บท
ตั้งค่า

เหตุการณ์ไม่คาดคิด

กรรวีขังตัวเองอยู่แต่ในห้องนานนับสัปดาห์ ตั้งแต่เหตุการณ์ในวันนั้น เธอมักจะคอยหลีกเลี่ยงการไปเกาะฟาร์มไข่มุก แม้จะเป็นสถานที่เธอชอบมากที่สุด แต่วันนี้กลับกลายเป็นว่าเธอไม่อยากย่างก้าว

“เกรซ!!เปิดประตูให้แม่หน่อยลูก” เสียงสาววัยกลางคนตะโกนเรียกลูกสาวนอกห้อง

“คุณแม่มีอะไรกับเกรซหรือเปล่าคะ”

“แม่เห็นลูกอยู่ในห้องไม่ออกมาข้างนอกหลายวัน แม่เป็นห่วงนะ”

“เกรซสบายดีค่ะ คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะ” กรรวีตะโกนตอบมารดา ทั้งที่สภาพตนเองตอนนี้เหมือนคนป่วยนอนซมอยู่แต่ในห้อง

“เปิดประตูให้แม่หน่อยนะ”

เสียงเรียกของเกศรินทร์ดังถึงห้องทำงานลูกชาย ภูวดลเดินออกมาหามารดานอกห้อง จึงได้เอ่ยถาม

“คุณแม่ครับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

“ดล!! ก็ยายเกรซนะสิ ขังตัวเองอยู่ในห้องหลายวันแล้วแม่เป็นห่วงน้อง”

“งั้นเดี๋ยวผมจัดการเองครับ”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก มือหนาเคาะประตูห้องอย่างดัง

“ยายเกรซเปิดประตูให้พี่หน่อย ถ้ายังดื้อแบบนี้พี่จะพังประตูห้องเรา”

ปึง

ประตูห้องถูกเปิดออกโดยคนตัวเล็ก แสดงสีหน้าไม่พอใจ

“มีอะไรพี่ดล!!” เสียงหวานป่นอารมณ์โกรธเอ่ยถามออกไป

“ก็แค่นี้แหละกว่าจะยอมเปิดประตูได้ ต้องให้พี่เกือบใช้กำลังก่อน”

“อย่าโกรธพี่เขาเลยเกรซ แม่อยากคุยกับลูกเองแหละ”

“คุณแม่ครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ ปล่อยให้คุณแม่จัดการยายเด็กดื้อไปเถอะ” มือหนาขยี้ผมน้องสาวก่อนจะจากไป

“พี่ดล!!!”

“ไม่เอาน่าลูก แม่มีเรื่องจะคุยกับหนูหน่อย”

“ค่ะ เชิญคุณแม่เข้าห้องก่อนนะคะ”

“เกรซเป็นอะไรหรือเปล่าลูก ช่วงนี้แม่เห็นลูกไม่ค่อยจะออกไปข้างนอกเลย” เกศรินทร์เอ่ยถามลูกสาวทันทีหลังจากเดินเข้ามาในห้อง

“คุณแม่!!” เสียงหวานกล่าวอย่างสั่นเครือ เก็บความรู้สึกเสียใจต่อไปไม่ไหวโผล่เข้ากอดมารดา

เกศรินทร์ลูบศีรษะลูกสาวด้วยความรักใคร่และเอ็นดู เธอมองสภาพลูกสาวตอนนี้ก็พอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น หากไม่ใช่เพราะชายหนุ่มอย่างอคิน

“อย่าเสียใจไปเลยลูก ไว้แม่จะหาหนุ่มหล่อ ๆ ให้เกรซเอง”

กรรวีผละออกจากอ้อมกอดมารดา จ้องมองใบหน้าคนตรงหน้าส่งยิ้มอ่อนมาให้ตนเอง

“คุณแม่ทราบเหรอคะ”

“แน่นอนอยู่แล้ว แม่เป็นแม่ของลูก อาบน้ำร้อนมาก่อนลูก” เธอเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาบนใบหน้างดงามของกรรวี

“แล้วเกรซต้องทำอย่างไรดี”

“ก่อนอื่นลูกต้องลุกขึ้นไปอาบน้ำ แม่จะพาหนูไปช้อปปิ้ง”

“ได้ค่ะคุณแม่ รักคุณแม่ที่สุดเลย” กรรวีหอมแก้มมารดาทีหนึ่ง กระโดดลงจากเตียงวิ่งเข้าห้องน้ำ

“จะไปไหนกันสองแม่ลูก แต่งตัวสวยเชียว” เสียงประมุขของบ้านเอ่ยทักทายภรรยาและลูกสาว

“ลูกเกดจะพาลูกไปช้อปปิ้ง พี่ภูคงไม่ว่าไหมคะ”

“ใครจะกล้าว่าเกศรินทร์ละครับ” ชายวัยกลางคนลุกขึ้นจากโซฟา เดินไปหาภรรยาพร้อมโอบกอดและหอมแก้มต่อหน้าบรรดาลูกๆ

“อะแฮ่ม ๆ” กรรวีส่งเสียงในลำคอบ่งบอกให้ทราบว่าพวกเขาไม่ได้อยู่กันเพียงสองคน

“พี่ภู ปล่อยลูกเกดได้แล้วค่ะ” เกศรินทร์กระซิบข้างหูสามี

“ทำไมยายเกรซอิจฉาพ่อกับแม่หรือ”

“พี่ภู!!” เกศรินทร์ตำหนิสามีและชำเลืองไปมองลูกสาว กลัวเธอจะน้อยใจกับคำพูดของสามี

“คุณแม่คะ เกรซไปรอที่รถนะคะ”

“พี่ภู!! เห็นไหมลูกงอนไปแล้ว เป็นพ่อภาษาอะไรเนี่ย ไม่รู้หรือเรื่องไงว่าลูกมีเรื่องเศร้า” เธอตำหนิสามีหลังจากกรรวีเดินจากไป

“พี่ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“ปล่อยค่ะ ลูกเกดจะไปหาลูก”

ณ ห้างหรูแห่งหนึ่ง ยังคงมีสองสาวกำลังเลือกซื้อของใช้และเสื้อผ้าเด็กทารก

“หนูแอนนี่หิวยัง เดี๋ยวหม่ามี้พาหนูไปหาอะไรกิน” แพรวาเอ่ยถามลูกสะใภ้

“นิดหน่อยค่ะ”

“งั้นไปกันเถอะ” ระหว่างทั้งสองกำลังจะไปร้านอาหาร จู่ ๆ สายตาของแอนนี่ก็ปะทะเข้ากับร่างอันคุ้นเคยของใครคนหนึ่ง

“หม่ามี้คะ นั่นใช่คุณเกรซหรือเปล่าคะ”

“ไหนเหรอ” แพรวาหันไปมองตามที่ลูกสะใภ้บอก

“นั่นไงคะ”

“ใช่หนูเกรซจริงด้วย หม่ามี้ว่าเราไปหาทักทายกันเถอะ”

“ค่ะ” แพรวาพยายามประคองลูกสะใภ้ให้เดินอย่างระมัดระวัง

“หนูเกรซ!!” กรรวีหันไปมองตามเสียงเรียก

“น้าแพร!!” ก่อนสายตาจะมองปะทะไปยังร่างของแอนนี่

“หนูเกรซมาทำอะไรเหรอ แล้วมากับใครคะ”

“เกรซมาซื้อของค่ะ มากับคุณแม่”

“ไหนแม่ของหนูเกรซล่ะ” แพรวามองหา

กริ้ง กริ้ง กริ้ง

เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูของแพรวาดังขึ้น เธอจึงเอ่ยกับลูกสะใภ้และกรรวีเพื่อออกไปรับโทรศัพท์

“หนูเกรซ น้าขอไปรับโทรศัพท์สักครู่นะคะ ฝากแอนนี่ด้วยนะ”

“ค่ะ” เธอส่งยิ้มให้คนตรงหน้า

ทุกอย่างเข้าสู่ความเงียบ ไม่มีใครเปล่งเสียงเอ่ยทักทายกัน กระทั่งผ่านราว ๆ เกือบห้านาที แอนนี่เป็นฝ่ายชวนคุยก่อน

“เอ่อ คือ คุณเกรซคะ คือแอนนี่มีเรื่องจะถามคุณสักอย่างได้ไหมคะ” เธอกล่าวอย่างกล้า ๆ กลัว

“ค่ะ ถามมาได้เลย”

“แอนนี่จะไม่อ้อมค้อมอีกนะคะ แอนนี่อยากจะรู้ว่าคุณกับอคินเป็นอะไรกัน”

กรรวีเหลือบมองแอนนี่ บัดนี้หญิงสาวไม่แสดงสีหน้าใด ๆ ใบหน้ายังคงนิ่งเรียบ

“คุณแอนนี่พูดแบบนี้หมายความว่าไง”

“แอนนี่เห็นคุณเกรซจูบกับคิน ในงานวันเกิดหม่ามี้” กรรวีนิ่งและอึ้ง เธอไม่คาดคิดว่าแอนนี่จะเห็นเหตุการณ์ในวันนั้น

“เอ่อ คือ ” ไม่ทันกรรวีจะตอบ เสียงมารดาก็แทรกขึ้น

“ยายเกรซทำอะไรเหรอ อ้าวหนูแอนนี่” เกศรินทร์เอ่ยกับลูกสาว ก่อนจะเห็นแอนนี่และหันไปทักทาย

“สวัสดีค่ะคุณป้า”

“หนูแอนนี่มากับใครเหรอ”

“แอนนี่มากับหม่ามี้คะ มาซื้อของให้ลูก” เธอว่าพลางลูบลงหน้าท้องตนเอง

“ไปกันเถอะแอนนี่” เสียงแพรวาเดินเข้ามา กล่าวอย่างรีบร้อน

“แพรเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ดูรีบจังเลย” เกศรินทร์เอ่ยถามเพื่อน

“พอดีเกิดเรื่องขึ้นนะ บ้านเด็กกำพร้าที่แพรให้การช่วยเหลือตอนนี้เกิดไฟไหม้ แพรต้องรีบไปแต่ต้องส่งแอนนี่กลับบ้านก่อน”

“อืม เอาอย่างนี้ให้ลูกเกดไปเป็นเพื่อน ส่วนหนูแอนนี่ให้ยายเกรซไปส่งที่บ้านดีไหม” เกศรินทร์เป็นฝ่ายเสนอ

แพรวาครุ่นคิดครู่หนึ่ง จึงเอ่ยตอบทันทีอย่างไม่ลังเล

“เอาอย่างนั้นก็ได้”

“เกรซ!! ลูกไปส่งหนูแอนนี่ที่บ้านนะ แม่มีธุระจะไปกับน้าแพร”

“ได้ค่ะคุณแม่” กรรวีตอบรับมารดา แม้เธอจะไม่อยากไปส่งหญิงสาวตรงหน้าก็ตาม เพราะไม่อยากจะเจอผู้ชายใจร้ายคนนั้น แต่เกิดเรื่องคอขาดบาดตายเช่นนี้ ก็ไม่อาจใจจืดใจดำปล่อยคนตรงหน้ากลับเพียงคนเดียว

“ไปเถอะคุณแอนนี่” สองสาวเดินมายังลานจอดรถ กรรวีและแอนนี่เดินไปนั่งประจำตำแหน่งของตนเอง

รถเก๋งคันหรูเคลื่อนตัวออกจากห้าง มุ่งไปสู่เกาะฟาร์มไข่มุก ระหว่างทางบนท้องถนน แอนนี่ยังคงเปิดประเด็นหาเรื่องชวนคุย

“คุณเกรซกับคินสนิทกันตั้งแต่เด็กแล้วเหรอคะ”

“ไม่เชิงหรอกค่ะ เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น”

“เหรอคะ นึกว่าจะสนิทกันซะอีก ประมาณแบบว่าแอบกินกันค่ะ”

“นี่คุณแอนนี่!!!” กรรวีหันมองคนข้างกายก่อนจะมีสุนัขวิ่งตัดหน้ารถ

“คุณเกรซระวัง มีสุนัขข้างหน้า” กรรวีพยายามบังคับรถให้เป็นปกติ เท้าสวยเหยียบลงยังเบรก ทว่า...

“แย่แล้ว เบรกรถเสีย” เสียงหวานตะโกนบอก เธอไม่สามารถบังคับรถจึงเสียหลักพุ่งชนเข้ากับต้นไม้ข้างทางอย่างจัง กระทั่งคนในรถทั้งสองคนต่างสลบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel