2 สู่ขอ (1)
ร่างแน่งน้อยในชุดพื้นเมืองสีสดใสสวมผ้าคลุมหน้ามิดชิดเหลือเพียงลูกตาสวยหวาน ก้าวผ่านโค้งประตูซึ่งห้อยด้วยลูกปัดหลากสีเข้ามาในห้องจัตุรัสสีทรายแสนงดงามซึ่งปูด้วยพรมลวดลายพิสดาร และเต็มไปด้วยงานไม้แกะสลัก... เท่านั้นบทสนทนาระหว่างบุรุษหนุ่มร่างใหญ่โต และสตรีสูงวัยจึงยุติชั่วขณะ
แขกผู้มาเยือนละสายตาจากหญิงชราทันที พอหันมาเห็นหญิงสาวในชุดพื้นเมืองสีอ่อนของคุณหนูซาเดน่าเข้า กัสซาจึงยิ้มกว้างออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจเมื่อได้พบนางงามผู้เลอโฉม
“ซาเดน่า” กัสซายิ้มค้างขณะเอ่ยนามของหญิงสาวที่ถูกกล่าวขานว่างดงามที่สุดในหมู่บ้าน
ดวงตาคมและวาววับของบุรุษหนุ่มมิสามารถลดละไปจากดวงตางดงามหวานประหนึ่งน้ำผึ้งที่อยู่เหนือผืนผ้าสักนิด พร้อมทั้งขยับตัวบนเบาะนุ่มสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อแบ่งที่นั่งเพื่อให้นางงามมาทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ
“มาสิ มานั่งตรงนี้” กัสซาเอ่ยชวนขณะที่สายตายังจ้องสตรีตรงหน้าตาไม่กะพริบ
แต่ก็เปล่าเลย...
ยูนุกซาเดซึ่งรับหน้าที่แทนซาเดน่าเพียงช้อนตามองอย่างเอียงอาย ค้อมศีรษะให้กัสซาแทนคำทักทายตามมารยาท แล้วเดินมาทิ้งตัวนั่งบนเบาะนุ่มในฝั่งตรงข้ามกับบุรุษร่างยักษ์แทน
กิริยานี้เองที่สร้างความพึงพอใจให้กับผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นว่าซาเดน่ามิได้เพิกเฉย หรือแสดงกิริยากระด้างกระเดื่องต่อกัสซาอีกต่อไป และกิริยาเขินอายดั่งดรุณีแรกรุ่นเพิ่งริรักนี้เอง ก็ทำให้นางญีร่าผู้เป็นย่าเข้าใจผิด คิดว่าซาเดน่าเริ่มมีใจปฏิพัทธ์กับกัสซาบ้างแล้ว
“ข้ายินดีเหลือเกินซาเดน่าที่เจ้ายอมพบหน้าข้าแล้ว” กัสซากล่าวอย่างตื่นเต้นดีใจ
มีเหงื่อเกาะใบหน้าคมเข้ม มือไม้นั้นแทบกลายเป็นสิ่งเกะกะเมื่อไม่รู้ว่าจะเอาไปไว้ตรงไหนดี ก็วันนี้นางงามที่เขาปรารถนาร่วมเรียงเคียงหมอนมีกิริยาท่าทางที่แปลกไปจากเดิมมาก จากที่ไม่เคยมองหน้ากัน หรือเฉียดใกล้ แต่วันนี้นางกลับปฏิบัติเช่นนั้น แล้วดูดวงตากลมโตหวานประหนึ่งน้ำผึ้งที่ขยันมองเขาเถอะ... สบด้วยแล้วรู้สึกหวั่นไหวพิลึกจนแทบทำอันใดไม่ถูกเลยเชียว
ยูนุกซาเดที่จงใจสบสายตาด้วยเอามือปิดปากหัวเราะกับกิริยานั้น พอหันมาทางท่านย่าญีร่าซึ่งหรี่ตามองด้วยสายตาพึงพอใจ ยูนุกรูปงามจึงต้องขยับตัวนั่งหลังตรงอย่างสง่างามตามแบบที่ซาเดน่าชอบปฏิบัติ
“แสดงว่างานแกะสลักของเจ้าเสร็จแล้ว เจ้าถึงยอมออกมาพบท่านกัสซา”
“ก็... อะแฮ่ม” ซาเดกระแอมพร้อมดัดน้ำเสียงของตัวเองให้เล็กลง “ยังไม่เรียบร้อยเจ้าค่ะ ข้าแค่อยากพักเมื่อยจึงมาอยู่เป็นเพื่อนคุยกับท่านย่า”
ซาเดสนทนาได้อย่างราบรื่น เนื่องจากเขากระทำสิ่งนี้บ่อยเพราะต้องเล่านิทานแสนสนุกให้หลานตัวน้อยของท่านชีคอับดุล ฮาเหม็ดฟังเสมอ นี่เองจึงไม่เป็นที่ผิดสังเกต ตัวกัสซาเองก็เช่นกันที่จับความผิดปกติเหล่านี้มิได้ นอกจากยิ้มหน้าระรื่นจนหุบไม่ลงเลยเชียวเมื่อซาเดน่ายอมสนทนาด้วยเช่นนี้
รอยยิ้มระรื่นของบุรุษนี้เองทำให้ซาเดน่าตัวจริงซึ่งแอบอยู่หลังโค้งประตูเพื่อดูสถานการณ์พลอยโล่งใจไปด้วย พอทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่นนางจึงสบายใจหายห่วง เรื่องกังวลว่าท่านย่าญีร่าจะจับได้นั้นดูว่าจะหายไปทันทีเมื่อซาเดวางตัวเป็นสตรีได้งดงามไม่มีพิรุธจนน่าทึ่ง
“เข้าใจประจบคนแก่ดี แต่ข้าไม่ต้องการเพื่อนคุยมากกว่าท่านกัสซาหรอก”
ซาเดปรายตาอย่างมีจริตไปมองบุรุษหนุ่มตรงหน้าที่เก้ ๆ กัง ๆ วางตัวไม่ถูก เห็นกิริยานั้นแล้ว ซาเดจึงยิ้มกริ่มอย่างพอใจเมื่อเห็นถึงเรื่องสนุกที่จะแกล้งคนเล่น
“จริงอย่างที่ท่านย่ากล่าวหรือไม่กัสซา”
“เอ่อ ข้า...”
“เป็นบุรุษผู้กล้ามิควรอ้ำอึ้ง ว่าแต่เจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอันใด?” ซาเดแกล้งทักท้วงก่อนกวาดสายตาพิจารณาบุรุษเบื้องหน้าอย่างจริงจัง
ซาเดบอกตัวเองเลยว่าหากเขาเป็นสตรีในหมู่บ้านคงปรารถนาและคลั่งไคล้บุรุษกล้ามโต อกผายไหล่ผึ่ง เสียงดังฟังชัดรายนี้เช่นกัน แต่ด้วยประสบการณ์จากการรับใช้งานในราชสำนักเนราเซียมานาน
