บท
ตั้งค่า

ตกหลุมรัก

“ผู้ชายบ้า เมื่อเช้ายังจูบเรา ตกเย็นมีอีกคนมารองรับ” แพรวาต่อว่าชายหนุ่มด้วยความหึงเขากับเชอริน

นิ้วเรียวแตะลงบนริมฝีปากอมชมพู พลางนึกถึงเหตุการณ์ตอนเช้าบนเรือ ใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะ สัมผัสของเขาช่างอบอุ่นยิ่งนัก กลิ่นน้ำหอมจาง ๆ สร้างความสดชื่นแก่เธอ แม้จะอยู่ใกล้กันเขาเพียงชั่วครู่ ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกนั้น ยิ่งคิดถึง ยิ่งคะนึงหา จนอยากเจอเขาอีกครั้ง มันยังคงตราตรึงในใจแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

“โอ๊ย...ยายแพรเป็นบ้าอะไรเนี่ย ตื่น ๆ ” แพรวาทุบตัวเองเบา ๆ เรียกสติ ไม่อย่างนั้นคงได้ถลำลึกมากกว่านี้ ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงไปยังห้องน้ำ

เสร็จธุระส่วนตัว ร่างอรชรจึงเอนกายล้มตัวลงบนเตียง ความเหนื่อยจากการชมเกาะวันนี้ ทำให้เธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว

เช้าวันรุ่งขึ้นของอีกวันแสงแดดอ่อนค่อย ๆ ทอแสงมายังปลายเตียง สายลมทะเลพัดลอดเข้ามาภายในห้องกระทบเข้ากับโมบายเปลือกหอย ส่งเสียงกระดิ่งดัง กริ๊ง ๆ ปลุกคนบนเตียงตื่นจากการหลับใหลขึ้นมารับแสงยามเช้า

“อื้อ” แพรวาตื่นนอนด้วยอาการงัวเงีย หญิงสาวบิดขี้เกียจบริหารร่างกาย ขณะกำลังนั่งเหม่อลอยมองทางหน้าต่าง เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานกรอกเข้าในสาย

(ตื่นยังครับ)

เสียงของคนในสาย ทำเอาแพรวาตกใจเกือบปล่อยมือถือร่วงหล่น ยังดีที่พอมีสติจึงไม่ได้ทำตกสู่พื้น ก่อนยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์ที่ปรากฏหน้าจอพลางขมวดคิ้ว เบอร์ปลายสายที่โทรเข้ามา เธอไม่รู้จักแต่น้ำเสียงนี้จำได้ดี

(แพรวา คุณยังอยู่อีกไหม เป็นอะไรหรือเปล่า) เสียงปลายสายถามกลับมาด้วยความเป็นห่วงเมื่อเธอเงียบ

“คุณมีเบอร์ฉันได้ไง” เอ่ยถามอย่างหงุดหงิด

(ผมมีวิธีของผมละกัน คุณว่างไหม ออกมาเดินเล่นกันหน่อย)

“ไม่ว่างค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธเสียงแข็งทันที เธอไม่อยากเจอผู้ชายเจ้าชู้แบบนั้นอีกแล้ว

(ถ้าคุณไม่มา ผมจะบุกไปถึงห้อง)

“บ้า” เสียงหวานเอ็ดคนปลายสาย

(งั้นคุณก็ออกมาสิ)

“ก็ได้ค่ะ” แพรวายอมตอบตกลง ใจหนึ่งก็ไม่อยากเจอเขา แต่อีกใจหนึ่งก็ห้ามไม่ได้ ยอมฝืนใจตัวเองเพื่อเจอเขา แม้จะบอกตัวเองหลายครั้งจะตัดใจจากเขา แต่ก็ทำไม่ได้สักที

(งั้นเจอกันครับ)

หลังจากเขาวางสาย แพรวายังคงมองโทรศัพท์ด้วยความสงสัย เขาได้เบอร์เธอมาได้ไง ทว่ายิ่งคิดยิ่งปวดหัว ก่อนจะสลัดมันทิ้ง แล้วก้าวลงจากเตียงเพื่อไปห้องน้ำจัดการชำระล้างร่างกาย

หญิงสาวแต่งกายด้วยเดรสสีขาวเหนือหัวเข่า ปล่อยผมยาวลงกลางหลัง ริมฝีปากอมชมพู แก้มนวลสีธรรมชาติ เธอสำรวจเรือนร่างงดงามหน้ากระจก เมื่อไม่มีสิ่งใดผิดปกติ ก็มุ่งหน้าไปตามสถานที่นัดหมายคือตรงหน้าล็อบบี้ของโรงแรม

เมื่อมาถึงก็เห็นเขากำลังนั่งคอยอย่างใจเย็น

วันนี้อานนท์แต่งกายด้วยกางเกงขายาวสีขาว เสื้อฮาวายลายดอกเสริมความหล่อด้วยหมวกเฟโดร่า

แพรวามองแบบตกตะลึง เพราะไม่เคยเห็นเขาแต่งตัวแบบนี้มาก่อน ช่างแตกต่างกว่าทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งแบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ เธอยืนจ้องเขาสักพัก กระทั่งเขาเป็นฝ่ายลุกและเดินมาหา

“ทานอาหารเช้าก่อนนะครับ” พูดจบก็เดินนำหน้าไปยังห้องอาหารชั้นบนของดาดฟ้า

ปกติบนดาดฟ้าเขาไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นมาทานข้างบน เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนตัว เธอเป็นคนแรกที่ได้ขึ้นมานอกเหนือจากคนในครอบครัว

สายตาคู่สวยมองบรรยากาศรอบ ๆ อากาศดีเป็นเลิศ ลมพัดเย็นสบายกระทบเข้ากับผิวขาวเนียน มองเห็นวิวท้องทะเลได้อย่างชัดเจน

ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานอย่างหลงใหล เขาชอบเธออย่างแท้จริง สาเหตุที่เขาพามาที่นี่ เพราะต้องการขอคบกับเธอ แม้จะเร็วเกินไปหน่อยสำหรับคนที่เพิ่งเจอกัน แต่สำหรับเขาถ้าได้ชอบใครสักคน เรื่องเวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญ

“วิวกลางคืนสวยกว่านี้นะครับ” เสียงทุ้มพูดทำลายความเงียบ ก็คนตัวเล็กเอาแต่มองวิว โดยไม่สนใจเขาสักนิด กระทั่งพนักงานชายเดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารพร้อมไวน์แดง เธอจึงหันมามองเขา

“ทานอาหารก่อนเถอะ” ชายหนุ่มตักอาหารใส่จานหญิงสาวพร้อมรินไวน์แดงที่มีรสชาติหอมหวานนุ่มลิ้น

“เอ่อคือว่า…ฉันกินไม่เป็นหรอก ไม่ต้องรินให้นะคะ เสียดายของแย่” มือเรียวดันแก้วคืนแก่ชายหนุ่ม

อานนท์คลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนแก่หญิงสาว การแสดงออกของเธอช่างไร้เดียงสา เขามองด้วยสายตาที่เอ็นดูรักใคร่อยากจะดูแลและปกป้อง

“ไม่เป็นไรครับ ค่อย ๆ ดื่ม”

“ก็ได้ค่ะ” แพรวาไม่อยากให้อานนท์เสียความรู้สึก จึงรับแก้วไวน์จากเขาขึ้นมาดื่ม ครั้งแรกได้ลิ้มลองถึงขั้นสำลัก รสชาติไม่คุ้นเคยกับลิ้นของเธอ

“เป็นอะไรมากไหม” ชายหนุ่มเห็นดังนั้นรีบยื่นทิชชูอย่างเป็นห่วง แอบตำหนิในใจ ไม่น่าให้เธอดื่มเลย

“ขอโทษค่ะ ฉันทำเสียบรรยากาศดี ๆ หมด”

“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ”

ชายหนุ่มกวักมือเรียกพนักงานบริเวณนั้นพลางกระซิบบางอย่าง ก่อนพนักงานคนเดิมจะหายไปครู่หนึ่ง และกลับมาอีกครั้งพร้อมช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ สร้างความแปลกประหลาดแก่แพรวาเป็นอย่างมาก

อานนท์รับช่อดอกกุหลาบสีขาวมาถือ แล้วไล่พนักงานทุกคนออกไปจนหมด เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าเขาแสดงความรักกับแพรวา

ร่างสูงใหญ่เด้งตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเท้าหนาย่างกรายไปหาคนตัวเล็กที่ทำหน้าฉงน ก่อนคุกเข่าข้างแพรวาพร้อมยื่นช่อดอกไม้ ยิ่งสร้างความตกตะลึงแก่หญิงสาว

“แพร คบกับพี่นะครับ”

แพรวาตกตะลึงทำตัวไม่ถูก เขาเข้ามาจู่โจมไม่ให้เธอได้ตั้งตัวสักนิด เธอไม่ได้ตอบรับชายหนุ่มทันใด เนื่องจากรู้สึกลังเลทำไมเขาถึงมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างกับคนละคน ทั้งสรรพนามที่เรียกก็ละมุนรื่นหู

“แพร ทำไมถึงเงียบ” ชายหนุ่มยังคงเรียกชื่อเธอซ้ำอีกครั้ง

“คุณแกล้งฉันเล่นหรือเปล่า” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้น

“พี่จะแกล้งแพรทำไม พี่ชอบแพรจริง ๆ ลองคบกันก่อนดูไหม พี่ตกหลุมรักแพรตั้งแต่แรกเจอเลยนะครับ”

อานนท์กล่าวความในใจให้แก่คนตัวเล็กฟัง หวังให้เธอตอบตกลง เขาไม่อยากได้ยินคำปฏิเสธจากริมฝีปากอวบอิ่ม

แพรวายังคงครุ่นคิด ไม่เข้าใจทำไมเขาถึงขอคบกับเธอ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกก็เหมือนไม่ได้สนใจด้วยซ้ำ แต่เมื่อกี้เขาเพิ่งบอกว่าชอบเธอตั้งแต่แรกเจอ หมายความว่าตั้งแต่งานเลี้ยงวันนั้นแล้วเหรอ

เธอเงยหน้ามองเขา พยายามไตร่ตรอง หากปฏิเสธเขาไปก็กลัวจะไม่ได้เจอหน้ากันอีก แต่ถ้าเธอตอบตกลงเขาจะมองว่าใจง่ายหรือเปล่า

“ก็ได้ค่ะ ลองดูนะคะ แต่ว่า...” ประโยคท้ายไม่ทันจะกล่าว นิ้วแกร่งก็แตะลงบนริมฝีปากอมชมพูพลางส่ายหัวไปมาไม่ต้องการให้คนตัวเล็กพูดคำใด ๆ ทั้งสิ้น

“ไม่มีแต่ครับ พี่รู้ว่าแพรจะพูดว่าอะไร”

แพรวาทำได้เพียงรับช่อดอกไม้จากมือหนา ก่อนเขาจะกระซิบข้างหูเบา ๆ ชวนสยิว

“พี่ขอจูบแพรได้ไหม”

แพรวาได้ยินดังนั้นก็ทำตาโตเท่าไข่ห่านทันที ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มจะกล้าขอแบบนี้

“แต่วันนั้น คุณจูบฉันไปแล้ว” เสียงหวานตอบโต้คนตัวโต

“คบกันแล้ว ต้องแทนตัวเองด้วยชื่อ แล้วเรียกว่าพี่นนท์ ไม่ใช่ฉันกับคุณแบบนี้ อีกอย่างจูบของจริงมันต้องแบบนี้” ไม่พูดเปล่าคว้าต้นคอระหง โน้มใบหน้าคมแนบริมฝีปากอมชมพูอย่างชักช้า หมายจะแทรกลิ้นสากเข้าตักความหวานในโพรงปากสาว แต่เธอไม่ยอมเผยอให้เขา

หญิงสาวพยายามดิ้นหนีให้พ้นจากริมฝีปากหยักได้รูป ก่อนจะยกกำปั้นน้อย ๆ ทุบแผ่นหลังแกร่งถี่รัว หวังให้เขาเจ็บและยอมปล่อยเป็นอิสระ ทว่าเขากลับไม่สะทกสท้านใด ยังคงจูบอย่างหนักหน่วงมากกว่าเดิม จนแทบจะขาดอากาศหายใจ

“อื้อ” เสียงหวานครางต่ำในลำคอ

แพรวาพยายามปิดปากสนิท แต่เขาดันกัดปากเธอ กระทั่งเธอเผลอร้อง

อานนท์ได้โอกาสแทรกลิ้นสากเข้าในโพรงปากสาว แม้เธอจะพยายามปิดกั้นเอาไว้ แต่ก็ยังสามารถล่วงล้ำเข้ามาได้ มือไม้เริ่มอยู่ไม่เป็นสุขค่อย ๆ เลื่อนลงมาลูบไล้ทรวงอก

“อื้อ” ดวงตากลมโตปิดตาลงสนิท ฝ่ามือเล็กขยุ้มเสื้อของคนตัวโต

ผ่านไปหลายนาที อานนท์ยังคงวุ่นวายกับริมฝีปากอวบอิ่มแบบไม่เลิกรา กระทั่งหญิงสาวได้สติอีกครั้ง จึงทุบตรงไหล่แกร่งอย่างแรง ๆ สุดท้ายชายหนุ่มยอมถอนริมฝีปากออกจากกลีบปากของเธอ ไม่ใช่ว่าเพราะเขาเจ็บหรอก แต่กลัวคนตัวเล็กจะขาดอากาศหายใจ

เมื่อถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แพรวาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ตอนนี้ยังคงอึ้งกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ร่างอรชรรีบเด้งตัวจากเก้าอี้หมายจะหนีคนตัวโต แต่ด้วยความไวกว่าของเขาจึงคว้าท่อนแขนเรียว ทำเธอเสียหลักล้มลงเข้าสู่อ้อมกอด

แพรวาก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาเขา ยังคงเขินอาย ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันทำไมถึงต้องเคลิ้มกับเขาได้ขนาดนี้

“ถ้ายังไม่เงยหน้าขึ้นมา พี่จะจูบแบบเมื่อกี้อีกครั้ง” อานนท์ขู่หญิงสาวในอ้อมกอด ได้ฟังเช่นนั้นแพรวารีบสบตาคนตัวโต ซึ่งกำลังส่งสายตาหวานเยิ้ม

“เป็นแฟนพี่แล้ว ไม่ต้องอายเวลาอยู่กับพี่”

“คนฉวยโอกาส” หญิงสาวต่อว่าอย่างไม่จริง

“งั้นพี่ให้จูบคืน”

“บ้า!” เสียงหวานตำหนิเขาพลางทำหน้ามุ่ย

ชายหนุ่มขบขันกับท่าทีของเธอ อดหมั่นไส้คนในอ้อมกอดไม่ได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel