2 สู่ขอ (4)
ถึงมิได้เกลียดชังแต่ก็มิได้มีใจปฏิพัทธ์ แค่อยู่ร่วมเคหาเดียวกับบุรุษผู้นี้ไม่กี่อึดใจก็สร้างความรู้สึกอึดอัดให้มากมายนัก แล้วนับประสาอันใดจะแต่งงานอยู่กินกับกัสซาไปตลอดชีวิตเล่า
แค่คิดชีวิตก็เหี่ยวเฉาซะแล้ว
“แต่ข้า... เอ่อ ยังไม่พร้อมนี่เจ้าคะ”
ปึ้ง!
“เหลวไหล!” หญิงชราตวาดพร้อมตบโต๊ะเสียงดัง ใบหน้าของท่านย่าญีร่าที่ซาเดน่าเห็นจึงเปื้อนความไม่พอใจ และไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันที หญิงสาวจึงหลบสายตาก้มหน้ามองมือตัวเอง
นางญีร่าค้อนคมมายังหลานสาวคนเล็กซึ่งเป็นหลานรักคนโปรดด้วยความไม่พอใจ “นี่คงเป็นข้ออ้างของเจ้ากระมัง ธรรมเนียมของหมู่บ้านเรา เด็กสาวของหมู่บ้านเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่อายุย่างสิบหกปีด้วยซ้ำ แล้วเจ้าล่ะ ปีนี้ย่างเข้าสิบแปดไปแล้ว ยังอ้างเหตุผลว่าไม่พร้อมอีกรึซาเดน่า?”
ผู้ถูกเอ่ยนามมีสีหน้าสลดไปเมื่อถูกผู้เป็นย่าตำหนิ “เอ่อ... แต่ข้ามิได้มีใจปฏิพัทธ์กับกัสซาแม้แต่น้อย ข้าเกรงว่าหากเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์กับกัสซาแล้ว ต่อไปในภายภาคหน้าอาจเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาได้”
“ปัญหาอันใดของเจ้า? ข้ามิเคยเห็นว่าสตรีนางไหนจะกล้ามีปัญหากับบุรุษผู้นำครอบครัว” นางญีร่าย่นคิ้วเข้าหากัน ดวงตาสีน้ำข้าวยังเต็มไปด้วยความไม่พอใจขณะมองหน้าหลานสาวจอมดื้อรั้น
“ก็... กัสซาทำให้ข้ารำคาญใจ”
นางญีร่าส่ายหน้าทันที “นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักต่างหาก... ความรักมักนำความว้าวุ่นใจมาให้เสมอ”
รอยยิ้มเปี่ยมด้วยความหวังของผู้สูงวัยซึ่งนาน ๆ จะได้เห็นสักครั้ง ทำเอาความกลุ้มใจงอกงามในหัวสมองของซาเดน่าเลยทีเดียว
ความรักงั้นเหรอ?
ซาเดน่าตั้งคำถามกับตัวเองอย่างดูแคลน ความรู้สึกที่ไม่อยากเข้าใกล้กัสซารุนแรงจนน่าตกใจ และที่แปลกก็คือนางจะรู้สึกหงุดหงิดตนเองทุกครั้งที่เจอหน้าเจ้ายักษ์นั่นจนอยากเอาค้อนทุบมือกัสซาซะ หรือไม่ก็หนีไปให้ไกลหูไกลตาเพราะรำคาญน้ำเสียงดังกังวานของกัสซา สิ่งเหล่านี้เรียกว่าความรักงั้นหรือ?
...เหตุใดความรู้สึกของนางถึงไม่สอดคล้องกับความรู้สึกของมีนาสหายรักที่มีให้กัสซาเลยเล่า
“ความรักของท่านย่าช่างพิลึกนัก”
นางญีร่าหัวเราะหึหึทันทีเมื่อหลานสาวเอ่ยถึงเรื่องนี้ “นี่แหละความรัก... ฟังความปรารถนาของข้าให้ดีนะซาเดน่า ข้าอยากเห็นเจ้าสุขสบายเหมือนซีร่า อาจฝืนใจเจ้าไปบ้าง แต่เจ้าจงเชื่อมั่นเถิดว่ากัสซาเป็นคนดี เขาเป็นบุรุษที่คู่ควรกับเจ้ามากที่สุด”
แม้มิเห็นด้วยสักน้อย แต่ซาเดน่าก็เอ่ยคัดค้านอะไรไม่ได้ นอกจากยอมรับเสียงอ่อยเท่านั้น “เจ้าค่ะ”
“ว่าง่ายอย่างนี้สิค่อยน่าเอ็นดู” นางญีร่าลูบศีรษะหลานสาวอย่างพึงพอใจ “เถอะ อย่าได้กังวลไปก่อนล่วงหน้าเลยหลานรักแห่งข้า ความรักจะงอกงามในหัวใจของเจ้าแน่นอน และข้านี่ล่ะจะทำให้เจ้ากลายเป็นเจ้าสาวที่งดงามที่สุดในหมู่บ้าน เจ้าว่าง่ายแบบนี้ข้าค่อยสบายใจหน่อย เอาล่ะหมดธุระของข้าแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ” มือบางเหี่ยวย่นตามกาลเวลาลูบศีรษะของหลานสาวเบา ๆ ก่อนใช้ไม้เท้ายันพื้นพาร่างค่อมซึ่งย่างเข้าสู่วัยชราให้ทรงตัวลุกขึ้นยืนโดยมีซาเดน่าช่วยประคองอยู่ข้าง ๆ อีกแรง
พอพาท่านย่าญีร่าไปส่งถึงห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ซาเดน่าจึงเดินคอตกกลับมายังห้องนอนของตัวเอง และเรื่องที่ท่านย่าญีร่าทิ้งไว้ให้นี่เองกลับทำให้ซาเดน่าไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ นี่คือเรื่องตลกร้ายที่ลิดรอนอิสรภาพของนางชัด ๆ ถึงดรุณีทั้งหลายต่างฝันใฝ่อยากเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์ให้คำมั่นต่อเทวีแสงจันทราเคียงคู่กับบุรุษผู้เป็นที่รักก็เถอะ
แต่ไม่สนุกเลยที่นางต้องเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์กับกัสซาด้วยวิธีมัดมือชก!
และด้วยกฎระเบียบอันเคร่งครัดที่ว่าเมื่อเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์กับบุรุษผู้ไหนแล้วจะต้องอยู่กินกับบุรุษผู้นั้นตราบสิ้นลมหายใจนี่เอง ซาเดน่าจึงปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าจะเข้าพิธีศักดิ์สิทธิ์คู่กับบุรุษผู้เป็นที่รักเท่านั้น แต่ด้วยยังหาบุรุษผู้ที่นางจะมอบความรักให้ไม่เจอนี่เอง ผู้ใหญ่จึงใช้วิธีคลุมถุงชนให้เสร็จสรรพ
