แต่งงาน
“ฮะ!! ว่าไงนะ ต้องการให้ยายเกรซแต่งงานกับคิน” เสียงร้องตกใจของเกศรินทร์ดังขึ้น
“ใช่! ฉันอยากให้หนูเกรซแต่งงานกับคิน”
“เพราะอะไร!! ถึงอยากให้ยายเกรซแต่งงานกับลูกชายแก ไอ้นนท์” ภูชิตเอ่ยถามเพื่อนรัก
“ฉันต้องการทวงสัญญา!!!”
เมื่อไม่อาจปฏิเสธเรื่องการแต่งงานระหว่างอคินและกรรวี ทางครอบครัวของหญิงสาวจำเป็นต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้
ร่างกายของกรรวีแข็งแรงขึ้นดังเดิม แพทย์ได้อนุญาตให้หญิงสาวกลับมาพักผ่อนที่บ้านได้
“เกรซเป็นอย่างไรบ้าง” เกศรินทร์เอ่ยถามลูกสาว ขณะกรรวีกำลังนั่งอ่านหนังสือยังห้องนั่งเล่น
“เกรซแค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย แต่ตอนนี้เกรซจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ”
“แล้วลูกจำพี่คินได้ไหม” เกศรินทร์ถามหญิงสาวทันที เธอไม่อยากรอช้าจึงรีบเปิดประเด็น เพราะทางครอบครัวของอคินเร่งมา
เมื่อได้ยินถึงชื่ออคิน กรรวีรู้สึกเจ็บจี๊ดตรงกลางหัวใจดวงน้อย โหวงเหวงภายในอย่างบอกไม่ถูก จนเธอเผลอเอื้อมมือมาวางลงตรงอกข้างซ้าย
“เกรซเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” ไร้เสียงตอบรับของหญิงสาว คนเป็นมารดาจึงเอ่ยถาม
“ปละ เปล่าค่ะ”
“แล้วลูกจำพี่คินได้ไหม” มารดาถามซ้ำอีกครั้ง
กรรวีเพียงพยักหน้าเบา ๆ พลางนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาของอคิน
“คือแม่ต้องการให้ลูกแต่งงานกับพี่คิน”
“แต่งงานเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยท่าทีตกใจ แม้จะทราบว่าระหว่างเธอกับเขามีสัญญาหมั้นหมายกัน แต่ไม่คิดว่าจะเร็วถึงเพียงนี้
“อะไรนะครับ!! แต่งงานเหรอ”
อคินกล่าวอย่างตกใจในสิ่งที่ได้ยินจากปากของบิดา แทบจะไม่อยากจะเชื่อ ทั้งที่เพิ่งจะสูญเสียภรรยาแต่ทางครอบครัว กลับบังคับให้ตนเองแต่งงานกับผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุทำให้แอนนี่ต้องเสียชีวิต
“ผมไม่แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น” เสียงทุ้มพยายามคัดค้านเรื่องการแต่งงาน
“ยังไงแกก็ต้องแต่ง!!!” เสียงประมุขของบ้านยังคงยืนยันคำเดิม
อคินถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า ก่อนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“ก็ได้ครับ ผมจะยอมแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น” คำตอบของชายหนุ่มทำคนเป็นบิดารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“ดีมาก แกเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ฉันได้เตรียมทุกอย่างแล้ว”
“ครับ” อคินมองร่างบิดาที่เดินจากไป ไม่คาดคิดเลยว่าบิดาจะทำเช่นนี้กับตนเองเพียงผู้หญิงคนนั้นคนเดียว
การแต่งงานระหว่างอคินกับกรรวีจะถูกจัดขึ้นอีกไม่ช้า ทุกอย่างได้จัดเตรียมเรียบร้อยโดยครอบครัวของชายหนุ่ม
กรรวีนั่งเล่นในสวนหลังบ้านนั่งเหม่อลอยพลางนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ แวบหนึ่งก็มีความคิดหนึ่งโผล่เข้ามาในสมอง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เข้าใจมากที่สุด ณ บัดนี้
“ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับเรากันแน่!!!” กรรวีพยายามหาเหตุผลมาเชื่อมโยงสิ่งที่ค้างคาในใจตนเอง ทั้งที่กำลังจะแต่งงานกับอคินแท้ ๆ เพราะเหตุใดเธอกลับไม่เคยเจอหน้าเขาเลยสักครั้ง
“ยายเกรซทำอะไรอยู่คนเดียว”
“พี่ดล!!” หญิงสาวหันไปมองตามเสียงของพี่ชาย
“ทำอะไรอยู่คนเดียว” ภูวดลเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งหลังจากเดินมานั่งใกล้น้องสาว
“พี่ดลคะ เกรซถามอะไรหน่อยได้ไหม”
“ว่าไงครับ ถามมาได้เลย”
“ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้นกับเกรซกันแน่ ทำไมเกรซจำอะไรไม่ได้เลย”
“เอ่อ คือว่า ” ภูวดลมีท่าทีเลิ่กลั่ก
“ว่าไงคะพี่ดล เกิดอะไรขึ้นกันแน่!!!” ดวงตาใสจ้องมองคนตรงหน้าเค้นหาคำตอบ
“พี่ว่าเราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้เลยได้ไหม”
“ทำไม!!” กรรวีเริ่มไม่พอใจ
“นี่แนะ กล้ามาขึ้นเสียงกับพี่เหรอ” มือหนาโขกศีรษะกรรวี
“โอ๊ย! เจ็บนะพี่ดล” มือเรียวลูบยังศีรษะตนเอง
“เข้าบ้านไปได้แล้ว มานั่งตากลมอย่างนี้เดี๋ยวก็ป่วยอีกหรอก”
“ก่อนเกรซจะไป เกรซของถามอีกเรื่องหนึ่ง”
“อืม...ว่ามา”
“พี่คินไปไหน!! เกรซป่วยขนาดนี้ ทำไมถึงไม่มาเยี่ยม” สำหรับกรรวีแม้ตนเองจะชอบมีปากเสียงทะเลาะกับอคินทุกครั้ง แต่เขาไม่ใช่คนใจร้าย ถึงขั้นไม่มาหาตนเองทั้งที่รู้ว่าป่วยเช่นนี้
“เอ่อ ไอ้คินมันงานยุ่งนะ ” ภูวดลรู้สึกเหนื่อยใจกับคำถามของน้องสาว
ภูวดลพอจะทราบว่าเพื่อนเองกำลังเสียใจเรื่องการสูญเสียภรรยา แต่เขาไม่ทราบแน่ชัดถึงรายละเอียดต่าง ๆ
“อย่าให้เกรซรู้นะว่ากำลังมีเรื่องอะไรปิดบังอยู่!” เธอพูดเสร็จก็เดินออกไปทันที
ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง
งานแต่งระหว่างอคินและกรรวีถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและรวดเร็ว เพราะบิดาของชายหนุ่มกลัวลูกชายตนเอง จะมีคนรักใหม่ เขาจึงรีบจับคู่คนทั้งสองทันที
นับตั้งแต่กรรวีประสบอุบัติเหตุและออกจากโรงพยาบาล หญิงสาวไม่เคยเจอหน้าชายหนุ่มเลย จนกระทั่งถึงงานแต่งเพิ่งจะได้เจอกันเป็นครั้งแรก
“พี่คิน!!” เสียงหวานเอ่ยเรียกคนข้างตนเอง ซึ่งกำลังยืนเคียงคู่กันรอรับแขกประตูทางเข้า
ไร้เสียงคนตัวโต เขายังคงเงียบนิ่งแสดงสีหน้าเย็นชา แม้กรรวีจะพยายามเรียกหลายครั้ง แต่เขาก็ยังเหมือนเดิมจนเธอรู้สึกน้อยใจจึงเงียบลง
“คิน!! ทำหน้าดี ๆ หน่อยลูก ยิ้มหน่อยนะ” แพรวาเดินเข้ามาหาลูกชายพลางสะกิด เพราะตอนนี้ใบหน้าอย่างคนอมทุกข์
“ผมคงไม่อาจฝืนยิ้มหรอกครับ”
“ไม่เอาน่าคิน!!”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ หม่ามี้ช่วยรับแขกให้หน่อย” ชายหนุ่มเดินหันหลังจากไปโดยไม่เหลียวหลังมามองเจ้าสาวคนสวย
กรรวีหน้าซีดเผือดในใจตอนนี้อยากจะร้องไห้เหลือเกิน ถูกคนตัวโตแสดงสีหน้าเย็นชาและรังเกียจตลอดทั้งวัน
“หนูเกรซอย่าใส่ใจคำพูดของคินนะ พี่เขาอาจจะเหนื่อย” แพรวาพยายามปลอบใจลูกสะใภ้
“ค่ะหม่ามี้”
“หนูเกรซหิวไหม ไปหาอะไรกินหน่อยเถอะ เดี๋ยวหม่ามี้รับแขกต่อ”
กรรวีพยักหน้าและเดินจากไปเพราะตอนนี้จิตใจว้าวุ่นเหลือเกิน ต้องการหาที่เงียบ ๆ ทำจิตใจให้สงบ
อีกฝั่งหนึ่งของเกาะฟาร์มไข่มุกยังคงมีร่างกำยำของใครคนหนึ่ง กำลังมองดูวิดีโองานแต่งงานของอคินและกรรวี
“หึ!! เมียตายไม่ทันไรก็แต่งงานใหม่ซะแล้ว” กันชัยหรือเสี่ยชัย หนุ่มนักธุรกิจอายุราว ๆ สามสิบปีเช่นเดียวกับอคิน ซึ่งเป็นคู่แข่งทางธุรกิจ
“เสี่ยชัยครับ”
“ว่าไงไอ้โจ้” เสี่ยกันชัยหันไปตามเสียงเรียกของลูกน้อง
“เรื่องที่เสี่ยให้ผมจัดการเรียบร้อยดีครับ ผมรับรองว่าคนของพวกมันไม่มีใครสามารถสืบเรื่องมาถึงเสี่ยได้”
“ดีมาก ไปได้”
“ครับเสี่ย”
เสี่ยชัยจ้องมองวีดีโอในโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง แอบนึกเสียดายคนที่เขาหมายปอง กลับถูกคนอย่างอคินจกไปอย่างหน้าตาเฉย
“ไม่ว่าอย่างไรกูจะเอาคนของกูกลับคืนมาให้ได้”
และแล้วถึงเวลาเข้าหอสำหรับคู่บ่าวสาว ชายหนุ่มจำใจต้องอุ้มกรรวีเข้าสู่อ้อมอย่างคำคะยั้นคะยอของมารดา แม้ไม่อยากทำมันก็ตาม เท้าหนารีบก้าวอย่างไวเพื่อมุ่งไปยังห้องพัก
ตุบ
เมื่อมาถึงยังห้องพักชายหนุ่มโยนร่างบางในอ้อมกอดอย่างไม่แยแส ไม่คิดว่าเธอจะเจ็บหรือไม่
“โอ๊ย! เจ็บนะพี่คิน” มือบางดันกายให้ลุกขึ้นมองชายหนุ่ม ก่อนจะพูดต่อว่าเขา
อคินมองด้วยแววตารังเกียจ ขยะแขยง จนคนถูกมองรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ไปทั้งกาย
“แค่นี้ไม่ตายหรอก!!” เสียงดุดันเน้นอย่างช้า ๆ ชัด ๆ ให้เธอได้ยินเต็มสองหู และเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจคนบนเตียง
“เป็นอะไรของเขานะ” กรรวีรู้สึกถึงความผิดปกติจากตัวชายหนุ่ม ซึ่งเขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนจนเธออดแปลกใจไม่ได้
