ตอนที่4.
หญิงสาวถาม ท่ามกลางเสียงฝนที่ดังกระหึ่มอยู่รอบตัว
“ผมชื่อคาลิด แล้วคุณล่ะ” เขาตอบกลับมา
“เมธาวีค่ะ”
“คุณไม่ใช่คนที่นี่ เป็นนักท่องเที่ยวหรือครับ”
“จะเรียกอย่างนั้นก็ได้” น้ำเสียงเธอสั่นเพราะความหนาวเล่นงาน “ฉันเป็นคนไทยมาจากประเทศไทย คุณรู้จักไหมคะ”
หญิงสาวดึงผ้าห่มให้กระชับตัวยิ่งขึ้น ความหนาวสั่นค่อยๆจางหายไป
“รู้จักครับ” น้ำเสียงของเขาเรียบสนิท แล้วจู่ๆเธอก็สงสัยว่าชายผู้นี้ใช้เวลาในการทำกิจกรรมอะไรบ้างในชีวิตประจำวัน
คาลิดมองแต่ถนนข้างหน้า ขณะขับรถไปท่ามกลางอากาศที่เลวร้าย เขาทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธอกำลังช็อก และร่างกายอยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป
หกกิโลเมตรก็จริง...ทว่ามันไกลเกินไปสำหรับสภาพอากาศที่เลวร้ายในเวลานี้ ชายหนุ่มจึงไม่ยอมเสี่ยง เขาตัดสินใจขับรถมุ่งหน้าไปที่ทัลลาวันตา
ผู้หญิงคนนี้ยังคงเป็นปริศนา ไม่มีรถยนต์ของเธอจอดอยู่ในละแวกนี้ และเขาก็มองไม่เห็นชุดที่สวมอยู่ภายใต้เสื้อกันฝนด้วยช่วงขาที่ยาวภายใต้ชุดคลุมนั้นดึงความสนใจของเขาได้ และรองเท้าส้นสูงที่เธอหิ้วติดมือมานั้น ก็เป็นรองเท้าสำหรับเต้นรำในเวลากลางคืนหรือออกเดทกับผู้ชาย
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ หรือมีผู้ชายบางคนทำร้ายเธอ
ทั้งที่ความสูงของเธออยู่ในระดับไหล่ของเขา แต่ก็มีบางอย่างที่บอกว่า ‘บอบบาง’ ในตัวสตรีผู้นี้ ดวงตาของเธอกลมโตบนผิวหน้าที่มีสีเหมือนกับน้ำนม ลำคอของเธอที่เห็นเมื่ออยู่ท่ามกลางสายฝนนั้นเรียวระหง
เธอคงไม่ได้วางแผนที่จะมาพบกับทายาทผู้สืบทอดบัลลังก์ของชาเจฮาร์หรอก คาลิดรับรู้ได้
ชายหนุ่มเหลือบไปมองเธอที่ห่อตัวอยู่ภายใต้ผ้าขนสัตว์ตาหมากรุก หญิงสาวหลับตาเอนศีรษะพิงเข้ากับเบาะรถ เธอดูอ่อนแอและป้องกันตัวเองไม่ได้เลย แต่ใจคอของสตรีผู้นี้คงหนักแน่นพอที่จะเดินออกมาข้างนอกเพียงลำพังในสภาพอากาศเช่นนี้ ผู้หญิงคนนี้ มีหลายอย่างที่ปนเปเข้าด้วยกัน ชวนให้เขาอยากรู้ ความรู้สึกแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับเขามานานแล้ว
คืนนี้ ชายหนุ่มรู้สึกพอใจเป็นอย่างยิ่ง
เขาไม่มีองครักษ์ที่คอยติดตาม รวมทั้งเจ้าบ้านที่คอยประจบสอพลอ เขาสามารถทำในสิ่งที่ตนต้องการตามสัญชาติญาณของเขาเอง เขาเบื่อการอารักขาที่เข้มงวดบนผืนดินอันกว้างใหญ่ เขายืนกรานที่จะออกมาเพียงลำพังในเขตแดนนี้ด้วยความปลอดภัย บางทีหัวหน้าองครักษ์ของเขาเองก็คงจะรู้เหมือนกันว่า จะเป็นการฉลาดกว่า ถ้าหากจะมีเนื้อที่ให้เขาได้หายใจหายคอบ้าง
หกสัปดาห์ที่คาลิดจะต้องตระเวนทั่วทั้งอเมริกาและออสเตรเลียกับลูกพี่ลูกน้อง แต่เขาไม่ได้ไปงานที่หรูหรากับฟารุคด้วย เมื่อทายาทตัวจริงป่วยหนัก คาลิดก็มีองครักษ์คอยติดตามราวหนึ่งกองทัพ ขนาดของมันเป็นสิ่งที่ฟารุคต้องการจะโอ้อวดมากกว่าที่จะให้เกรงขาม แล้วยังตารางงานสังคมที่ยาวเหยียดทุกวัน
การที่ต้องผูกติดอยู่กับสังคม เขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้ หากว่าจะได้ใช้เวลาอยู่กับโครงการใหม่ล่าสุดของตัวเอง ท่อน้ำที่ต่อจากภูเขาที่อยู่ห่างไกลชาเจฮาร์ อย่างน้อยที่สุด สิ่งนั้นจะนำมาซึ่งประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชนของเขามากกว่า
แสงสว่างสาดไปข้างหน้าท่ามกลางความมืดมิด ความเครียดที่ไหล่และแขนของเขาคลายไป เมื่อเขาพาเธอเข้าไปข้างในที่ๆมีแสงสว่างและความอบอุ่นแล้ว เขาก็จะได้รู้ว่าหญิงสาวผู้นี้ได้รับบาดเจ็บที่ไหนบ้างหรือเปล่า และจะเรียกหมอได้-หากว่าจำเป็น
ชายหนุ่มขับรถตรงเข้าจอดตรงตึกที่เป็นที่พักส่วนตัวของเขา
“เอาล่ะ ถึงแล้ว” เขาพูด ก่อนหันไปมองเร่างบอบบางของเธอที่ยังไม่ไหวติง ชายหนุ่มเอื้อมมือไปแตะตัวเธอเบาๆ แล้วเลื่อนมือแตะแก้มที่เย็นจัดของเธอ
“คุณ...”
เสียงนั้นอีกแล้ว...ช่างอบอุ่นเหมือนกับจะยั่วเย้า แต่ก็มีจังหวะอยู่ในที เธอยิ้มกับตัวเอง เมื่อนึกภาพเจ้าชายต่างประเทศในชุดคลุมถือดาบที่โค้งงอเป็นประกายในมือ
