บท
ตั้งค่า

จูบแรก

กรรวีและอคินต่างก็แยกย้ายกันหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เธอกลับมาทำงานดังเดิม ส่วนเขาก็กลับไปยังฟาร์มไข่มุก

“หรือว่าเราจะชอบพี่คิน” กรรวีกลับมาครุ่นคิดในห้องทำงาน ใบหน้าหวานมองออกไปข้างนอกหน้าต่าง ยืนเหม่อลอยกับภาพบรรยากาศตรงหน้า

หญิงสาวเอื้อมมือมาวางลงบนอกข้างซ้าย รู้สึกใจเต้นทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขา มันเป็นความรู้สึกไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน

“พี่เกรซคะ พี่เกรซ พี่เกรซ” เสียงใสของสาวคนหนึ่งดังขึ้น ในขณะกรรวียังคงเหม่อลอย กระทั่งเสียงเรียกครั้งที่สามดังขึ้น หญิงสาวจึงได้สติและหันไปมองตามเสียง

“อ้าวมล ว่าไงเหรอ”

“คือมลเอาเอกสารจากพี่เจี๊ยบมาให้เซ็นค่ะ”

มลหรือมลธิตา นักศึกษาฝึกงานในวัยยี่สิบสามปี ฝึกงานปีสุดท้ายก่อนเรียนจบ เธอกับกรรวีเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในมหาลัยเดียวกัน จึงมาฝึกงานสหกิจของบริษัทบิดากรรวี

“วางได้เลย เดี๋ยวพี่เซ็นเสร็จแล้วจะให้คนเอาไปให้”

“ค่ะ เอ่อคือว่า...”

“มีอะไรหรือเปล่ามล” กรรวีมองสาวตรงหน้าอย่างมีเรื่องต้องการจะพูดอะไรกับตนเอง

“อย่าหาว่ามลก้าวก่ายหรือละลาบละล้วงเลยนะคะ มลแค่เป็นห่วงพี่เกรซก็เท่านั้น เลยไม่แน่ใจว่าพี่เกรซมีเรื่องอะไรไม่สบายใจมลพอจะช่วยได้บ้าง” มลธิตาเป็นห่วงสาวตรงหน้าเพราะกรรวีเป็นผู้มีพระคุณของตนเอง

“ไม่มีอะไรมากหรอก พี่แค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

“ถ้าพี่เกรซอยากได้ที่ระบายบอกมลได้เสมอ มลยินดีรับฟัง ถ้างั้นมลขอตัวก่อนนะคะ”

“อืม” ร่างเล็กของมลธิตาหันหลังกลับจะออกจากห้อง จังหวะนั้นเธอก็ชนเข้ากับร่างหนาของใครคนหนึ่งเข้าอย่างแรง จนเธอล้มลงกับพื้น สายตาโกรธเคืองหันมาจ้องชายหนุ่มตรงหน้า

“โอ๊ย!! เจ็บชะมัดเลย”

“เป็นอะไรไหมครับ” เสียงทุ้มของภูวดลเอ่ยขึ้นพร้อมส่งมือหนาแก่หญิงสาว

“ไม่มีตาหรือไง ชนเข้ามาได้ไงตัวก็ไม่ได้เล็ก” เธอปัดมือของชายหนุ่มออก แล้วลุกขึ้นยืนจ้องตาแข็งใส่ภูวดล

กรรวีอึ้งกับคำพูดของมลธิตา ไม่คาดคิดว่าพี่ชายของตนเองจะถูกสาวนักศึกษาก่นด่า ไม่ใช่เพราะเป็นรองประธาน แต่เพราะใบหน้าหล่อเหลาต่างหากที่ไม่มีสาวคนไหนกล้าปฏิเสธ

“อ้าวยายเด็กนี่ คนพูดดีๆด้วย”

“ใครเด็ก!! ฉันโตจนจะเรียนจบมหาลัยแล้ว” เธอหงุดหงิดเหยียบเท้าเขาไปทีหนึ่งรีบวิ่งออกจากห้องไป ปล่อยคนตัวโตร้องด้วยความเจ็บ

“โอ๊ยยายเด็กบ้า ฝากไว้ก่อนเถอะ” เสียงตะโกนดังใส่มลธิตาที่ตอนนี้ไร้ร่างเธอแล้ว

“พี่ดลไปนั่งก่อนเถอะค่ะ” กรรวีเดินมาประคองพี่ชายไปยังโซฟา

“ยายเกรซ เด็กคนนั่นเป็นใคร” เขาถามน้องสาวหลังจากเธอพามานั่ง

“น้องเขาชื่อมลค่ะ ไม่ใช่เด็กนั่น”

“เธอเป็นใคร”

“มลเป็นรุ่นน้องมหาลัยเดียวกับเกรซ น้องเขามาฝึกงานที่บริษัทเราค่ะ”

“อืม แค่เด็กฝึกงานสินะ” ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์มุมปาก แผนร้ายในสมองเกิดขึ้นทันที

“พี่ดลมาหาเกรซมีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ” เขาตื่นจากภวังค์หันมามองน้องสาว

“จริงด้วยสิ! พี่เกือบลืมไปเลย พอดีไอ้คินมาหาพี่มันบอกว่าพรุ่งนี้ที่บ้านมัน จะจัดงานวันเกิดน้าแพร มันเลยชวนครอบครัวเราไป”

“ไม่เห็นจะบอกเกรซเลย” หญิงสาวเอ่ยอย่างแผ่วเบา รู้สึกน้อยใจอคิน ทั้งที่ไปทานข้าวด้วยกันแท้ๆ เขาก็พูดแต่เรื่องของแอนนี่อย่างเดียว ไม่บอกเรื่องสำคัญกับตนเองเลย

“ยายเกรซว่าอะไรนะ พี่ได้ยินไม่ถนัด”

“ปละ เปล่าค่ะ”

“งั้นเย็นนี้ไปเลือกของขวัญให้น้าแพรกับพี่นะครับ”

“ค่ะ”

ณ คฤหาสน์เทพไพรศาล ค่ำคืนของบรรยากาศในงานเลี้ยงฉลองคล้ายวันเกิดแพรวา

“น้าแพรคะ ของขวัญ” กรรวีส่งกล่องของขวัญให้แพรวา ก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งข้าง ๆ

“ไม่เห็นต้องลำบากเลยหนูเกรซ”

“เกรซยินดีค่ะ”

“หม่ามี้อย่าขัดยายเกรซเลยครับ เด็กนี่มันดื้อแบบนี้แหละครับ” เสียงพูดอคินดังขึ้นแต่ครั้งนี้กรรวีเงียบไม่โต้เถียงเหมือนทุกครั้ง จนทุกคนนึกแปลกใจไม่เว้นแต่ชายหนุ่ม

“แพรว่าเราทานข้าวกันดีกว่านะคะ เงียบ ๆ เลยคิน” แพรวาพูดทำลายบรรยากาศตึงเครียด และหันไปตำหนิลูกอย่างแผ่วเบา

อคินจ้องมองใบหน้างามของกรรวี รู้สึกสงสัยในพฤติกรรมของเธอ

“เกรซขอตัวไปห้องน้ำก่อนนะคะ” กรรวีลุกขึ้นออกจากโต๊ะอาหารในงานเลี้ยง เธอเพียงไม่อยากจะเห็นภาพชายหนุ่มเอาอกเอาใจภรรยา จึงออกมาเดินเล่นเงียบ ๆ คนเดียว

“อุ๊ย” จังหวะกำลังจะหันจู่ ๆ ก็ชนเข้ากับร่างกำยำของใครคนหนึ่ง

“เป็นอะไรไหม” แขนกำยำคว้าเอวคอดสองร่างประชิดใกล้กัน

“พี่คิน ขอบคุณค่ะ แต่ปล่อยเกรซได้แล้ว” มือพยายามดันอกกว้างให้ถอย

“พี่มีเรื่องจะถาม”

“ปล่อยเกรซก่อน แล้วเกรซจะตอบ” เธอเบือนหน้าไปทางอื่น เพราะตอนนี้รู้สึกถึงใบหน้าสากค่อย ๆ โน้มเข้ามาใกล้เหลือเกิน

“พี่ไม่ปล่อย จนกว่าเกรซจะตอบคำถามพี่มาก่อน”

“งั้นก็รีบ ๆ ถามมา”

“พี่แค่อยากรู้ว่าทำไมเกรซไม่เหมือนเดิม”

“พี่คินคิดมากแล้วค่ะ ปล่อยเกรซเถอะ” มือเรียวทุบลงอกแกร่ง

“แล้วทำไมถึงไม่เถียงพี่เหมือนทุกครั้ง เกรซเปลี่ยนไปนะ รู้ตัวหรือเปล่า”

“เกรซเปลี่ยนไปเหรอ พี่คินตั้งหาก!! ปล่อยค่ะ” กรรวีผลักอกแกร่งจนตนเองเป็นอิสระ

“อย่าพึ่งไปคุยกันให้รู้เรื่องก่อน” หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อชายหนุ่มคว้าแขนตนเอง

“ปล่อยค่ะพี่คิน เลิกยุ่งกับเกรซได้แล้ว เกรซเกลียดพี่คิน” คำพูดของคนตัวเล็ก เหมือนถูกน้ำกรดสาดเข้ามาโดนหัวใจ มันปวดร้าวเจ็บปวดไปทั้งใจ เพียงแค่ได้ยินเสียงหวานเอ่ยคำว่าเกลียดก็เท่านั้น

“ทำไมพูดแบบนี้”

“เกรซไม่อยาก...อุบ” เธอพูดไม่ทันจบก็ถูกปากหนาประกบเข้ากับปากอวบอิ่ม ลิ้นร้อนอุ่นพยายามจะแทรกเข้ากับโพรงปากสาว แต่เธอยังคงปิดมันสนิทไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้ในสิ่งที่ต้องการ

เสียงอู้อี้ดังในลำคอคนตัวเล็ก รู้สึกร้อนไปทั้งกายแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ คนไร้ประสบการณ์อย่างเธอไม่รู้จะรับมือกับคนตัวโตอย่างไรดีถึงจะหลุดพ้น

มือหนาเอื้อมมาบีบทรวงอกหญิงสาว หวังให้เธอยอมเผยอปากให้ตนเอง

“อื้อ อื้อ” เสียงครางต่ำในลำคอระหงในที่สุดคินสามารถแทรกลิ้นมาในปากคนตัวเล็กสำเร็จ สองลิ้นเกี่ยวพันไปมาต่างชิมหาความหวานซึ่งกันและกัน สำหรับอคินเขารู้สึกถึงความไร้เดียงสาของคนตัวเล็ก

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าตนเองกำลังจูบกับคนที่ไม่ควร กรรวีจึงเอื้อมมือมาผลักอกแกร่งพร้อมง้างมือตบคนตัวโต

เพียะ

ใบหน้าสากหันไปตามแรงกระแทกของฝ่ามือเรียว ก่อนจะหันกลับมา

“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ”

“ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับเกรซ ต่างคนต่างอยู่ อย่าเจอหน้ากันอีกเลย” กรรวีสาวเท้าวิ่งอย่างไวมือเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาบนใบหน้า เธอไม่อาจให้เขาได้เห็นถึงความอ่อนแอ ตอนนี้รู้แล้วว่าตนได้รักเขาไปทั้งใจ

“ดะเดี๋ยวสิ!!” ไม่ทันชายหนุ่มจะพูดจบ หญิงสาวก็หนีตนเองไปไกลเสียแล้ว

อคินยืนมองตามหลังคนตัวเล็กด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ รู้สึกผิดอย่างยิ่ง ทั้งที่พยายามจะหักห้ามใจแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างเรียกร้องให้เขาทำเช่นนั้นกับเธอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel