานนท์พูดจบเดินออกไป โดยไม่สนใจมองนางแบบสาวสักนิด ปล่อยให้เธออยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียว เพราะรู้สึกเหนื่อยทั้งวันจึงอยากกลับไปพักผ่อน
เชอรินมองตามหลังร่างกำยำจนลับหาย
“อีนางแพร แกกับฉันได้เห็นดีแน่” กล่าวด้วยความเกลียดชัง
