หลบหน้าหลบตา
หลังจากวันนั้นกรรวีพยายามหลบหน้าหลบตาอคิน ทำงานหามรุ่งหามค่ำแทบไม่มีเวลาให้คนในครอบครัว
“เกรซทำงานหนักไปหรือเปล่าช่วงนี้” ภูวดลเอ่ยถามน้องสาว หลังจากเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานหญิงสาว
“ช่วงนี้เกรซงานยุ่งนิดหน่อยค่ะ” เธอตอบพี่ชายในขณะยังคงสนใจเอกสารตรงหน้า
“งานยุ่งแน่นะหรือกำลังหลบหน้าใครหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะพี่ดล ดูสิงานเกรซเยอะขนาดนี้” เธอว่าพลางชี้เอกสารตรงหน้าตนเองให้พี่ชายดู
“พี่เชื่อก็ได้ เย็นนี้ก็อย่าลืมกลับทานข้าวเย็นด้วย คุณแม่บ่นนะ อยู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ แทบจะไม่ได้เจอยายตัวแสบอย่างเราเลย”
“ค่ะพี่ดล เย็นนี้เกรซจะรีบกลับบ้าน”
“อืม งั้นพี่ขอตัวก่อนน่ะ พี่มีประชุมต่อ”
“ค่ะ” เธอมองตามหลังภูวดลที่เดินออกไป ถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความอึดอัด
“ค่อย ๆ เดินนะครับแอนนี่ ระวังจะกระทบถึงลูก” อคินประคองร่างเมียสาวให้เดินอย่างระมัดระวังไปยังห้องนั่งเล่น
“ขี้บ่นจังเลยนะคะคิน”
“ก็ผมเป็นห่วงคุณกับลูกนี้ครับ”
“แอนนี่รู้ค่ะ”
“ค่อย ๆ นั่งนะครับ” เขาว่าพลางขณะกำลังประคองร่างเมียสาวให้นั่งลงยังโซฟา
“คินคะ แอนนี่มีเรื่องจะถามคุณสักเรื่องได้ไหม”
“ว่าไงครับ ถามผมกี่เรื่องก็ได้ ผมยินดี”
“เอ่อคือว่า...แอนนี่แค่อยากรู้ว่าผู้หญิงที่ไปรับเราที่สนามบินครั้งก่อน เธอเป็นใครเหรอคะ”
“อ๋อ ยายเกรซเหรอ เธอเป็นน้องสาวไอ้ดลครับ” ชายหนุ่มหลีกจะตอบว่าเธอเคยเป็นอดีตคู่หมั้นตนเอง ไม่อยากให้สาวตรงหน้าลำบากใจ
“แสดงว่าเธอก็มาที่นี่บ่อยใช่ไหมคะ”
“ใช่ครับ”
“คิน!!!” เสียงมารดาของชายหนุ่มแทรกดังขึ้น
“ว่าไงครับหม่ามี้” ชายหนุ่มเดินไปประคองมารดาให้มานั่งใกล้ตนเอง
“แม่ทำของบำรุงแอนนี่กับหลาน” แพรวาวางอาหารลงบนโต๊ะ
“ขอบคุณครับหม่ามี้”
“อืม...แล้วหนูแอนนี่เป็นไงบ้างปรับตัวได้ยัง” เธอหันไปถามลูกสะใภ้
“แอนนี่เริ่มคุ้นชินกับที่นี่บ้างแล้วค่ะ แต่ก็ยังรู้สึกเหงาในช่วงที่คินไปทำงาน คนที่นี่ไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่แอนนี่พูด”
“จริงด้วยสิ!! หม่ามี้ลืมไปเลยว่าหนูพูดไทยยังไม่คล่อง เอาอย่างนี้ วันว่าง ๆ หม่ามี้จะสอนหนูเอง”
“ขอบคุณค่ะหม่ามี้” เธอยกมือไหว้มารดาของชายหนุ่ม รู้สึกอบอุ่นหัวใจ เพราะคนตรงหน้าใจดีเหลือเกินจากตอนแรกที่นึกถึงภาพแม่ผัวกับลูกสะใภ้ไม่ถูกกัน
“ผมรักหม่ามี้ที่สุดเลย ขอบคุณนะครับที่เอ็นดูแอนนี่” อคินเข้าไปสวมกอดมารดาอย่างออดอ้อน
“ดูทำสิ!! มากอดหม่ามี้เหมือนเด็ก ๆ เลย ไม่อายหนูแอนนี่บ้างเหรอ”
“ไม่อายครับ เพราะหม่ามี้ของผมน่ารักที่สุดเลย” แพรวายิ้มอ่อนมองลูกชาย ก่อนจะนึกบางอย่างได้จึงเอ่ยถามลูกชาย
“จริงด้วยสิ!! จะถามคินหลายรอบล่ะ หนูเกรซหายไปไหนไม่มาที่บ้านนานแล้วนะ ปกติน้องมักจะที่นี่บ่อย ๆ”
“สงสัยจะงานยุ่ง วันมะรืนนี้ผมจะไปหาไอ้ดลที่บริษัทมัน เดี๋ยวจะบอกยายเกรซให้นะครับว่าหม่ามี้คิดถึง”
“จ๊ะ งั้นแม่ไม่รบกวนทั้งคู่แล้ว ขอตัวไปดูป๋าหน่อยละกัน”
“ครับ”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ไม่ทันเจ้าของห้องจะอนุญาต ประตูจึงเปิดขึ้นก่อนจะเผยให้เห็นใครคนหนึ่ง
“พี่คิน” เสียงหวานเอ่ยอย่างแผ่วเบาคาดไม่ถึงจะเป็นเขา
“ไงเกรซ ตกใจมากเหรอเห็นเป็นพี่”
“นิดหน่อยค่ะ ไม่คิดว่าจะเป็นพี่คิน มีอะไรหรือเปล่าถึงได้มาหาเกรซ” เธอรีบเปิดประเด็นทันที
“พี่แค่จะมาบอกว่าว่าง ๆ ไปเยี่ยมหม่ามี้พี่ที่บ้านด้วยนะครับ หม่ามี้บ่นคิดถึง”
“ค่ะ” อคินมองกรรวีนึกแปลกใจ ทำไมครั้งนี้เธอเงียบผิดปกติ เนื่องจากเขากับเธอเหมือนน้ำมันกับไฟ อยู่ใกล้กันมักคอยจะแผดเผากันตลอด หรือเพราะเขาไปเรียนต่างประเทศตั้งนาน หญิงสาวจึงไม่คุ้นชิน หากจะกล่าวอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ครั้งก่อนที่สนามบินคนตรงหน้าไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย หรือตนเองเผลอทำอะไรให้โกรธ
“เกรซโกรธอะไรพี่หรือเปล่า” ชายหนุ่มรีบถามทันที
กรรวีเงยหน้าจากเอกสารส่งยิ้มหวานอ่อน ๆ ตอบคนตัวโต
“เปล่าค่ะ”
“แต่พี่รู้สึกว่าเกรซแปลกไปนะ”
“เหรอ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เกรซแค่งานยุ่งเฉย ๆ” ชายหนุ่มเหลือบมองปฏิกิริยาหญิงสาว บัดนี้เธอก้มหน้าสนใจเอกสารตรงหน้าต่อ
“เกรซเที่ยงแล้ว ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อย” อคินเดินไปคว้าแขนเรียวให้เดินตามตนเอง โดยไม่ทันให้คนตัวเล็กได้ตั้งตัว
“ว้าย!! พี่คินปล่อยเกรซเดี๋ยวนี้” กรรวีตกใจเล็กน้อย จู่ ๆเขาก็จู่โจมเข้ามา หญิงสาวพยายามสลัดแขนให้หลุดจากมือหนา
ชายหนุ่มยอมคลายมือออกจากแขนเรียว แต่ยังคงจับไว้อยู่ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ
“ถ้าพี่ปล่อยแขน จะยอมไปกินข้าวกับพี่ไหม”
“ไปก็ได้”
“งั้นก็ตามมาพี่มีเรื่องจะคุยกับเราด้วย” กรรวียอมเดินตามหลังชายหนุ่มไปร้านอาหาร จังหวะนั้นคนตัวโตกำลังจะเปิดประตู จู่ ๆ เขาก็หยุดลงกะทันหัน ทำให้คนตัวเล็กชนเข้ากับแผ่นหลังแกร่งอย่างจังเสียหลักจนเกือบล้มลง โชคดีมือหนาคว้าเอวคอดเข้าสู่อ้อมกอดได้ทัน
บัดนี้ร่างบางตกอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโต สายตาจ้องมองประสานกัน หัวใจของกรรวีเต้นอย่างแรงไม่เป็นจังหวะ รู้สึกแทบจะปะทุออกจากอก
ยิ่งจ้องมองคนตัวเล็กนาน ๆ ส่วนลึก ๆ ของหัวใจก่อให้เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้น กระทั่งเกือบเผลอทำบางอย่างกับคนตัวเล็ก
“พี่คินคะ ปล่อยเกรซได้แล้ว” มือเรียวยกขึ้นมาดันอกแกร่ง เมื่อรู้สึกว่าคนตัวโตกำลังจะโน้มหน้ามาใกล้ปากอวบอิ่มตนเอง
“ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ไปกันเถอะ” ชายหนุ่มรีบปล่อยคนตัวเล็ก เขาจึงเดินออกจากห้องทันที
“ค่ะ” อคินเดินนำหน้ากรรวีออกมารอหน้าห้องทำงานหญิงสาว
‘ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน ทำไมมันถึงอยากจะจูบเธอ’ ชายหนุ่มคิดเพียงในใจ ขณะกำลังรอคนตัวเล็ก ก่อนจะตื่นจากภวังค์ได้ยินเสียงหวาน
“พี่คินไปกันเถอะ”
“อืม”
ณ ร้านอาหาร การตกแต่งเรียบง่าย ทว่าให้ความรู้สึกอบอุ่น
“พี่คินมีเรื่องอะไรจะคุยกับเกรซคะ” กรรวีถามขึ้นระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟ
“พี่แค่มีเรื่องจะรบกวนเกรซเท่านั้น ไม่แน่ใจจะช่วยพี่ได้ไหม” เขาพูดเสร็จชำเลืองมองคนตรงหน้า ทว่าเธอไม่ได้แสดงสีหน้าใด ๆ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอนึกแปลกใจจึงถามออกไป
“ไม่มีอะไรมากหรอก พี่แค่อยากจะขอร้องเกรซ ถ้าว่าง ๆ ไปหาแอนนี่บ้างนะครับ พี่สงสารเธอกลัวเธอจะเหงา”
“ค่ะ”
“น่ารักที่สุดเลย น้องสาวพี่คนนี้” มือหนาเอื้อมไปกุมมือเล็ก พร้อมส่งยิ้มหวานแก่หญิงสาว
คำพูดของคนตัวโตทำกรรวีรู้สึกเจ็บจี๊ดในหัวใจ ทำไมกันเพียงแค่เขาเอ่ยถึงผู้หญิงคนนั้น เธอก็เหมือนอยากจร้องไห้ หรือว่าตนเองจะเผลอรักเขาเข้าแล้ว
