19
หญิงสาวกวาดตามองภายในห้องน้ำ ยังดีที่มี ผ้าขนหนูสีขาวสะอาดพับวางอยู่บนชั้นหนึ่งผืน หล่อนจึงเอามาซับผมแบบลวก ๆ แล้วก็กระโจมอกออกมา ดีกว่าให้ใส่เสื้อผ้าเก่าที่ถอดแล้วหน่อย
ใบหม่อนค่อย ๆ โผล่หน้าออกมา มองซ้าย มองขวา ไม่เห็นใคร ค่อยโล่งใจ ถึงแม้หล่อนกับสามีจะอยู่ด้วยกันหลายวันแล้ว แต่หล่อนก็ยังไม่ชินที่จะให้เขาเห็นในสภาพนุ่งกระโจมอก ก็คนมันเขินนี่นา ยังดีที่เขาไม่เอาเรื่องเมื่อคืนที่หล่อนอ่อยเขาขึ้นมาพูดให้ได้อาย ....ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงได้ใจกล้าขนาดนั้น...เพราะหึงเพราะหวง จนต้องเอาตัวเข้าแลกเพื่อผูกมัดเขาเนี่ยนะ....เวรกรรมจริง ๆ ใบหม่อนเอ้ย......
หญิงสาวนั่งเป่าผมที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่มีอุปกรณ์พร้อมสรรพ ดูแล้วห้องนี้ก็น่าจะเป็นห้องของพี่ตะวันนั่นแหละ แต่ที่แปลกใจ คือมีไดร์เป่าผมด้วยแถมมันยังวางอยู่ในตำแหน่งพร้อมใช้งานอีกต่างหาก ไม่ต้องค้นหาให้เหนื่อย สงสัยพี่ตะวันเพิ่งจะเอามาวางไว้ให้ ...คิดอย่างนั้นแล้วก็อดยิ้มปลื้มกับความน่ารักของผู้เป็นสามีไม่ได้
กระดาษแผ่นโตแปะอยู่ที่กระจก......พักผ่อนตามสบาย เย็น ๆ เจอกันนะครับ..... ใบหม่อนยิ้มบาง ๆ กับตัวเอง ความรู้สึกโดดเดี่ยวตั้งแต่สูญเสียมารดาและความน้อยใจบิดาที่มีครอบครัวใหม่ มันจางหายจากใจตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ตอนนี้มีแต่ความอุ่นใจเข้ามาแทนที่
หลังจากเป่าผมเรียบร้อย ใบหม่อนเลือกเอาเสื้อตัวโคร่งของสามีมาใส่ แก้ขัด ก่อนจะสอดตัวเข้าภายใต้ผ้าห่มนุ่ม บนเตียงกว้าง และหลับไปอย่างรวดเร็ว
ตะวันลงมาโทรศัพท์หาเพื่อนรัก ผู้กองพีระ นายตำรวจหนุ่ม ที่โทรมาหลายสาย น่าจะมีเรื่องด่วน พอดีเขาติดธุระอยู่กับแม่ตัวยุ่ง เลยไม่ได้รับสาย
“ไงเพื่อน ตั้งแต่มีเมีย เพื่อนฝูงโทรมา ไม่ว่างรับสายเลยนะมึง” ผู้กองหนุ่มเปิดฉากต่อว่า
“เออ...มีอะไรว่ามา...บ่นอย่างกับหึงหวง กูงั้นแหละ”
“ปลูกกาแฟอย่างเดียวกำไรไม่พอหรือไง ถึงต้องหันมาค้ายาเสพติดด้วย” ผู้กองพีระแกล้งอำเพื่อน
“ไอ้ผู้กองปากหมา...หาคุกมาให้กูแล้วไง”
“เออ...กูล้อเล่น”
“มึงอย่าล้อเล่นแบบนี้บ่อย ๆ เมียกูยังสาวเว้ย”
“เกี่ยวไรวะ”
“ไม่พร้อมติดคุกไง...เดี๋ยวเมียเหงา”
“เฮ้อ...เป็นเอามากว่ะ”
“อ่ะ..โทรมามีอะไรกันแน่ ว่ามาอย่าโยกโย้”
“คืออย่างนี้ ทางเรากำลังสืบเส้นทางของยาเสพติด ที่ระบาดเข้ามาในในกลุ่มไฮโซที่เรากำลังจับตาเป็นพิเศษ เท่าที่รู้ มีนักศึกษาเป็นตัวกลางเอามาปล่อย ที่สำคัญมีการติดต่อกับคนที่ดอย แต่ยังไม่ชัดกำลังตามอยู่ เผื่อนายจะมีเบาะแส” ผู้กองหนุ่มพูดเป็นงานเป็นการ
“ทำไมถึงคิดว่ากูจะรู้”
“เมื่อเร็ว ๆ นี้มีคนตายที่ไร่มึงใช่ไหม” ผู้กองพีระถามกลับ
“เออ..แล้วไง”
“คนงานมึง?”
“ใช่...มึงอย่าบอกนะว่า..เกี่ยวข้อง” ตะวันหน้าเครียดขึ้นทันที
“แค่ผู้ต้องสงสัย ว่ะ เสียดายมันรีบตายซะก่อน”
“เออ....กูก็กำลังตามสืบอยู่จริง ๆ เมียคนงานที่ตายนัดจะบอกอะไรบางอย่างกับกู แล้วจู่ ๆ ก็เปลี่ยนใจหนีหายไป เลยยังไม่ได้ข้อมูลอะไร” ตะวันบอกตามตรง
“อืม ไว้ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดีไหมวะ” ผู้กองพีระว่า
“หืม....ไอ้นี่”
“เอาเป็นว่ามึงให้ความสะดวกน้องเขา ช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็พอ” ผู้กองพีระสรุป
“เดี๋ยว... มึงพูดเรื่องอะไร ช่วยเหลือใคร น้องที่ไหน” ตะวันเกาหัวแกรก เหมือนคุยกันคนละเรื่อง
“เออโทษทีว่ะ...พอดีหมวดริน กำลังเดินทางไปสมัครเป็นคนงานที่ไร่มึง กูฝากน้องเขาด้วยก็แล้วกัน เย็น ๆ คงจะถึง”
“หมวดริน...ผู้หญิงใช่ไหม...นี่มึงมีพิรุธนะเนี่ย”
“เออ..ก็อย่างที่มึงคิดนั่นแหละ กูฝากดูแลด้วย” ผู้กองพีระหน้าเข้มขึ้น สุ้มเสียงไม่ปกติ ผู้ชายก็เขินเป็นเหมือนกันนี่หว่า
“กูจะดูแลให้อย่างดีเลย พามานอนที่บ้านด้วยกันเลยก็ได้ พอดีช่วงนี้ เมียกูมาอยู่กับแม่ที่เชียงใหม่ ห้องนอนเลยว่าง” ตะวันแกล้งยั่วเพื่อน
“เฮ้ย ! อย่าแม้แต่จะคิดนะเว้ย” ผู้กองหนุ่มโวยวายมาตามสาย
“.........555...........” ตะวันหัวเราะชอบใจ ที่เสือหนุ่มกำลังจะสิ้นลาย
ชายหนุ่มขึ้นไปบนห้องนอนอีกครั้ง ใบหม่อนยังหลับสนิทอย่างสบายอารมณ์ เขาเพ่งมองใบหน้าอ่อนใสนั้น แทบไม่อยากห่างไปไหนเลย อดไม่ได้ที่ก้มลงจูบหน้าผากนูนเกลี้ยงนั้น ก่อนจะถอยออกไปเงียบ ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาตั้งใจจะกลับพรุ่งนี้ด้วยซ้ำ ตะวันโทรหามารดา บอกว่ามีธุระด่วนที่ไร่ ฝากฝังใบหม่อนไว้กับท่าน เรียบร้อยแล้วก็รีบมุ่งหน้ากลับไร่ทันที
