ด้านในกำไลมีอันใด
แสงสว่างปรากฏขึ้นรอบกำไลของซุนเหยา นางอ้าปากค้างมองอย่างตกตะลึง นางไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับนางอีก
มือของนางยังจับอยู่ที่กำไล ภาพโกดัง พร้อมทั้งของในวันที่นางไปตรวจสอบสินค้า ปรากฏขึ้นในหัวของนางอย่างชัดเจน
“พระเจ้า” ซุนเหยาอุทานออกมา
หากเป็นอย่างที่นางคิด กำไลที่นางสวมอยู่คงเป็นช่องเก็บของเช่นที่นางเคยอ่านในนิยายอย่างแน่นอน
ซุนเหยานางจึงลองเรียกของออกมา เพื่อตรวจดูว่าเป็นอย่างที่นางคิดหรือไม่
“น้ำตาลทราย เฮ้ยยย” ซุนเหยาร้องออกมาเสียงดัง เสี่ยวกุ้ยที่อยู่ด้านนอกจึงได้เข้ามาดู ยังดีที่ซุนเหยานางเก็บเข้าไปก่อนที่เสี่ยวกุ้ยจะเข้ามาเห็น
“ฮูหยินเป็นอันใดเจ้าคะ” นางเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอันใด เจ้าทำสิ่งใดอยู่ก็ไปทำเถิด” ซุนเหยาโบกมือไล่เสี่ยวกุ้ยให้ออกไป
เมื่อเห็นเสี่ยวกุ้ยออกไปแล้ว ซุนเหมยนางก็เริ่มจะลองเรียกของออกมาอีกครั้ง เมื่อลองสัมผัสที่กำไลข้อมือ นางก็จะเห็นข้าวของที่อยู่ด้านใน
ไม่ว่านางจะเอาสิ่งใดออกมา ด้านในชั้นวางของที่นางเห็นก็จะมีอยู่เท่าเดิมไม่ลดลง ซุนเหยานางจึงเข้าไปในห้องเก็บสินเดิมของนาง และลองนำของเก็บเข้าช่องในกำไล ของตรงหน้าก็หายไปและปรากฏอยู่ด้านในแทน เมื่อนำออกมาด้านนอกของด้านในกำไลก็หายไป
นางจึงได้รู้ว่าหากเป็นของที่นางนำเข้าไปใหม่ ย่อมไม่อาจเพิ่มจำนวนได้ ซุนเหยานางนำของเก็บไว้อย่างเดิมยังไม่เก็บเข้าไปด้านใน และออกไปจัดการเรื่องรายการอาหารอย่างสบายใจ
เมื่อครบสองวันตามที่บอกกล่าวกับทุกคนที่ร้านแล้ว ซุนเหยานางก็เดินทางไปที่ร้านของนาง ส่วนด้านหน้ายังไม่เรียบร้อย แต่ก็มีคนงานคอยดูแลอยู่
ซุนเหยาถูกพาไปที่ด้านหลังร้าน นางเห็นทาสที่ซื้อมาทั้งหมดยืนรอพร้อมหน้ากันแล้ว ก็เริ่มให้ทุกคนแนะนำตัว
“ฮูหยิน รบกวนท่านตั้งนามให้พวกข้าน้อยขอรับ”
“เอ่อ หลงจู๊หมานท่านให้ทุกคนด้วย อ้อ แล้วต่อไปเรียกข้าว่านายหญิงไม่ต้องเรียกว่าฮูหยิน”
ซุนหยานนางเดินไปนั่งรอ เพื่อให้พวกเขาได้คิดชื่อกันเอง เมื่อเรียบร้อยแล้ว นางก็พาป้าจิน ลุงตง ลุงจาง ไปที่ครัว เพื่อให้พวกเขาได้ลองอาหารออกมาให้นางได้ลองชิม
ทั้งสามคน ซุนหยานนางให้พวกเขาเลือกผู้ช่วยเพื่อหยิบจับสิ่งของไปคนละหนึ่งคน เพียงหนึ่งเค่อทั้งสามก็ยกอาหารมาวางตรงหน้านาง
ซุนเหยาอดยอมรับไม่ได้ว่า อาหารที่พวกเขาทำออกมา แม้ไม่มีเครื่องปรุงของนางก็นับยังดีกว่าที่จวนตระกูลจ้าวกับตระกูลซูเสียอีก
ซุนเหยาพยักหน้าให้เสี่ยวกุ้ย เพื่อให้นางพาคนไปนำเครื่องปรุงที่ซุนเหยานางเตรียมมาจากรถม้าขนลงมาไว้ในครัว
“ข้าเขียนชื่อติดไว้ที่ไหแล้ว พวกท่านต้องจำให้ขึ้นใจ ว่าเครื่องปรุงแต่ละอย่างคืออันใด”
ทั้งหกคนที่อยู่ภายในครัวต่างจ้องมองไหหลายสิบใบตรงหน้าอย่างตกตะลึง เกิดมาก็เพิ่งเคยพบเครื่องปรุงที่มีมากมายเพียงนี้
“พวกท่านจะได้เครื่องปรุงคนละหนึ่งชุด ไม่ต้องใช้ร่วมกัน” ซุนเหยานางให้พวกเขาแบ่งพื้นที่ด้านในด้วยตนเอง ทั้งสามล้วนแต่ถนัดคนละอย่าง เรื่องนี้จึงนับว่าไม่ยากนัก
ซุนเหยาสอนให้รู้จักเครื่องปรุงแต่ละอย่างแล้ว ก็ให้พวกเขาทำอาหารแบบเดิมออกมาอีกครั้ง
ดวงตาของซุนเหยาเปล่งประกายอย่างพอใจ เมื่อได้ชิมอาหารทั้งสามจาน
“พวกท่านลองชิมดู” นางเลื่อนจานไปตรงหน้าพวกเขา
“เป็นไปได้อย่างไร”
“อร่อยมาก”
ทั้งหกคนล้วนแต่แปลกใจ เพียงแค่ใส่เครื่องปรุงที่นายหญิงให้ ตามปริมาณที่นายหญิงบอก ไม่น่าเชื่อว่าอาหารอย่างเดียวกันรสชาติ จะต่างกันมากเพียงนี้
“นี่คือความลับของร้านเรา หากผู้ใดกล้านำเรื่องนี้ออกไปพูดด้านนอก ข้ารับรองว่าพวกเจ้าจะอยู่ไม่สู้ตาย” ดวงตาของซุนเหยามองไปที่ทุกคน
ทาสทั้งสิบห้าคนต่างคุกเข่าลงกับพื้น ไม่มีผู้ใดคิดจะทรยศนายหญิงของตน เพียงวันแรกที่ถูกซื้อตัวมา ทุกคนก็ได้มีอาหารที่ดีกิน มีเสื้อผ้า ผ้าห่มได้ใช้ แล้วซุนเหยานางยังรับปากเรื่องจะให้เงินเดือนทุกคนอีกด้วย
“ข้อน้อยสาบานขอรับ/เจ้าค่ะ”
“หากพวกเจ้าทำดี ข้าย่อมตอบแทนอย่างสมน้ำสมเนื้อ”
ซุนเหยายังทิ้งรายการอาหารให้พวกเขาคนละห้าอย่างเพื่อฝึกฝีมือ ก่อนที่ร้านจะเปิด หมูตุ๋นน้ำแดง ไก่แช่เหล้า เป็ดตุ๋นเกาลัด หรือแม้แต่พระกระโดดกำแพง พวกนี้จะเป็นรายการแนะนำของเหลาอาหารนาง
วิธีการทำทั้งหมด ซุนเหยานางเขียนจนละเอียด พร้อมทั้งยังให้พวกเขาสอบถามนางก่อนที่จะลงมือทำ เมื่อนางอธิบายเพียงเล็กน้อย คนที่เคยทำงานเหลาอาหารมานานย่อมเข้าใจได้ในทันที
“หลงจู๊หมาน ท่านสั่งทำป้ายร้านด้วยเจ้าค่ะ”
